มีครอบครัวไหนเป็นเหมือนเราบ้าง
คนที่ส่งเงินเลี้ยงดูพ่อแม่กลับไม่ได้อะไรเลย ต่างกับอีกคนที่ได้ดีทุกอย่าง
ครอบครัวเรามีพี่น้อง 3 คน
คนโต มีครอบครัว ยืมเงินญาติ ไปทำงานเมืองนอก มีเงินเก็บมากมาย แต่ไม่เคยใช้หนี้สินที่สร้างไว้ พ่อแม่ไม่เคยได้เงินจากคนโตเลย
เราเป็นลูกคนกลาง ทำงานหาเงินไปเมืองนอกเอง แต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท เพราะ ต้องส่งเงินให้พ่อกับแม่ทุกเดือน พอล่าช้าหรือหยุดส่ง พวกเขามักโทรตามเสมอ แล้วบ่นว่า 'ถ้าแกไม่ส่งมา ฉันก็ไม่มีเงินใช้"
คนเล็กอยากเรียนสายสามัญ พ่อแม่ บ่นว่า ได้เสียค่านั่นนี้หลายอย่าง ไม่มีเงินส่ง พอย้ายมาเรียน กศน. พวกเขากลับบอกให้หาเงินเรียนเองซะงั้น
พ่อกับแม่ไม่เคยเล่าปัญหาพวกนี้ให้เราฟัง มีแต่บ่นว่าไม่มีเงินใช้ ทั้งที่พวกเขาหาเงินไปช่วยคนโตหมดทุกอย่าง เสียประกัน และ ค่างวดรถทุกเดือน จนหมด เรามารู้อีกทีตอนกลับมาพัก คนโตกลับมาก่อน พร้อมเงินที่ไปหามาได้ เอามาสร้างบ้าน พร้อมรถใหม่อีกคัน เงินไม่พอพวกเขาหาให้ได้ทันที ถึงจะบ่น แต่ก็หาให้ตลอด พอเราอยากได้ทีวี แต่กลับไม่มีเงินซื้อ อยากได้อะไร ต้องหาเงินมาซื้อเองใหม่ทุกอย่าง รถมอเตอร์ไซค์ที่เคยขับไปทำงานพัง ต้องหาเงินมาซ่อมเอง พ่อแม่ไม่หาเงินท่ช่วยเหมือนคนโต อยากได้รถไถนา พวกเขากลับบอกว่าไปหาเงินมาใหม่ หามาออกเอง
ปัจจุบัน พ่อกับแม่ยังไม่หยุดส่งเงินและค่างวดรถยนต์คันใหม่ให้คนโต ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนโตไม่ลำบาก จำนำทอง ขายนา ทำหมด
คนเล็กอยากได้มอเตอร์ไซค์ พ่อแม่บอกให้ทำงานเก็บเงินไปซื้อเอง เขากลัวได้ส่งงวดรถให้ เหมือนทำให้เขาลำบาก
อีกอย่าง คนโตโกหกพ่อแม่ว่าจะเอารถยนต์คันเก่าที่ส่งงวดหมดแล้วให้เราคนกลาง คำพูดดูสวยหรูมากทั้งครอบครัว สุดท้ายไม่โอนให้เรา แถมโดนหลอกให้ไปซ่อมส่วนที่มีปัญหามาใหม่ หมดไปหลายบาท พอคนโตเงินหมด เลยแอบเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ บอกให้พ่อแม่ส่งงวดให้ทั้งคนเก่าคันใหม่พวกเขาก็ว่าเงินมาส่งให้อีก สู้ไม่ไหว ไม่มีคนหาเงินให้ คนโตเลยยกรถคนเก่าให้ญาติฝั่งสามีผ่อนต่อ ปัจจุบัน มีปัญหากัน พร้อมลูก 1 คน ไม่เคยส่งเสีย นอกจากพ่อแม่เลี้ยงดูเอง
เราเคยพูดกับพี่สาวแล้วค่ะ เรื่องค่าใช้จ่าย แต่เขากับเมินเฉย ไม่สนอะไรเลย ขณะที่เขามีบ้านหลังใหม่ ที่ไม่เคยเสียค่าใช่จ่ายอะไรเลย อยู่กินดี แต่เราอยู่บ้านไม้หลังเก่าๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะพังเมื่อไหร่ พร้อมค่าใช้จ่ายอีกมากมาย พูดไปก็ไม่เคยได้อะไรกลับคืนมาเลย จะหาใหม่มันก็วนหลูบอยู่แต่ที่เดิม ซ้ำๆ ซากๆ ไม่หายไปไหน
