ปัญหาชีวิตวัยรุ่น23

สวัสดีค่ะ ขอระบายความรู้สึกนิดหน่อย ไม่มีที่ระบาย
1.เราทำงานมาได้2-3ปี ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย
ทำงานบางครั้งท้อมาก หาเงินนี่เหนื่อยจริงๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มันมีความรู้ที่จะระบายเหมือนมีอะไรในใจที่อยากจะพูดออกมา แต่เราก็ไม่รู้จะบอกจะบ่นให้ใครฟัง มีคนหนึ่งที่เรานึกถึงได้คือแม่
เราเล่าให้แม่ฟัง แม่จะบอกว่าเพราะเรียนด้วยทำงานด้วย และเราใช้เงินไม่เป็นเรื่อง เอาเงินไปทิ้งกับการเรียน กับการเรียนภาษา นั่งเครื่องบินไปๆมาๆ ไม่หัดนั่งรถทัวร์ แต่ช่วงที่เรานั่งก็เป็นช่วงที่เครื่องบินกับรถทัวร์ราคาต่างกัน แค่100-200

2.ที่เราเรียน ค่าใช้จ่ายช่วงเราทำงานไม่ได้ ประมาณ2แสน เราก็หามาคืนให้ครบ แต่แม่ไม่เคยเอามาพูดถึง หาว่าเราใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไปเที่ยวนู้นนี่ ทั้งที่เราได้ไปเที่ยวแค่1ครั้งที่ได้ไปทะเล ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวประมาณ1หมื่นเพราะไป2-3คืน

3.เราไม่ชอบคุยกับพ่อ เพราะพ่อพูดไม่รู้เรื่อง เอาแต่สอน เอาแต่บอกให้ประหยัดเงินให้ซื้ออะไรกินถูกๆ แต่ที่กินอยู่ก็ถูกอยู่แล้ว ชอบมาบอกเราว่าตายายรักหลานคนอื่นๆไม่รักเรา และเราไม่ชอบนิสัยพ่อด้วย เพราะพ่อเอาแต่บ่นเอาแต่ว่า พี่น้องของแม่ หลานๆของแม่ ว่านิสัยไม่ดี แต่พ่อไม่ดูตัวเอง ไม่หันไปมองฝั่งตัวเอง ว่าพี่น้องพ่อก็นิสัยไม่ดี ชอบหาเรื่องเดือดร้อนมาให้พ่อกับแม่เรา พี่น้องฝั่งแม่สำหรับเราเขาดีมาก ไม่เคยดุไม่เคยด่าไม่เคยดูถูก มีแต่คอยให้กำลังใจเรา แต่ฝั่งพ่อเอาแต่ดูถูกเรา ว่าฐานะครอบครัวจน และเรียนไปก็เท่านั้นแหล่ะ ไร้ความสามารถ จนแล้วทำไมถึงเรียน แต่เหมือนพ่อไม่เคยได้ยินที่พี่น้องตัวเอง ว่าลูกของเขา

4.พ่อแม่ของพ่อเสียตั้งแต่น้องๆพ่อเป็นหนุ่มสาวทำงานยังไม่ได้หาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ คนที่ดูแลเขาคือพ่อกับแม่เรา โตแล้วพอที่จะช่วยงานพ่อแม่เราได้ ก็ไม่เคยทำ เอาแต่ขอเงินไปเรียนนู้นเรียนนี่ พ่อแม่ก็ไม่เคยว่า พอวันหนึ่งไม่อยากเรียนแล้ว ก็ลาออกจากโรงเรียน แล้วไปทำงาน พอได้เงินมาก็บอกจะแต่งงาน พ่อแม่เราก็ต้องช่วยจัดงานแต่งให้เขา แล้วทั้ง2คนแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ก็ย้ายไปอยู่กับครอบครัว  

5.พี่น้องพ่อ น้องสาวพ่อ มีครั้งหนึ่งเราต้องไปเรียนไกลบ้านแต่พ่อแม่ไม่มีเงิน พ่อแม่รู้ว่าเขามีเงิน พ่อแม่ขอยืม เขาก็ไม่ให้ยืม เพราะคิดว่าจะไม่ได้คืน สุดท้ายต้องยืมตากับยาย แต่คนที่ใช้คืน คือหนูนี้แหล่ะ แล้วตอนที่น้องสาวไม่สบาย หรือ คลอดลูก คนที่เขาโทรมาคือพ่อแม่เราให้พาไปส่ง
น้องชายพ่อ แต่งงานมีลูกกับคนหลายคน มีครอบครัวด้วย2-3ครอบครัว เวลาไม่มีที่ไป พ่อแม่ก็เอากลับมาอยู่บ้านตลอด เวลามีปัญหาก็ช่วยตลอด บอกว่าสงสาร แล้วเราล่ะ พ่อแม่ไม่เคยพูดเลยว่าสงสารเรา 

