แชร์ประสบการณ์การเปลี่ยนชื่อตัวที่สำนักงานเขต

ไม่กี่วันนี้เราได้ไปเปลี่ยนชื่อ เจ้าหน้าที่ยื่นใบมาให้เขียนชื่อใหม่ที่ต้องการพร้อมความหมาย  เราก็เขียนจนเสร็จ พอยื่นไปปุ๊ป เจ้าหน้าที่บอกว่า ทำไมสะกดแบบนี้  บอกก่อนว่าชื่อที่เราเปลี่ยนมีคนไทยใช้ชื่อนี้อยู่จริงๆ คือออกเสียงแบบนี้ แต่เราเปลี่ยนตัวสะกดเพราะไม่ถูกโฉลก และเราก็ขี้เกียจเขียนตัวการันต์ เจ้าหน้าที่ทำท่าทางจะไม่อนุมัติ แล้วบอกกับเรา เปลี่ยนไม่ได้ เพราะว่าต้องมีความหมายตามพจนานุกรมไทย

เราก็งงมาก เพราะ

1.ก่อนจะไปเปลี่ยนชื่อเราก็ได้ศึกษามาบ้าง ก็เจอแค่ กฎหมาย พรบ ชื่อสกุล เขียนห้ามไว้แค่ว่า ไม่เป็นคำหยาบคาย และต้องไม่พ้องกับพระปรมาภิไธย

2.เจ้าหน้าที่ย้ำหลายรอบว่า ต้องมีความหมายตาม “พจนานุกรมไทย” ในขณะชื่อเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็ภาษาบาลีสันสกฤตทั้งนั้น ยังย้ำกับเราว่าต้องมีความหมายในภาษาไทย ทั้งๆที่หากเปิดพจนานุกรมไทยหาความหมายของชื่อเจ้าหน้าที่ยังไงก็ไม่มีทางเจอเหมือนกัน

3.เจ้าหน้าที่ทึกทักไปเองว่าเราสะกดแบบนี้ เราตั้งใจให้เป็นชื่อภาษาต่างประเทศ แต่ด้วยความสงสัย เนื่องจากเราเคยมีเพื่อนสมัยเรียน ทั้ง นายดีน นางสาวมอนิก้า และทั้งสองคนไม่ใช่ลูกครึ่งด้วย เราเลยถามเจ้าหน้าที่ว่าต่อให้เป็นชื่อฝรั่ง แล้วเปลี่ยนไม่ได้จริงๆหรอ เพราะเพื่อนเราก็มีที่ชื่อฝรั่ง เจ้าหน้าที่เอาเคสคำวินิจฉัยของกรมการปกครองมาให้เราดู ปรากฏว่า

มันมีกรณีที่กรมการปกครองปฏิเสธมิให้บุคคลเปลี่ยนชื่อเป็น “ลีออร์นาโด” เพราะไม่มีความหมายในภาษาไทย  

เรายิ่งงงไปใหญ่ พอเราถามว่าทำไมบางคนถึงใช้ชื่อฝรั่งได้ ได้คำตอบว่าถ้าไม่ใช่ลูกครึ่งก็ต้องใช้ชื่อไทย
เราถามว่าแล้ว พวกชื่อดาราแปลกๆทำไมเปลี่ยนได้ เจ้าหน้าที่ทำหน้าตาขึงขังแล้วบอกว่า อ๋อ ชื่อเขามีความหมายค่ะ เราเลยบอกเปิดพจนานุกรมให้ดูหน่อย ก็เงียบ สรุป เขาคงรำคาญมั้ง อนุมัติให้เราเปลี่ยน แต่ตบท้ายว่า “ถ้าโดนกรมการปกครองเพิกถอนชื่อ ก็รับผิดชอบเอาเองนะ”

สรุปคือบรรทัดฐานไม่มี

1.บรรทัดฐานของเจ้าหน้าที่แต่ละเขต  บางเขตก็คงให้เปลี่ยนง่าย  ไม่งั้นประเทศนี้คงไม่มีชื่อ “มังกี้ ดี ลูฟี่” “เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้” “หนูอิมอิม ก้าวมหัศาจรรย์” “คิคคิคสะระณัง” ในขณะที่บางเขตแค่ชื่อปกติทั่วไป แต่แค่ตัดตัวการันต์ออก หากเจ้าหน้าที่ไม่พอใจก็จะทำการแทรกแซงและไม่อนุมัติให้เปลี่ยน

2.บรรทัดฐานของกฎหมายที่ร่ำเรียนกันมาว่า ลักษณะของกฎหมายย่อมมีผลบังคับได้โดยทั่วไป คือใช้บังคับแก่บุคคลทุกคนเท่าเทียมกัน ใช้ไม่ได้จริง เผาตำรานิติทิ้งได้เลย เพราะ เจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายแก่บุคคลชาวไทยพุทธเท่านั้น ส่วนลูกครึ่งสามารถตั้งชื่ออิงความหมายจากพจนากนุกรมต่างประเทศได้   หรือ บุคคลผู้นับถือศาสนาอิสลามก็ใช้ชื่อที่ไม่มีในภาษาไทยได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่