พอคนเล็กทำงานมีรายได้ เขาก็ต้องมารับชะตากรรมชีวิตแบบเราใช่ไหม
ปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ได้ไหมค่ะ
หรือว่าเราต้องแยกไปอยู่ที่อื่นคนเดียว โดยไม่ต้องติดต่อคนในครอบครัว
พอรู้คำความจริง เรากลับอคติไม่ดีออกไปให้พวกเขาเห็น คนที่ไม่รู้การเป็นอยู่ของครอบครัวเรา คงคิดว่า พ่อแม่รักลูกทุกคน คนใดคนหนึ่งมีปัญหาก็ต้องช่วยเหลือกัน
บางครั้ง มันก็เกินไป ทั้งที่ตัวเองมีกลับไม่ช่วยเหลือใคร แต่อีกฝ่ายไม่มีเขากลับช่วยด้วยความไม่เต็มใจ โดนคนในครอบครัวปิดบังความเป็นจริง คนที่ส่งเสียทุกอย่าง กลับไม่ได้อะไรเลย ควรรู้สึกยังไง ค่าตอบแท้คือความเหนื่อยถูกไหม ต้องทำงานคนเดียว เพื่อดูแลทั้ง 2 ครอบครัว มันได้ไหม คนโตไม่คิดกลับไปทบทวนอะไรเลย ขอแค่พ่อแม่หาเงินส่งให้เขาใช้ได้ ขนาดเป็นแม่คนแล้ว ลูกคนเดียวยังดูแลไม่ได้เลย ทำไมต้องเอาเขามาลำบากด้วย ทำไมต้องรอให้เขามาเลี้ยงดู ทั้งที่ตัวเองก็หาเงินดูแลตัวเองได้ ในเมื่อเด็กมีค่าใช้จ่ายมากมาย แทนที่จะคิดถึงลูก เขากลับเอาเงินไปซื้อของใช้ส่วนตัวหมด แล้วหายไปเลย ถึงเวลาเงินหมดไม่พอใช้ โทรหาพ่อแม่ทุกวัน ตามจนวันพวกเขาจะโอนเงินไปให้ แล้วเงียบไปเลย
ขอบคุณที่ใครคำปรึกษา และให้คำแนะนำ อาจจะเผลอระบายความในใจออกมาบ้าง ขอโทษด้วยนะคะ
ผิดมั้ย เรามักอคติกับคนในครอบครัว
คนที่ส่งเงินเลี้ยงดูพ่อแม่กลับไม่ได้อะไรเลย ต่างกับอีกคนที่ได้ดีทุกอย่าง
ครอบครัวเรามีพี่น้อง 3 คน
คนโต มีครอบครัว ยืมเงินญาติ ไปทำงานเมืองนอก มีเงินเก็บมากมาย แต่ไม่เคยใช้หนี้สินที่สร้างไว้ พ่อแม่ไม่เคยได้เงินจากคนโตเลย
เราเป็นลูกคนกลาง ทำงานหาเงินไปเมืองนอกเอง แต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท เพราะ ต้องส่งเงินให้พ่อกับแม่ทุกเดือน พอล่าช้าหรือหยุดส่ง พวกเขามักโทรตามเสมอ แล้วบ่นว่า 'ถ้าแกไม่ส่งมา ฉันก็ไม่มีเงินใช้"
คนเล็กอยากเรียนสายสามัญ พ่อแม่ บ่นว่า ได้เสียค่านั่นนี้หลายอย่าง ไม่มีเงินส่ง พอย้ายมาเรียน กศน. พวกเขากลับบอกให้หาเงินเรียนเองซะงั้น
พ่อกับแม่ไม่เคยเล่าปัญหาพวกนี้ให้เราฟัง มีแต่บ่นว่าไม่มีเงินใช้ ทั้งที่พวกเขาหาเงินไปช่วยคนโตหมดทุกอย่าง เสียประกัน และ ค่างวดรถทุกเดือน จนหมด เรามารู้อีกทีตอนกลับมาพัก คนโตกลับมาก่อน พร้อมเงินที่ไปหามาได้ เอามาสร้างบ้าน พร้อมรถใหม่อีกคัน เงินไม่พอพวกเขาหาให้ได้ทันที ถึงจะบ่น แต่ก็หาให้ตลอด พอเราอยากได้ทีวี แต่กลับไม่มีเงินซื้อ อยากได้อะไร ต้องหาเงินมาซื้อเองใหม่ทุกอย่าง รถมอเตอร์ไซค์ที่เคยขับไปทำงานพัง ต้องหาเงินมาซ่อมเอง พ่อแม่ไม่หาเงินท่ช่วยเหมือนคนโต อยากได้รถไถนา พวกเขากลับบอกว่าไปหาเงินมาใหม่ หามาออกเอง
