ก่อนหน้านี้ จกขท. ได้มีการเขียนกระทู้เตือนภัยเรื่องของงานเสริมบนเฟสบุ้คที่หลอกลวง คนอยากทำงานไม่ได้เงิน คนอยากมีเงินไม่ได้งาน!!!
สมัยนี้ไว้ใจใครง่ายๆ ไม่ได้นะคะ จกขท. เจอกับตัว เมื่อไม่นานมานี้ เจออีกกกกกกกกก เพื่อนใกล้ตัวเสนอขายสินค้าราคาหมื่นนิดๆ
ซึ่งจริงๆแล้วเท่ากับเงินเดือนของดิฉันทั้งเดือนเลย กว่าจะหามาได้คือยากมาก ปฎิเสธเพื่อนไปหลายครั้ง แต่ก็ทั้งทักและโทรมา
พร้อมกับส่งรูปสินค้ามาเป็นระยะๆ (เป็นอาหารเสริมยี่ห้อดัง) ส่วนตัวชอบดูแลสุขภาพอยุ่แล้วเลยสนใจอยู่บ้าง
แต่เมื่อถามเรื่องของราคาก็มีกระอักกระอ่วนและพูดว่าต้องซื้อเป็นคอร์สๆ ไป ราคาสำหรับหนึ่งกระปุกอยู่ที่ประมาณ 1,990 บาทแต่ถ้าซื้อเป็นคอร์สก็จะอยู่ที่ หมื่นกว่าๆ จริงๆสำหรับคนอื่นมันค่อยข้างเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าหากไม่มีภาระ แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายทุกเดือน เกรงว่าจะไม่ไหว หรืออาจจะต้องมีการรูดบัตรเครดิตเพื่อทำการผ่อนชำระ แต่ด้วยความเกรงใจก็เลยซื้ออุดหนุนไปหนึ่งกระปุก ตัวเพื่อนขับรถสปรอ์ตหรูมาส่งของให้กับมือพร้อมกับถ่ายรูปและให้ดิฉันเซ็นเอกสารสัญญาข้อตกลงแต่ก็ไม่ได้ให้เก็บเอาไว้และรีบขับรถออกไปอย่างเร็ว ทิ้งไว้ด้วยความงงงวย
แต่ที่อุดหนุนคือมาแจ้งว่าเป็นราคาสำหรับโอนจองคอร์สพร้อมกับผ่อนชำระได้ x12 เดือน ตอนแรกที่ได้ฟังก็รู้สึกอึ้งๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ต่อจากนั้น จกขท. ก็หายเงียบไปเพราะว่าต้องทำงานทุกวัน ตัวเพื่อนได้มีเฟสบุ้คส่วนตัวกัน เพราะเป็นเพื่อนที่รู้จักกันตอนสมัยเรียน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากเพราะ จกขท. พูดน้อยพูดไม่ค่อยเก่ง จะออกแนวเด็กหน้าห้อง ตัวเพื่อนที่ขายสินค้าหน้าตาดีและนิสัยรวยอยู่แล้ว ไม่เคยทักคุยกันเรื่องส่วนตัว เพราะเพื่อนจะโพสขายแต่สินค้าชนิดนี้ หลังจาก จกขท. ไม่ได้เปิดเฟสบุ้คมาหลายวัน เห็นข้อความทวงถามเรื่องของค่างวดที่จะต้องผ่อนชำระ ได้มีการตอบกลับไปว่ายังไม่พร้อม เพราะรอเงินเดือนออก ซึ่งจะออกตอนสิ้นเดือน แต่แล้วก็ไม่ได้มีการโทรหาแต่ข้อความมาด่าทอกันเพราะเหตุผลเพราะอยากได้เงินเร็วๆ ดิฉันไม่ได้ตอบกลับเพราะได้พูดไปแล้วว่าถ้าเงินออกจะรีบจ่ายให้ ตัวเพื่อนไม่รอและบอกกับทางสามีของเธอให้ทักเฟสบุ้คส่วนตัวมาหา และไม่ได้มีการพูดทวงถาม ต่อมาเริ่มมีการโพสประจานหน้าเฟสบุ้คและทักหาเพื่อนในเฟสบุ้คที่เป็นเพื่อนสนิทและญาติของ จกขท. ทักไปเล่าเหตุการณ์และส่งรูปถ่ายข้อมูลส่วนตัวต่างๆให้กับพวกเขาและอ้างว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมเพราะไม่ได้รับเงิน