JJNY : สรยุทธออกโรง│เกมฉีกหน้ารัฐบาลดองกม.│เบื้องหลังคว่ำกฎหมาย│3 แนวทางส.อ.ท.ชงรบ.ตรึงดีเซล│ยูเครนไม่ทิ้งแผนรุกกลับ

สรยุทธ ออกโรงเอง ขอ ‘สนธิญา’ ถอนสอบ สุขชาวบ้าน ด้านนักร้องดังตอบรับแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4460911
 
 
สรยุทธ ออกโรงเอง ขอ ‘สนธิญา’ ถอนสอบสุขชาวบ้าน นักร้องดังตอบรับแล้ว
 
จากกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “สุขชาวบ้าน” ที่ทำคลิปล้อเลียนถนนพระราม 2 โดยมองว่า เป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ จนสร้างความสับสนให้กับผู้คนในสังคม 
 
ล่าสุด ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ นายสนธิญา ได้เปิดใจในรายการ ให้เหตุผลว่าการที่ไปร้องเรียนนั้น เพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้องในข้อมูล ว่าการพัฒนาถนนพระราม 2 มีการพัฒนาเป็นลำดับ และยินดี ที่จะถอนเรื่องทุกอย่าง
 
นายสนธิญา กล่าวว่า ยินดีที่จะถอนเรื่องทุกอย่าง ถ้าคุยเข้าใจ และเอาความจริงมาพูดว่าถนนพระราม 2 มีการพัฒนาเป็นลำดับ ข้อมูลเข้าใจว่าเป็นความบันเทิง แต่ทำให้กระทบต่อส่วนงานอื่นๆ ก็สมควรจะแก้ไข ตนอยู่มา 38 ปี ใช้ถนนเส้นนี้ทุกวัน เข้ากทม.วันละเที่ยว 2 เที่ยว กรณีอุบัติเหตุน้อยมาก เมื่อเทียบกับการทำงานทั้งหมด แต่เมื่อเป็นข่าวก็ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง กรณีการสร้าง ไม่ได้เข้าข้าง แต่เขาจะสร้างได้วันละ 6-7 ชั่วโมง ถ้าคนเดินทางมา 4 ทุ่มเป็นต้นไป เขาจะให้วิ่งคู่ขนาน ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ถ้าเขาทำงานเต็มที่ ภายใน 1-2 ปีก็เสร็จแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น และ การก่อสร้างครั้งหนึ่ง ก็ห่างกัน 10 ปี
 
เมื่อนายสรยุทธ ถามว่า ทำไมไม่คิดว่าเพราะถนนทำให้คนไปน้อย แต่คิดว่า สุขชาวบ้านทำให้คนไปน้อยหละ นายสนธิญา กล่าวตอบว่า ข้อมูล สื่อให้คนเข้าใจผิด และ ซ้ำเติมให้สถานการณ์ไม่น่าอภิรมย์ คนอยากมาสมุทรสาครก็บอกไม่อยากไป เดี๋ยวทางด่วนตกลงมาใส่ ถ้าสร้างภาพว่าเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มากมายเป็นประจำ อาจจะเสียเวลาบ้าง คนไม่อยากรถติดก็ไปเพชรเกษมซิ ก็ทำให้เดินทางสะดวกขึ้น พระราม 2 ก็จำเป็นต้องทำ
 
ผมไม่ได้ดำเนินคดี ร้องให้ไต่สวน หากน้องเขาไปศึกษาไปปรับเปลี่ยน ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งความ ผมสนับสนุนให้น้องเขาทำแบบนี้ แต่ขอให้เป็นข้อมูลที่เป็นความเป็นจริง ผิดเพี้ยนไปบ้างไม่เป็นไร แต่ถ้ามากไป ก็ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และคนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ถามว่าอยากไปแจ้งความเขาไหม ผมโดนดำเนินคดีมา 7 คดี เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่อยากให้ใครมามีปัญหาเหมือนผม แต่เรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมกับคนในพื้นที่
 
นายสรยุทธ กล่าวว่า ไปถอนเถอะ เชื่อผม เดี๋ยวเกิดตำรวจไปเอาสิ่งที่คุณสนธิญาร้องไปตรวจสอบ
 
นายสนธิญา จึงตอบรับว่า ได้ๆ ร้องให้ไต่สวนแค่นั้นเอง ยินดี ถ้าได้คุยกับน้องเข้าใจ จะดำเนินการทันที และไม่ต้องการให้ใครมีปัญหาไปเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้เข้าใจเจตนารมณ์ร่วมกัน แต่ให้ลดข้อมูลที่คลาดเคลื่อนมากๆ ยินดี ไม่มีปัญหา
 
เมื่อ นายสรยุทธ กล่าวว่า เดี๋ยวตำรวจเรียกสอบวุ่นวาย นายสนธิญา ก็ตอบว่า บางเรื่องผมแจ้งปอท. 2 ปียังไม่มีขับเคลื่อนเลย จึงทำให้นายสรยุทธ กล่าวว่า ใครจะไปรู้ ผมขอ เอาเรื่องออกมาได้ไหม
 
ซึ่งนายสนธิญา ก็ว่า ยินดี ผมทำแค่ไต่สวน ชี้ให้เห็นประเด็น ปรับปรุงแก้ไขเฉยๆ ยินดี
 
จนสุดท้าย นายสรยุทธ กล่าวปิดจบว่า “ตกลงถอนแล้วนะ ไปจัดการนะ
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



‘สมชัย’ วิเคราะห์หมออ๋องบุกทำเนียบ เกมฉีกหน้ารัฐบาลดองกฎหมาย สมควรแล้ว-ไม่ล้ำเส้น
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4460666

