..........วิมานหมอก........ตอนที่ ๗........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้คำถาม


.....( วิมานหมอก ).....


          ตอนเดิมครับ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


         ตอนที่ ๗

      รถโดยสารจอดรับปรางซึ่งเดินจากบ้านลุงแก้วพ้นเนินบ้านไร่มาเกือบกิโล เธอขึ้นไปนั่งลงริมหน้าต่างที่เดียวกับเมื่อวานพลางถอนใปรางนึกถึงเพชร  เขาไม่เงยหน้าขึ้นเมื่อเธอเข้าไปบอกลาอีกครั้ง

    เธอเข้าใจความรู้สึกของเพชรดี เพราะตอนนี้ เธอก็รู้สึกไม่ต่างกับเขาเท่าไร ก่อนออกจากห้อง เธอลูบหลังเพชรแล้วดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ก่อนตัดสินใจเดินออกมา  ลึก ๆ แล้ว เธอไม่อยากกลับบ้านเหมือนกัน แต่ปัญหาที่ยังค้างคา จะทำให้ที่นี่ไม่เงียบสงบอย่างตอนนี้แน่นอน

       ปรางนึกย้อนไปถึงการเริ่มต้นของเขาและเธอแล้วเผลอยิ้มออกมา มันเหมือนฝัน ฝันซึ่งถ้ามีใครบอกก่อนหน้าว่าจะเป็นอย่างนี้ เธอคงไม่เชื่อ เพราะความเป็นไปได้ไม่มี การพบกันเป็นไปยากด้วยเวลาทำงานของเธอ อีกทั้งวัยและสถานะที่ต่างกัน ทำให้โอกาสพูดคุยกันยิ่งยากกว่าเดิม 

       นึกถึงตรงนี้ปรางต้องถอนใจอีกครั้ง วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเธอไม่อาจรู้ได้ เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่เพชรกับเธอ โดยส่วนตัวเขาอาจรับเธอได้ แต่ทาง
สังคมและครอบครัวของเพชร จะรู้สึกอย่างไรกับคำว่า “ผู้หญิงหากิน”

       หญิงสาวสลัดความฟุ้งซ่านออกไปเมื่อรถวิ่งช้า ๆ ผ่านสี่แยกกลางตลาด จึงรอให้เลยแยกอีกหน่อยเธอจึงเดินไปจ่ายเงินให้คนขับและบอกเขาจอดให้ลง

     ตลาดยามสายคนไม่พลุกพล่านเหมือนตอนเช้าตรู่ แต่ไม่บางตาจนเกินไป ยังคงมีผู้คนซื้อหาของใช้ต่าง ๆ อยู่ประปราย แต่กระนั้น ปรางยังรู้สึกว่าเธออยู่อย่างเดียวดาย และเดินด้วยใจล่องลอยจนถึงบ้านอย่างไม่รู้ตัว

     ภาพแรกที่เธอเห็นคือดาบชิตนอนยาวอยู่บนโซฟา ส่วนนางอ้อเมื่อเห็นปรางจึงเดินเข้ามากระซิบพร้อมกับดึงแขนหญิงสาวให้ตามไปข้างใน 

      “พี่ชิตมาตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เจอปรางโวยวายใหญ่ เด็กหลบไปข้างนอกหมดแล้ว ปรางไปไหนมา”

       หญิงสาวยิ้มให้นางอ้อ ในใจกังวลว่าเมื่อคืนเด็กขาดรายได้ไปเพียงแค่เธอไม่อยู่คืนเดียว แต่ยังทำใจเย็นเอ่ยออกไปอย่างนุ่มนวล

      “ไปธุระนิดหน่อยพี่อ้อ แล้วนี่กินอะไรกันหรือยัง”

       ปรางถามรวมถึงเด็กในบ้าน นางอ้อส่ายหน้าไปมา ปรางจึงเดินไปเปิดประตูห้อง วางกระเป๋าบนโต๊ะแล้วหันกลับออกมาล้วงเงินส่งให้นางอ้อจำนวนหนึ่งพร้อมกับเอ่ยออกไป

       “พี่อ้อไปตามเด็กสิ อยู่ไหนกันบ้าง ให้ไปกินข้าวแล้วเข้ามานอน ทางนี้ปรางจัดการเอง”

       นางอ้อพยักหน้าก่อนเดินกำเงินเดินออกไป เมื่อถึงโซฟาที่ดาบชิตนอนอยู่เธอหยุดนิดหนึ่งทำท่าครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนหมุนตัวกลับไปหาปราง หญิงสาวอมยิ้มมองหน้านางอ้อที่เดินอย่างลังเลเข้ามา กระทั่งเมื่อหยุดตรงหน้าปรางจึงเอ่ยออกมาอย่างยากเย็นด้วยเสียงในลำคอ

       “พี่ชิตจ้างพี่ให้ดูว่าเด็กนั่นอยู่กับปรางหรืออยู่ที่ไหน พี่ไม่สบายใจเลยตั้งแต่รับเงินเขามา”

       นางอ้อน้ำตาคลอมองปรางที่ยิ้มกว้างขณะยื่นมือมาจับมือและบีบเบา ๆ 

      “ไม่เป็นไรพี่อ้อ ไม่ต้องคิดมาก เขาไม่ทำอะไรพี่อ้อหรอก มีอะไรปรางรับหน้าแทนเอง”

       หญิงสาวพูดอย่างเห็นใจ เพราะสีหน้าตอนนี้ของนางอ้อ มองดูลำบากใจจริง ๆ

       “พี่ขอโทษปราง พี่ไม่น่าเอาเงินเขามาตั้งแต่แรก”