และข้อความต่างๆนาๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย คือจะบอกอย่างไรดีตัวดิฉันอายุสามสิบแล้วไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับญาติและคนสนิท ตัวเพื่อนนั้นไม่ยอมด่าว่าประจานผ่านโซเชี่ยลต่างๆนาๆ จนดิฉันไม่ไหวบล้อคเฟสบุ้คของเขาไป เพียงเพราะเรื่องเงินๆทองๆ ทำให้ต้องเสียทั้งเพื่อน เสียทั้งเวลา การนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปเผยแพร่เป็นการกระทำที่ผิดไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงกล้าทำขนาดนี้ ไม่ทราบว่าจะต้องมีการอบรมสั่งสอนมาแบบไหน ถึงได้ทำตัวแบบนี้ ญาติบางคนของดิฉันไม่เอาความแต่คนสนิทจริงๆ อย่างครอบครัวของดิฉันรู้สึกว่ามันเกินไปมาก เพราะการเซ็นสัญญาก็ไม่ได้ให้อีกฝ่ายรับรู้และไม่ได้ให้เก็บไว้กับเจ้าตัว คือก็บอกแล้วว่าเงินออกจะรีบจ่ายให้ สามีของเพื่อนโทรหาคนสนิทของดิฉันและแจ้งว่าจะไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ส่วนตัวของดิฉันให้แจ้งความและบอกว่าสินค้ายังไม่ได้เปิดใช้งานให้นำกลับไปด้วยยกเลิกสัญญา ตัวเพื่อนโพสด่าในโลกโซเชี่ยลทุกอย่าง และมีการใส่ข้อความที่เกินจริง เหมือนดิฉันไปขโมยสินค้าของเขามาโดยไม่บอกกล่าว ทั้งๆที่ตัวฉันได้มีการโอนเงินไปให้เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่ได้พูดอะไรวันที่มาส่งของก็กดดันและทำท่าทางน่ากลัวจนทำตัวไม่ถูก ที่เสียความรู้สึกคือตัวเพื่อนเอาไปบอกเล่ากับคนอื่นๆ โดยบิดเบือนจากความเป็นจริง ทำให้ดิฉันโมโหมากและไม่อยากได้สินค้าตัวนี้(เหตุเพราะความใจดีเกินไป) จึงตัดสินใจส่งคืนให้ พร้อมกับเลิกคบเพื่อนคนนี้ไปเลย
จริงๆครอบครัว จกขท. อยากให้ถอนแจ้งความเพราะเรื่องคดีที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ และไม่ควรมีการดึงโซเชี่ยลเข้ามาเกี่ยวเพราะทำให้ลูกค้าเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งทางตรงและทางอ้อม เสียความน่าเชื่อถือ โชคดีที่ตัวเพื่อนคนนี้ทำงานอยู่คนละพื้นที่กับดิฉันจึงไม่กระทบเรื่องของการทำงานแต่กระทบชีวิตประจำวันเพราะมีการโพสนินทา ไม่เกรงใจใคร ไม่สนลูกใคร ตัวดิฉันหวังว่าเขาจะเข้าใจและพูดคุยกันดีๆ เพื่อปรับความเข้าใจ ไม่เอาสินค้าตัวนี้ก็มารับคืนไป พร้อมกับไม่ต้องมีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะถ้าหากไม่ยอมความยอมจบ ทั้างสองฝ่าย ทางฝ่ายดิฉันก็จะแจ้งความเช่นเดียวกัน เพราะลักษณะการกระทำแบบนี้เหมือนกับมิจฉาชีพที่มาหลอกขายสินค้ากันมากกว่า เสียความรู้สึกสุดๆเลยค่ะ เสียเวลาด้วย