6.ตอนนี้เรากลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัวไปแล้ว 
น้องชายพ่อ ไม่มีที่ไป และไม่สบาย จะกลับมาอยู่กับพ่อแม่เรา พ่อแม่ถามเราว่าไม่สงสารเขาหรอ เราก็บอกว่า เขาแก่แล้วนะ เขามีครอบครัวแล้ว ให้เราจัดการกับปัญหาชีวิตเอง เราอย่าไปยุ่ง พ่อแม่บอก แต่เขาไม่มีที่ไปนะ น่าสงสารนะ แล้วเราก็บอกแม่ว่า ตอนแรกก็สงสารอยู่หรอก แต่ชีวิตหนูน่าสงสารเหมือนกัน พ่อแม่เคยสงสารหนูบ้างไหม 

7.ไม่อยากกลับบ้าน เพราะกลับบ้าน กลับไปนอนที่บ้านก็ไม่ต่างอะไรจากห้องเช่า เพราะเป็นบ้านของพ่อแม่ แม่จะบอกว่าทำไมไม่ขับมอไซค์ ขับรถ เราบอกแม่ว่าไม่ใช่ของหนู แม่บอกว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ เราก็ตอบว่าไม่รู้สิ ถ้าเกิดมีปัญหา เราก็โดนบ่น ต้องหาเงินมาซ่อมอีก แค่หาเงินไปวันๆ ยังไม่รู้เลยว่าเงินที่หามาได้จะซื้ออะไรได้บ้าง แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว 
แล้วพ่อกับแม่ มีเงินก็ไม่เคยให้ลูก แต่หนูก็ไม่ได้อยากได้มันหรอก อยากให้พ่อแม่เก็บไว้กินไว้ใช้ หนูเลี้ยงตัวเองได้ แต่สิ่งที่หนูไม่ชอบคือ ทำไมต้องเอาเงินตัวเองไปช่วยคนอื่นด้วย คนที่พ่อแม่ช่วยถ้าเป็นคนพิการเป็นคนแก่ หนูจะไม่ว่า แต่เป็นพี่น้องญาติๆของพ่อ ที่สามารถทำงานได้ 

8.ตั้งแต่เราทำงานหาเงินได้ ต้องเอาเงินคืนพ่อแม่ที่เขาให้เราตอนเราใช้ช่วงม.ปลาย และตอนเราเรียนบริบาล พ่อแม่ก็คิดทุกบาททุกสตางค์เลย แต่เราก็ไม่สามารถที่จะพูดกับเขาได้เพราะค่าน้ำนม ค่าเลี้ยงดูตอนเรายังทำงานไม่ได้ เราก็หาใช้คืนไม่หมดหรอก

