ระหว่างที่เอกนั่งพักที่ร้านของลุง
เขาเครียดและวิตกกังวลมาก
คุณลุงเจ้าของร้านชงชามาให้
"ดื่มชาก่อนนะพ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลย"
"ผมห่วงแพรวมากเลยครับ กลัวเธอจะเป็นอะไรไป"
"อลิสคงไม่ฆ่าแพรวหรอก ถ้าอลิสอยากฆ่า คงฆ่าไปนานแล้ว"
เอกนึกถึงวันที่เขาพาทั้งสองเที่ยวครั้งแรก
"ผมเคยสงสัยครับว่าแพรวกับอลิสเป็นเพื่อนกันจริงไหม
ทั้งคู่ดูมีความสัมพันธ์ที่แปลก เข้าใจยาก"
คุณลุงเจ้าของร้านเอามือมาแตะไหล่เอก
"เรื่องแบบนี้ พ่อหนุ่มต้องค่อยๆคิดนะ อย่าผลีผลาม
พ่อหนุ่มยังมีเวลาอีกมากที่จะตามหาแพรว"
เอกรู้สึกดีมากที่คุณลุงเจ้าของร้านปลอบเขา
วันนั้น พอเขาเริ่มมีแรง เขาก็ลากลับ
........................................................................
10 ปีผ่านไป
หลังจากเรียนจบ เอกได้งาน ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาพยายามตามหาแพรวทุกวิถีทาง
แต่ก็ไม่พบ
พี่สาวของเอก แอน แต่งงานกับอานัสได้ 5 ปีแล้ว
มีลูกด้วยกัน 1 คน
แม่กับคุณลุถงเจ้าของร้านเสียชีวิตแล้วทั้งคู่
จอห์นเองก็แต่งงานและมีลูกแล้ว 2 คน
ส่วนซาร่าก็ตามเขาอยู่พักนึง พอไม่มีหวัง
ก็เลิกตามไปเอง
หลังจากเลิกงาน เอกมักจะมาเดินเล่นที่ Trafalgar Square
เขาชอบที่จะมาทบทวนเหตุการณ์ทุกอย่างที่นี่
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังอยากรู้จักแพรวอยู่ดี
ทุกวันนี้ เอกมีกิจกรรมไม่มาก นอกจากทำงานแล้ว
เขาก็มักจะแวะไปเยี่ยมหลาน
ไม่ว่าจะเป็นหลานที่เกิดจากจอห์นหรือหลานที่เกิดจากแอน
การเยี่ยมหลานทำให้เขามีความสุข
นอกจากเยี่ยมหลานแล้ว กิจกรรมที่เขาชอบทำก็คือ
การไปที่หลุมศพของแม่และหลุมศพของคุณลุงเจ้าของร้าน
เขาไปกวาดใบไม้รอบๆบ้าง
จ้างคนมาทำความสะอาดบ้าง
ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับเรื่องพวกนี้
สาวๆในบริษัทบางคนก็จีบเขาจนออกนอกหน้า
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใคร มีไปเดทบ้าง
เปิดโอกาสไปเจอคนใหม่ๆบ้าง
แต่ในใจเขายังไม่ลืมแพรว
ถามว่านี่คือความทุกข์ไหม มันไม่น่าจะใช่
แต่ก็เรียกไม่ได้ว่ามันคือความสุข
เขาเคยคิดจะเรียนปริญญาโทฆ่าเวลา
แต่เจ้านายบอกเขาว่าอย่าเพิ่งเลย
เอกยังหนุ่มมาก อายุแค่ 30
ไม่ต้องรีบเรียนหรอก
จริงๆแล้ว ไม่ต้องคิดจะเรียนเลยก็ได้
เพราะบริษัทที่เขาอยู่ ก็ไมไ่ด้บังคับอะไร
เงินเดือนก็ขึ้นทุกปี
ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้
ช่วงหลังๆ เอกชอบเรียกกรุงลอนดอนว่าลอนดอนที่ว่างเปล่า
เอกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ทุกอย่างดูเคลื่อนไหวช้าและไม่ค่อยทำให้เขาเบิกบานสักเท่าไหร่
มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องที่ไม่จรรโลงใจ
แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้
ถึงจะเหงาบ้าง ก็ไม่เป็นไร เขาชินแล้ว
ถ้าวันไหนเบื่อๆ เขาก็ออกมาเดินสูดอากาศที่ Trafalgar Square บ้าง
เหมือนกับวันนี้
มันเป็นลอนดอนที่ว่างเปล่าและวันที่ว่างเปล่าอีกวัน
ขณะที่เขานั่งเล่นอยู่แถวนั้น
เขาเห็นขาใครคนหนึ่งเดินมาใกล้ตัวเขา
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาตกใจมาก "แพรว"
เขารีบยืนขึ้น "แพรว คุณจริงๆด้วย"
เอกกอดแพรวไว้แน่น เขาดีใจมาก
แต่ที่เขาสัมผัสได้ก็คือแพรวไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่
เขาผละออกมาแล้วจับไหล่แพรวทั้งสองข้าง
"คุณจริงๆด้วยแพรว คุณไม่ค่อยเปลี่ยนเลย"
แพรวดูเศร้าๆ เอกอดไม่ได้ที่จะถาม
"คุณเป็นอะไรไป มีอะไรบอกผมได้นะแพรว"
แพรวจ้องหน้าเอก เธอนำมือทั้งสองข้างมาจับที่แก้มเขา
และพยายามพูดออกมาเป็นครั้งแรก
"ฉันฆ่าอลิส"
รักนั้น ... นิรันดร ตอนที่ 6 ลอนดอนที่ว่างเปล่า
ระหว่างที่เอกนั่งพักที่ร้านของลุง
เขาเครียดและวิตกกังวลมาก
คุณลุงเจ้าของร้านชงชามาให้
"ดื่มชาก่อนนะพ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลย"
"ผมห่วงแพรวมากเลยครับ กลัวเธอจะเป็นอะไรไป"
"อลิสคงไม่ฆ่าแพรวหรอก ถ้าอลิสอยากฆ่า คงฆ่าไปนานแล้ว"
เอกนึกถึงวันที่เขาพาทั้งสองเที่ยวครั้งแรก
"ผมเคยสงสัยครับว่าแพรวกับอลิสเป็นเพื่อนกันจริงไหม
ทั้งคู่ดูมีความสัมพันธ์ที่แปลก เข้าใจยาก"
คุณลุงเจ้าของร้านเอามือมาแตะไหล่เอก
"เรื่องแบบนี้ พ่อหนุ่มต้องค่อยๆคิดนะ อย่าผลีผลาม
พ่อหนุ่มยังมีเวลาอีกมากที่จะตามหาแพรว"
เอกรู้สึกดีมากที่คุณลุงเจ้าของร้านปลอบเขา
วันนั้น พอเขาเริ่มมีแรง เขาก็ลากลับ
........................................................................
10 ปีผ่านไป
หลังจากเรียนจบ เอกได้งาน ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาพยายามตามหาแพรวทุกวิถีทาง
แต่ก็ไม่พบ
พี่สาวของเอก แอน แต่งงานกับอานัสได้ 5 ปีแล้ว
มีลูกด้วยกัน 1 คน
แม่กับคุณลุถงเจ้าของร้านเสียชีวิตแล้วทั้งคู่
จอห์นเองก็แต่งงานและมีลูกแล้ว 2 คน
ส่วนซาร่าก็ตามเขาอยู่พักนึง พอไม่มีหวัง
ก็เลิกตามไปเอง
หลังจากเลิกงาน เอกมักจะมาเดินเล่นที่ Trafalgar Square
เขาชอบที่จะมาทบทวนเหตุการณ์ทุกอย่างที่นี่
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังอยากรู้จักแพรวอยู่ดี
ทุกวันนี้ เอกมีกิจกรรมไม่มาก นอกจากทำงานแล้ว
เขาก็มักจะแวะไปเยี่ยมหลาน
ไม่ว่าจะเป็นหลานที่เกิดจากจอห์นหรือหลานที่เกิดจากแอน
การเยี่ยมหลานทำให้เขามีความสุข
นอกจากเยี่ยมหลานแล้ว กิจกรรมที่เขาชอบทำก็คือ
การไปที่หลุมศพของแม่และหลุมศพของคุณลุงเจ้าของร้าน
เขาไปกวาดใบไม้รอบๆบ้าง
จ้างคนมาทำความสะอาดบ้าง
ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับเรื่องพวกนี้
สาวๆในบริษัทบางคนก็จีบเขาจนออกนอกหน้า
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใคร มีไปเดทบ้าง
เปิดโอกาสไปเจอคนใหม่ๆบ้าง
แต่ในใจเขายังไม่ลืมแพรว
ถามว่านี่คือความทุกข์ไหม มันไม่น่าจะใช่
แต่ก็เรียกไม่ได้ว่ามันคือความสุข
เขาเคยคิดจะเรียนปริญญาโทฆ่าเวลา
แต่เจ้านายบอกเขาว่าอย่าเพิ่งเลย
เอกยังหนุ่มมาก อายุแค่ 30
ไม่ต้องรีบเรียนหรอก
จริงๆแล้ว ไม่ต้องคิดจะเรียนเลยก็ได้
เพราะบริษัทที่เขาอยู่ ก็ไมไ่ด้บังคับอะไร
เงินเดือนก็ขึ้นทุกปี
ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้
ช่วงหลังๆ เอกชอบเรียกกรุงลอนดอนว่าลอนดอนที่ว่างเปล่า
เอกรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ทุกอย่างดูเคลื่อนไหวช้าและไม่ค่อยทำให้เขาเบิกบานสักเท่าไหร่
มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องที่ไม่จรรโลงใจ
แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้
ถึงจะเหงาบ้าง ก็ไม่เป็นไร เขาชินแล้ว
ถ้าวันไหนเบื่อๆ เขาก็ออกมาเดินสูดอากาศที่ Trafalgar Square บ้าง
เหมือนกับวันนี้
มันเป็นลอนดอนที่ว่างเปล่าและวันที่ว่างเปล่าอีกวัน
ขณะที่เขานั่งเล่นอยู่แถวนั้น
เขาเห็นขาใครคนหนึ่งเดินมาใกล้ตัวเขา
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาตกใจมาก "แพรว"
เขารีบยืนขึ้น "แพรว คุณจริงๆด้วย"
เอกกอดแพรวไว้แน่น เขาดีใจมาก
แต่ที่เขาสัมผัสได้ก็คือแพรวไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่
เขาผละออกมาแล้วจับไหล่แพรวทั้งสองข้าง
"คุณจริงๆด้วยแพรว คุณไม่ค่อยเปลี่ยนเลย"
แพรวดูเศร้าๆ เอกอดไม่ได้ที่จะถาม
"คุณเป็นอะไรไป มีอะไรบอกผมได้นะแพรว"
แพรวจ้องหน้าเอก เธอนำมือทั้งสองข้างมาจับที่แก้มเขา
และพยายามพูดออกมาเป็นครั้งแรก
"ฉันฆ่าอลิส"