:: เจ็บที่สุดของการโดนหลอก คือจากการโดนคนใกล้ตัวหลอก ::
สมัยนี้ไว้ใจใครง่ายๆ ไม่ได้นะคะ จกขท. เจอกับตัว เมื่อไม่นานมานี้ เจออีกกกกกกกกก เพื่อนใกล้ตัวเสนอขายสินค้าราคาหมื่นนิดๆ
ซึ่งจริงๆแล้วเท่ากับเงินเดือนของดิฉันทั้งเดือนเลย กว่าจะหามาได้คือยากมาก ปฎิเสธเพื่อนไปหลายครั้ง แต่ก็ทั้งทักและโทรมา
พร้อมกับส่งรูปสินค้ามาเป็นระยะๆ (เป็นอาหารเสริมยี่ห้อดัง) ส่วนตัวชอบดูแลสุขภาพอยุ่แล้วเลยสนใจอยู่บ้าง
แต่เมื่อถามเรื่องของราคาก็มีกระอักกระอ่วนและพูดว่าต้องซื้อเป็นคอร์สๆ ไป ราคาสำหรับหนึ่งกระปุกอยู่ที่ประมาณ 1,990 บาทแต่ถ้าซื้อเป็นคอร์สก็จะอยู่ที่ หมื่นกว่าๆ จริงๆสำหรับคนอื่นมันค่อยข้างเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าหากไม่มีภาระ แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายทุกเดือน เกรงว่าจะไม่ไหว หรืออาจจะต้องมีการรูดบัตรเครดิตเพื่อทำการผ่อนชำระ แต่ด้วยความเกรงใจก็เลยซื้ออุดหนุนไปหนึ่งกระปุก ตัวเพื่อนขับรถสปรอ์ตหรูมาส่งของให้กับมือพร้อมกับถ่ายรูปและให้ดิฉันเซ็นเอกสารสัญญาข้อตกลงแต่ก็ไม่ได้ให้เก็บเอาไว้และรีบขับรถออกไปอย่างเร็ว ทิ้งไว้ด้วยความงงงวย
แต่ที่อุดหนุนคือมาแจ้งว่าเป็นราคาสำหรับโอนจองคอร์สพร้อมกับผ่อนชำระได้ x12 เดือน ตอนแรกที่ได้ฟังก็รู้สึกอึ้งๆ เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ต่อจากนั้น จกขท. ก็หายเงียบไปเพราะว่าต้องทำงานทุกวัน ตัวเพื่อนได้มีเฟสบุ้คส่วนตัวกัน เพราะเป็นเพื่อนที่รู้จักกันตอนสมัยเรียน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากเพราะ จกขท. พูดน้อยพูดไม่ค่อยเก่ง จะออกแนวเด็กหน้าห้อง ตัวเพื่อนที่ขายสินค้าหน้าตาดีและนิสัยรวยอยู่แล้ว ไม่เคยทักคุยกันเรื่องส่วนตัว เพราะเพื่อนจะโพสขายแต่สินค้าชนิดนี้ หลังจาก จกขท. ไม่ได้เปิดเฟสบุ้คมาหลายวัน เห็นข้อความทวงถามเรื่องของค่างวดที่จะต้องผ่อนชำระ ได้มีการตอบกลับไปว่ายังไม่พร้อม เพราะรอเงินเดือนออก ซึ่งจะออกตอนสิ้นเดือน แต่แล้วก็ไม่ได้มีการโทรหาแต่ข้อความมาด่าทอกันเพราะเหตุผลเพราะอยากได้เงินเร็วๆ ดิฉันไม่ได้ตอบกลับเพราะได้พูดไปแล้วว่าถ้าเงินออกจะรีบจ่ายให้ ตัวเพื่อนไม่รอและบอกกับทางสามีของเธอให้ทักเฟสบุ้คส่วนตัวมาหา และไม่ได้มีการพูดทวงถาม ต่อมาเริ่มมีการโพสประจานหน้าเฟสบุ้คและทักหาเพื่อนในเฟสบุ้คที่เป็นเพื่อนสนิทและญาติของ จกขท. ทักไปเล่าเหตุการณ์และส่งรูปถ่ายข้อมูลส่วนตัวต่างๆให้กับพวกเขาและอ้างว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมเพราะไม่ได้รับเงิน