       คำสุดท้ายหายไปในลำคอด้วยก้อนสะอื้นจุกลำคอ หญิงสาวบีบมือนางอ้อแน่นขึ้นพร้อมกับเขย่าเบา ๆ ก่อนดึงตัวเข้ามากอดไว้แล้วเอ่ยออกไปอย่างนุ่มนวล

       “ไม่เป็นไรพี่อ้อ ปรางไม่โกรธหรอก ปรางเข้าใจพี่อ้อ ปรางรู้นิสัยพี่ชิตดี พี่อ้อรีบไปตามเด็กพาไปกินข้าวเถอะ หิวกันแย่แล้ว เงินมีหรือเปล่าก็ไม่รู้”

       นางอ้อพยักหน้ายกมือปาดน้ำตาก่อนหมุนตัวเดินออกไป ขณะเดินผ่านดาบชิตเธอทำท่าหวาด ๆ จนเดินพ้นประตู

       หญิงสาวถอนใจอีกครั้งก่อนกลับเข้าห้อง เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าวางไว้ก่อนหยุดนิดหนึ่งแล้วคว้ากุญแจเดินไปยังห้องติดกัน

       กล่องข้าวและแก้วน้ำยังวางอยู่ที่เดิม ปรางนำถุงเปล่าใกล้ ๆ มาเก็บของที่จะทิ้งใส่ลงไป แล้ววางถุงไว้บนพื้นใต้โต๊ะ ตามองรอบห้อง มาหยุดตรงที่นอน จึงถอนใจออกมาเมื่อนึกถึงชายหนุ่มว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร ตื่นหรือยัง กินข้าวหรือยัง การได้ดูแลเขาเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ที่เขาอยู่นี่ กลายเป็นความผูกพัน ซึ่งทำให้ตอนนี้ เหมือนเธอขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง หญิงสาวเดินใจลอยไปนั่งลงตรงที่นอน จับผ้าห่มดึงมาวางบนตักพับพลางคิดไปเองว่า มีไออุ่นเหมือนเพชรเพิ่งลุกออกไป

       “ทำอะไรปราง”

       เสียงห้วน ๆ หน้าประตูทำปรางสะดุ้งนิดหนึ่งก่อนยิ้มกว้างแล้วหันไปมอง

     “เด็กน่ามากลับวันนี้ ปรางมาดูห้องน่ะพี่ชิต”

      เธอพูดพลางลุกขึ้นเดินเข้าหาดาบชิตซึ่งทำท่าลังเล แต่เมื่อเธอเดินเข้าใกล้จนเกือบถึงตัว เขาจึงถอยจนพ้นหน้าห้องมองปรางไม่วางตา หญิงสาวยังคงยิ้มละไมคล้องผ้าห่มไว้กับแขนพลางสวมกุญแจลงกับสายยู

       “ปรางเห็นพี่ชิตหลับเลยไม่อยากกวน เมื่อคืนพี่มาดึกเหรอ”

       หญิงสาวเดินเรื่อย ๆ ไปหลังบ้านวางผ้าห่มในกะละมังแล้วตักน้ำในโอ่งใส่ทีละขันจนท่วมผ้าจึงวางขันแล้วหันมายิ้มให้ดาบชิตซึ่งยืนจ้องเธอจากทางเดิน
 
       “ปรางไปไหนมา”

      ดาบชิตถามเสียงห้วน ส่วนหญิงสาวยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

      “ปรางไปเยี่ยมน้องคนหนึ่ง ตอนดึกญาติเขาไม่มาเฝ้าปรางเลยอยู่เป็นเพื่อน”

     เธอมองสีหน้าคลางแคลงของดาบชิต ขณะเขาพูดห้วน ๆ ออกมา

     “ใคร พี่รู้จักหรือเปล่า”

      ปรางยิ้มกว้างก่อนเปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบเฉยก่อนเริ่มรุกกลับไป

      “พี่ชิตไม่รู้จักหรอก ว่าแต่ว่า เมื่อคืนพี่กวนใจแขกปรางหรือเปล่า”

       ดาบชิตทำท่าอึกอัก นึกปะติดปะต่อเรื่องราวเมื่อคืน เพราะตัวเองก็ตึง ๆ มาจากร้านเหล้าพอควร หญิงสาวเห็นอย่างนั้นจึงรุกต่อไม่ให้ดาบตั้งหลักทัน

       “พี่มาที่นี่ได้เสมอ แต่อย่าให้ปรางเสียหาย เพราะถ้าแขกรู้สึกไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่มาเที่ยว เมื่อไม่มีคนมาเที่ยว เด็กในบ้านปรางก็ขาดรายได้ พอไม่มีเงินก็พากันย้ายบ้าน คนเดือดร้อนคือปราง”

      ดาบชิตยืนนิ่ง หลบสายตาที่มองอย่างจริงจังของหญิงสาว ก่อนพูดอ้อมแอ้มออกไป 

      “พี่จำไม่ได้เมื่อคืนเมาไปหน่อย แต่คงไม่มีอะไรหรอก พี่มาหาปรางแล้วไม่เจอเลยหงุดหงิดนิดหน่อยแค่นั้น”

       หญิงสาวไม่พูดอะไร จ้องหน้าดาบชิตนิ่งเหมือนจะคาดคั้นเอาความจริง กระทั่งเขาเริ่มอึดอัดและเอ่ยอออกมาเบา ๆ

       “เออ ๆ พี่ขอโทษ แต่คงไม่มีอะไร พี่กลับก่อนละ แล้วผ่านจะแวะมา”

       พูดจบดาบชิตทำหน้ายุ่ง ๆ เดินบ่นพึมพำไปจนพ้นประตู ขณะปรางนั่งลงบนโซฟาพลางถอนใจออกมายาว.....

         ( มีต่อครับ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่