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วิเคราะห์กรณี ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 บุกทำเนียบรัฐบาล มองว่าไม่ใช่เรื่องที่ล้ำเส้น ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถทวงถามได้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เบื้องหลังคว่ำกฎหมายคุ้มครองแรงงาน จุดต่างการเมืองก้าวไกล-เพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4460659

The Politics ข่าวบ้านการเมือง ฉายภาพศึกอภิปรายกฏหมายคุ้มครองแรงงาน สภาฯ ไม่เห็นชอบร่างฉบับ เซีย จำปาทอง พรรคก้าวไกล แต่รับหลักการร่างของ วรรณวิภา ไม้สน พรรคก้าวไกล สะท้อนจุดต่างทางการเมืองระหว่างก้าวไกลและเพื่อไทย ซัดกันหนักในสภาฯ ต่อสู้ทางความคิด กลยุทธ์ทั้งในและนอกสภา โลกโซเชียลจุดกระแสรัฐบาลคว่ำร่างกฏหมายของก้าวไกลทุกฉบับหรือไม่ มองอีกมุมหรือนี่เป็นเกมการเมือง เอากฎหมายที่ถูกตีตก มาตีฟู โหมประเด็นแตกหักก้าวไกลและเพื่อไทย ดวลกันต่อไปในคูหาเลือกตั้ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
เปิด 3 แนวทางส.อ.ท.ชงรัฐบาล "ตรึงดีเซล 30 บาท"
https://www.thansettakij.com/sustainable/energy/590346

เปิด 3 แนวทางส.อ.ท.ชงรัฐบาล "ตรึงดีเซล 30 บาท" ชี้ควรหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มเปราะบางและจะมีผลกระทบ แนะหันมาพิจารณาการพึ่งพาพลังงานภายในประเทศให้มากขึ้น

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลควรพิจารณา 3 แนวทาง เพื่อตรึงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับไม่เกินลิตรละ 30 บาท โดยควรหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มเปราะบางและจะมีผลกระทบ เช่น กลุ่มรถขนส่ง รถรับจ้าง ฯลฯ 
 
ทั้งนี้ เพื่อลดภาระการอุดหนุนลงเพราะสุดท้ายการอุดหนุนที่มากเมื่อราคาตลาดโลกลดผู้ที่จะต้องกลับมาใช้หนี้คือประชาชนอยู่ดี ,หันมาพิจารณาการพึ่งพาพลังงานภายในประเทศให้มากขึ้น เพราะราคาพลังงานตลาดโลกนั้นมีความผันผวนสูง และมีค่าเงินบาทที่หากอ่อนค่าก็จะยิ่งจ่ายแพงเพิ่มขึ้นอีก 
ควรหันมามองการพึ่งพาภาคการเกษตรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพผลิตได้ทั้งเอทานอล ไบโอดีเซล หรือแม้กระทั่งการวิจัยด้านอื่น เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งหากรัฐส่งเสริมและปรับโครงสร้างการผลิตให้ดีไม่ต้องเสียภาษี ต้นทุนสามารถลดต่ำลงได้อย่างมาก จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน
 
ส่วนอีกแนวทางให้ลดการพึ่งพิงนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศให้ลดต่ำลง ควรมีแผนระยะกลาง และระยะยาวในการกำหนดยุทธศาสตร์ ซึ่งขณะนี้โลกกำลังก้าวไปสู่พลังงานสะอาดที่ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงควรหาพลังงานทดแทนให้มากขึ้น เช่น ส่งเสริมติดโซลาร์เซลล์ ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่จะช่วยลดมลพิษแล้ว ยังจะช่วยลดการใช้ไฟที่เกินความต้องการ และจะไปลดค่าพร้อมจ่าย หรือเอพีที่ประชาชนต้องแบกรับ โดยค่าพร้อมจ่ายเป็นการจ่ายเงินให้โรงไฟฟ้าทุกโรงไฟฟ้าแม้ว่าจะไม่มีการเดินเครื่อง
 
นายอิศเรศ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอทั้ง 3 ข้อนี้ เป็นการบริหารจัดการนอกเหนือจากการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาอุดหนุน จนล่าสุดวันที่ 3 มี.ค. กองทุนฯ ติดลบแล้วกว่า 93,498 ล้านบาท เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ให้ประชาชนเสพติดของถูก และไม่เห็นด้วยที่จะต้องปรับขึ้นราคาไปสู่ระดับลิตรละ 32 บาท เป็นการซ้าเติมประชาชนที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูง"
 
จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิล่าสุดวันที่ 3 มี.ค. 67 ติดลบ 93,498 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 46,742 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ติดลบ 46,756 ล้านบาท 
 
โดยเงินกองทุนฯ ยังไหลออกต่อเนื่องจากการอุดหนุนราคาดีเซล วันที่ 5 มี.ค. 67 อยู่ระดับลิตรละ 4 บาท เพราะราคาดีเซลตลาดโลกยังคงราคาทรงตัวระดับสูง ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้นแล้วหากการอุดหนุนเฉลี่ยอยู่ในระดับดังกล่าวคาดว่าฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิจะติดลบระดับ 100,000 ล้านบาทภายในสิ้น มี.ค. 67 หรือต้น เม.ย. 67
 
"ขณะนี้เงินไหลออกส่วนใหญ่เป็นการชดเชยราคาดีเซล เพื่อตรึงราคาขายไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งลิตรละ 4 บาท ทำให้เงินไหลออกวันละ 2,000 ล้านบาท หากอยู่ระดับนี้ จะแตะแสนล้านบาทในสิ้น มี.ค.หากดีเซลตลาดโลกปรับลดจะเลื่อนไปเป็นช่วงเม.ย.นี้"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่