9.เพื่อนเรา เคยเป็นเพื่อนรึเพื่อนเฉยๆ ทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ได้ มีเพื่อนคนหนึ่ง เราช่วยเขาทุกเรื่อง ฟังเขาทุกเรื่อง ที่มาขอคำปรึกษา แต่ไปเล่าให้คนอื่นว่าเรายิ้มชีวิตเขายิ่งกว่าแม่เขาอีก แล้วเล่าว่าพ่อแม่เราเอาแต่ว่าเขา ทั้งที่ลูกตัวเองก็ไม่ได้ ได้ดี เราได้ยินจากปากอีกคน คือเราได้ยินแบบนี้ ก็ไม่ได้อยากจะเชื่อ แต่คือพ่อแม่เรา ทั้งตัวเรา ก็ไม่เคยจะพูดถึงเขา ใครจะไปว่าคนที่รักเหมือนลูก พาไปสมัครเรียน ปฐมนิเทศ ไปรับไปส่งเวลาไปเรียน พาไปเลี้ยงข้าว บางทีเราก็นึกขึ้นมาได้ ทำไมพวกเราต้องทำตัวเหมือนคนรับใช้ เวลาจะไปไหน ไปเรียน ทำไมต้องรอเขา ทั้งที่เขาเป็นคนที่จะมาอาศัยนั่งรถไปด้วยทุกครั้ง ทำอะไรต้องรอเขาตลอด ไม่เคยพูดถึงเลย เพิ่งมานึกได้ หลังจากนั้นเราก็ห่างๆกับเขา
เราไม่คุยกับเขา เขาไม่คุยกับเรา มีวันหนึ่งเขามาทำงาน โดยที่ไม่บอกพ่อแม่ แล้วเขาโดนรุ่นพี่เขาหลอก โดนเท แล้วเขาก็ทักมาหาว่าเขาอยู่กทม.แล้ว ไม่รู้จะไปไหนแล้ว ให้เราหางานให้หาที่พักให้ เราก็เลยหาให้เขา เพราะไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ประเด็นอยู่ที่เขาบอกพ่อแม่บอกคนที่บ้านว่า เพื่อนเราหลอกเขามาทำงานแล้วเราชวนเขามาทำงานด้วย ทั้งที่เราไม่ได้ชวนเขา ชวนกับช่วย มันคนละอย่างกันเลย
แล้วหลังจากนั้นเราหางานให้เขาได้ เขาไม่เคยคุยกับเราเลย จะมาคุยกับเราตอนที่เขาไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน จะมาเล่ามาระบายให้เราฟัง แล้วพอทุกอย่างลงตัวแล้ว เขาก็หายไปเลย ชอบโทรไปหาพ่อแม่ตัวเองแล้วบอกว่า คุยกับเราทุกวันคุยกับเราตลอด คือเรางงมาก 

10.เพื่อน,พี่,น้อง ที่ทักหาเฉพาะ ตอนมายืมเงิน
ตอนเราไม่สบายรึทำอะไรไม่เคยคุยไม่เคยทักถาม
พอจะยืมเงินก็ทักมา มี10000ก็จะเอา 5000-1000-100 ก็จะเอา
เราเป็นคนที่รักษาคำพูด ชอบการตรงต่อเวลา 
เวลามายืมเงิน กำหนดการคืนเงินได้แบบดีมาก ว่าจะคืนวันนี้เวลานี้ แต่พอถึงเวลาก็เงียบ พอเราทักไปทวงเงินก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก พอถึงเวลาก็ยังไม่จ่ายอีก เราก็ทวงอีก แล้วเขาก็ไปเล่าให้คนอื่นฟังว่า เนี้ยยืมเงินมันแค่นี้เอง ทักมาโทรมาทวงตลอด น่ารำคาญมาก นี่ก็ได้ยินจากปากคนอื่นมาเหมือนกัน
แล้วมีอีกคนที่ยืมเงินเรา เขาใช้ชีวิตดีมากหรูหราไฮโซ หอพักธรรมดาไม่อยู่ ต้องอยู่แบบคอนโด ของข้างทางไม่กิน ต้องกินในห้าง ไปเที่ยวกลางคืนเกือบทุกคืน ลงสตอรี่อวดว่าอยู่กับเพื่อนกินเที่ยวตลอด แต่ก็ไม่คืนเงินเรา 

#ตอนนี้คืองงกับชีวิตมาก คือฉันควรทำไงกับชีวิตดี
เหนื่อยไม่รู้จะพูดให้ใครฟัง อยากจะร้องไห้มากแต่ร้องไปก็ไม่มีคนมาปลอบ อยู่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว แต่ก็แคร์คนอื่นตลอด ไม่รู้จะต้องทำยังไง ในหัวก็คิดแค่ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากมีเพื่อน อยากอยู่คนเดียว แต่ทำไม่ได้เลยที่บ้านยังมีพ่อแม่ที่เราต้องดูแลถึงจะทำงานไกลก็ต้องโทรคุยถามหาเขาว่าสบายดีไหมอยู่ดีกินดีไหม เพื่อนจะเลิกเป็นเพื่อนกันง่ายๆก็ไม่ได้ ไม่อยากมีเรื่องกับใคร ไม่อยากเป็นศัตรูกับใคร คิดอยากจะอยู่เงียบคนเดียว ห้องสี่เหลี่ยมเล็กคนเดียวก็ได้ แต่ชีวิตมันขับเคลื่อนด้วยเงิน เรายังต้องทำงานหาเงิน ใช้ชีวิตแต่ละวันก็ไม่ง่ายเลย ทำงานก็โดนเปรียบเทียบ จะหายไปจากโลกก็เสียดายชีวิต เพราะคิดว่าสักวันชีวิตฉันจะต้องดีกว่านี้ ไม่มีคนรัก ไม่เป็นไร เรารักเองพอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่