เมื่อ 6ปีที่แล้ว ผมได้เจอผู้หญิงคนนึง และเราทั้งสองคนได้ตัดสินใจที่จะคบหาดูใจกัน และลองตัดสินใจย้ายมาอยู่ด้วยกัน แรกๆอะไรก็ดีไปหมด จนเข้าปีที่สอง เขาได้คุยกับผมว่าขอให้ลดๆเรื่องติดเพื่อน และตั้งเป้าหมายชีวิตได้แล้ว ผมก็รับปากเขาว่าจะพยายามทำให้ได้ เขาคอยซัพพอร์ตผมทุกอย่าง ผมออกไปหาเพื่อนทุกวัน เริ่มเหลวไหล เริ่มมองข้าม เริ่มไม่สนใจ เริ่มไม่มีเวลาให้ แต่ผมก็ยังอยู่ด้วยกัน มีทะเลาะกันบ้าง ผมแอบไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นนอกกาย แต่นั้นแหละ มากหรือน้อย มันก็คือนอกใจซึ่งแน่นอนว่ามันทำร้ายความรู้สึกเขามากๆผมให้โอกาสและไม่หนีไปไหน จนมีวันนึงผมก็ทำสิ่งที่เขาขอไว้และไม่อยากให้สันเกิดขึ้นอีก เขาไปเจอแชทที่ผมคุยกับผู้หญิงคนอื่นอีกครั้ง และครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะกลับบ้านคืนนั้น ณ ตอนนั้นผมไม่ได้แคร์ความรู้สึกเขาเลย และยอมให้เขากลับบ้าน หลังจากวันนั้นผมก็คิดถึงเขานะคิดถึงมากและพยายามง้อเขา ซึ่งเขาก็ให้โอกาสอีกครั้ง แต่พอเขากลับมา ผมก็ยังเหลวไหล ติดเพื่อน ปล่อยให้เขาเข้านอนคนเดียว จนวันนึง เขาตัดสินใจที่จะเลิกกับผมจริงๆ ผมไม่สามารถขอให้เขาอยู่ได้อีกต่อไป ผมอยายามง้อเขาทุกวิถีทาง จนถึงวันนี้ เป็นเวลาที่ผมแยกกับเขาเข้าปีที่4แล้ว ผมเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง ตั้งใจที่จะทำงานสร้างอนาคต ออกไปหาเพื่อนน้อยลง และผมไม่กล้าที่จะเปิดใจให้ใครเข้ามาเข้ามาหรือแม้แต่จะคุยผมก็ไม่กล้าจนถึงทุกวันนี้ ยอมรับว่าทุกวันนี้ผมยังคิดถึงเขา และผู้หญิงคนนี้ยังยอมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กันและกัน
ยังคงคุยได้ทุกเรื่อง แค่ผมไม่สามารถคิดกับเขาได้เกินกว่าคำว่าเพื่อนได้อีกแล้ว ถ้าสามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้สักอย่าง ผมจะไม่ทำร้ายจิตใจเขาผมจะทำให้ทุกวันของเขามีแต่รอยยิ้ม สิ่งที่ได้จากเรื่องราวเหล่านี้คือ คุณอย่ามองข้ามคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณคอยเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างคุณในทุกๆเรื่องเพราะมันไใ่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
แค่อยากมาเล่า ผู้หญิงคนนึงสามารถใช้เวลารอให้เราเปลี่ยนได้ แต่มันไม่ตลอดไป
ยังคงคุยได้ทุกเรื่อง แค่ผมไม่สามารถคิดกับเขาได้เกินกว่าคำว่าเพื่อนได้อีกแล้ว ถ้าสามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้สักอย่าง ผมจะไม่ทำร้ายจิตใจเขาผมจะทำให้ทุกวันของเขามีแต่รอยยิ้ม สิ่งที่ได้จากเรื่องราวเหล่านี้คือ คุณอย่ามองข้ามคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณคอยเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างคุณในทุกๆเรื่องเพราะมันไใ่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว