ทราบว่าคนเขียนบทเรื่องนี้ (คุณสมเกียรติ์ วิทุรานิช) มีผลงานเขียนบทภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นคือ October Sonata
เลยรู้สึกว่าเส้นเรื่องของรถรางฯ เหมือนถูกต่อยอดมาจาก October Sonata แต่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยและความเป็นละครทีวีมากขึ้น
รถรางเที่ยวสุดท้าย เล่าเรื่องรักสามเส้าของคุณลุงหัวโบราณ ยึดมั่นไม่ยอมยืดหยุ่น กับลุงอีกคนที่โอบรับและปรับตัวเข้ากับสังคม ที่มี Conflict คือหญิงสาวที่เป็นรักแรกในอดีต มาเจอกันในวันที่รถรางให้บริการวันสุดท้าย
ส่วน October Sonata เล่าเรื่องในมุมสาวโรงงาน กับชายหนุ่ม 2 คน ที่คนหนึ่งกำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก ส่วนอีกคนมุ่งมั่นตั้งหลักสร้างตัว
แล้วพอดูรถรางฯ ได้สักครึ่งเรื่อง (คืนนี้เพิ่งจบตอน 6 ไป) หลายประโยคแอบเสียดสีสังคมปัจจุบันอยู่เนืองๆ
บางฉากแทบไม่ต้องตีความ แต่บางฉากก็ต้องอาศัยการเปรียบเปรย เป็นการดูละครที่สนุกไปอีกแบบ
นอกเหนือจากการได้ชมฝีมือของอาหนิง นิรุตติ์ อาหมู สมภพ และพี่ต๊งเหน่ง รัดเกล้า ในบทนำเด่นๆ บนจอแก้ว
แถมยังมีฉากย้อนอดีตที่แปลกใหม่ ใช้สไตล์การเล่าแบบละครเวทีเพื่อเผยให้เห็นมุมความคิดของตัวละครผ่านสายตาของคู่หูนักเขียนในเรื่อง
ใครที่ชอบดูละคร หนัง ซีรีส์ ที่อาศัยการตีความ วิเคราะห์ ใช้สัญญะ เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน ยังมีอีก 6 ตอน ไม่สายที่จะเริ่มดู
รถรางเที่ยวสุดท้าย ดูไปเรื่อยๆ แล้วนึกถึงหนัง October Sonata