และข้อความต่างๆนาๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย คือจะบอกอย่างไรดีตัวดิฉันอายุสามสิบแล้วไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับญาติและคนสนิท ตัวเพื่อนนั้นไม่ยอมด่าว่าประจานผ่านโซเชี่ยลต่างๆนาๆ จนดิฉันไม่ไหวบล้อคเฟสบุ้คของเขาไป เพียงเพราะเรื่องเงินๆทองๆ ทำให้ต้องเสียทั้งเพื่อน เสียทั้งเวลา การนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปเผยแพร่เป็นการกระทำที่ผิดไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ไม่เข้าใจทำไมถึงกล้าทำขนาดนี้ ไม่ทราบว่าจะต้องมีการอบรมสั่งสอนมาแบบไหน ถึงได้ทำตัวแบบนี้ ญาติบางคนของดิฉันไม่เอาความแต่คนสนิทจริงๆ อย่างครอบครัวของดิฉันรู้สึกว่ามันเกินไปมาก เพราะการเซ็นสัญญาก็ไม่ได้ให้อีกฝ่ายรับรู้และไม่ได้ให้เก็บไว้กับเจ้าตัว คือก็บอกแล้วว่าเงินออกจะรีบจ่ายให้ สามีของเพื่อนโทรหาคนสนิทของดิฉันและแจ้งว่าจะไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ส่วนตัวของดิฉันให้แจ้งความและบอกว่าสินค้ายังไม่ได้เปิดใช้งานให้นำกลับไปด้วยยกเลิกสัญญา ตัวเพื่อนโพสด่าในโลกโซเชี่ยลทุกอย่าง และมีการใส่ข้อความที่เกินจริง เหมือนดิฉันไปขโมยสินค้าของเขามาโดยไม่บอกกล่าว ทั้งๆที่ตัวฉันได้มีการโอนเงินไปให้เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่ได้พูดอะไรวันที่มาส่งของก็กดดันและทำท่าทางน่ากลัวจนทำตัวไม่ถูก ที่เสียความรู้สึกคือตัวเพื่อนเอาไปบอกเล่ากับคนอื่นๆ โดยบิดเบือนจากความเป็นจริง ทำให้ดิฉันโมโหมากและไม่อยากได้สินค้าตัวนี้(เหตุเพราะความใจดีเกินไป) จึงตัดสินใจส่งคืนให้ พร้อมกับเลิกคบเพื่อนคนนี้ไปเลย
จริงๆครอบครัว จกขท. อยากให้ถอนแจ้งความเพราะเรื่องคดีที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ และไม่ควรมีการดึงโซเชี่ยลเข้ามาเกี่ยวเพราะทำให้ลูกค้าเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งทางตรงและทางอ้อม เสียความน่าเชื่อถือ โชคดีที่ตัวเพื่อนคนนี้ทำงานอยู่คนละพื้นที่กับดิฉันจึงไม่กระทบเรื่องของการทำงานแต่กระทบชีวิตประจำวันเพราะมีการโพสนินทา ไม่เกรงใจใคร ไม่สนลูกใคร ตัวดิฉันหวังว่าเขาจะเข้าใจและพูดคุยกันดีๆ เพื่อปรับความเข้าใจ ไม่เอาสินค้าตัวนี้ก็มารับคืนไป พร้อมกับไม่ต้องมีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะถ้าหากไม่ยอมความยอมจบ ทั้างสองฝ่าย ทางฝ่ายดิฉันก็จะแจ้งความเช่นเดียวกัน เพราะลักษณะการกระทำแบบนี้เหมือนกับมิจฉาชีพที่มาหลอกขายสินค้ากันมากกว่า เสียความรู้สึกสุดๆเลยค่ะ เสียเวลาด้วย