ปัจจุบัน พ่อกับแม่ยังไม่หยุดส่งเงินและค่างวดรถยนต์คันใหม่ให้คนโต ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนโตไม่ลำบาก จำนำทอง ขายนา ทำหมด
คนเล็กอยากได้มอเตอร์ไซค์ พ่อแม่บอกให้ทำงานเก็บเงินไปซื้อเอง เขากลัวได้ส่งงวดรถให้ เหมือนทำให้เขาลำบาก
อีกอย่าง คนโตโกหกพ่อแม่ว่าจะเอารถยนต์คันเก่าที่ส่งงวดหมดแล้วให้เราคนกลาง คำพูดดูสวยหรูมากทั้งครอบครัว สุดท้ายไม่โอนให้เรา แถมโดนหลอกให้ไปซ่อมส่วนที่มีปัญหามาใหม่ หมดไปหลายบาท พอคนโตเงินหมด เลยแอบเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ บอกให้พ่อแม่ส่งงวดให้ทั้งคนเก่าคันใหม่พวกเขาก็ว่าเงินมาส่งให้อีก สู้ไม่ไหว ไม่มีคนหาเงินให้ คนโตเลยยกรถคนเก่าให้ญาติฝั่งสามีผ่อนต่อ ปัจจุบัน มีปัญหากัน พร้อมลูก 1 คน ไม่เคยส่งเสีย นอกจากพ่อแม่เลี้ยงดูเอง
เราเคยพูดกับพี่สาวแล้วค่ะ เรื่องค่าใช้จ่าย แต่เขากับเมินเฉย ไม่สนอะไรเลย ขณะที่เขามีบ้านหลังใหม่ ที่ไม่เคยเสียค่าใช่จ่ายอะไรเลย อยู่กินดี แต่เราอยู่บ้านไม้หลังเก่าๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะพังเมื่อไหร่ พร้อมค่าใช้จ่ายอีกมากมาย พูดไปก็ไม่เคยได้อะไรกลับคืนมาเลย จะหาใหม่มันก็วนหลูบอยู่แต่ที่เดิม ซ้ำๆ ซากๆ ไม่หายไปไหน
พอคนเล็กทำงานมีรายได้ เขาก็ต้องมารับชะตากรรมชีวิตแบบเราใช่ไหม
ปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ได้ไหมค่ะ
หรือว่าเราต้องแยกไปอยู่ที่อื่นคนเดียว โดยไม่ต้องติดต่อคนในครอบครัว
พอรู้คำความจริง เรากลับอคติไม่ดีออกไปให้พวกเขาเห็น คนที่ไม่รู้การเป็นอยู่ของครอบครัวเรา คงคิดว่า พ่อแม่รักลูกทุกคน คนใดคนหนึ่งมีปัญหาก็ต้องช่วยเหลือกัน
บางครั้ง มันก็เกินไป ทั้งที่ตัวเองมีกลับไม่ช่วยเหลือใคร แต่อีกฝ่ายไม่มีเขากลับช่วยด้วยความไม่เต็มใจ โดนคนในครอบครัวปิดบังความเป็นจริง คนที่ส่งเสียทุกอย่าง กลับไม่ได้อะไรเลย ควรรู้สึกยังไง ค่าตอบแท้คือความเหนื่อยถูกไหม ต้องทำงานคนเดียว เพื่อดูแลทั้ง 2 ครอบครัว มันได้ไหม คนโตไม่คิดกลับไปทบทวนอะไรเลย ขอแค่พ่อแม่หาเงินส่งให้เขาใช้ได้ ขนาดเป็นแม่คนแล้ว ลูกคนเดียวยังดูแลไม่ได้เลย ทำไมต้องเอาเขามาลำบากด้วย ทำไมต้องรอให้เขามาเลี้ยงดู ทั้งที่ตัวเองก็หาเงินดูแลตัวเองได้ ในเมื่อเด็กมีค่าใช้จ่ายมากมาย แทนที่จะคิดถึงลูก เขากลับเอาเงินไปซื้อของใช้ส่วนตัวหมด แล้วหายไปเลย ถึงเวลาเงินหมดไม่พอใช้ โทรหาพ่อแม่ทุกวัน ตามจนวันพวกเขาจะโอนเงินไปให้ แล้วเงียบไปเลย
ขอบคุณที่ใครคำปรึกษา และให้คำแนะนำ อาจจะเผลอระบายความในใจออกมาบ้าง ขอโทษด้วยนะคะ