JJNY : “ชัยธวัช”ย้ำจุดยืนก้าวไกล│วิโรจน์ชี้คนอื่นควรรับปฏิบัติแบบเดียวกัน│แฮชแท็ก‘ทักษิณ’ขึ้นอันดับ1│แบงก์เร่งสกัด NPL

“ชัยธวัช” ย้ำจุดยืนก้าวไกล ต้องอำนวยความยุติธรรมทุกคน
https://tna.mcot.net/politics-1321795
 
 
กทม. 18 ก.พ.- “ชัยธวัช” บอกอดสงสัยไม่ได้ ป่วยจริงหรือไม่ “ทักษิณ” พักโทษปุ๊บ ออกจาก รพ.ทันที ชี้ อาจเรียก “นิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน” ได้ ย้ำจุดยืน “ก้าวไกล” ต้องอำนวยความยุติธรรมเท่ากันทุกคน มองเป็นสิทธิ “อนุทิน-นักการเมือง” เตรียมตัวเข้ากราบ บอกไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ระวังให้อยู่ในกรอบการพักโทษ โต้ “ภูมิธรรม” ถ้าไม่เกิดนายกฯ 2 คนก็ดี ย้ำเป็นธรรมดาที่สังคมคิด
 
ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล เขตบางแค นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษและกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันนี้ ว่า เราอยากจะสื่อสารแม้ว่าหลายคนจะเห็นว่า นายทักษิณ ในฐานะอดีตผู้นำทางการเมือง ถูกรัฐประหาร และมีการดำเนินคดีตามมาหลังจากนั้น และมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นสมควรได้รับความยุติธรรม แต่เราอยากจะบอกว่า แน่นอนใครก็ตามที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐประหารหรือถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ควรจะได้รับความยุติธรรม แต่เราไม่ควรใช้วิธีการที่ไปตอกย้ำกระบวนการยุติธรรมที่สองมาตรฐาน การปฏิบัติที่ไม่เสมอภาคเท่าเทียมกัน เราอาจจะเรียกว่าเป็นระบบนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน เพราะสุดท้ายก็ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ คนที่ควรจะได้รับการอำนวยความยุติธรรม ควรจะมีแค่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือควรจะเป็นคนทุกกลุ่ม ตนคิดว่าเป็นหลักการสำคัญที่พรรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ
 
เมื่อถามว่าวันนี้ที่นายทักษิณ กลับบ้านได้ แสดงว่า 180 วันที่ผ่านมา ตั้งอสงสัยได้หรือไม่ว่าไม่ป่วยจริง นายชัยธวัชกล่าวว่า เป็นประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยแน่นอน ที่ผ่านมาในทักษิณอ้างว่า มีเหตุเรื่องสุขภาพ ต้องอยู่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ แตกต่างจากผู้ต้องขังคนอื่น ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็มีการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ ความโปร่งใส ดังนั้นเรื่องนี้ทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้ เมื่อเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ทันที เป็นการตอกย้ำการเลือกปฏิบัติ ซึ่งไม่เสมอภาคเท่าเทียมกัน เราคิดว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น สังคมคาดหวังว่า เมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบประชาธิปไตยที่ดีมากขึ้น มีการอำนวยความยุติธรรมให้กับคนมากขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ตอกย้ำปัญหาเดิมๆ ให้หนักหน่วงมากขึ้น
 
เมื่อถามว่าประเมินคนที่มีความเห็นต่างจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็ไปเพิ่มความไม่พอใจ ความคับข้องใจ แทนที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง ซึ่งตอนนี้คิดว่าวิธีการที่ดีที่สุด คือการอำนวยความยุติธรรมให้ทุกคนแบบเสมอภาค
 
ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาล เช่น นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมเข้าไปกราบนายทักษิณนั้น มองปรากฏการณ์นี้อย่างไร นายชัยธวัช ระบุว่า คนที่เคารพนับถือ รู้จักชอบพอนายทักษิณก็คงจะมีสิทธิ์ไปเข้าพบ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งการพักโทษนั้น ต้องระมัดระวัง ต้องอยู่ในกรอบที่สังคมรับได้ ส่วนจะกระทบกับการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องดูในอนาคต
 
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณออกมาจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนเคยเตือนว่าถ้ารัฐบาลนี้บริหารจัดการไม่ดี แล้วเกิดสภาวะเสมือนนายกรัฐมนตรีมากกว่าหนึ่งคน เพราะมีหลายคนบอกว่าอาจจะมากกว่าสองคน ก็จะไม่เป็นผลดีกับตัวนายกรัฐมนตรีเอง และอาจทำให้สถานการณ์ตรงนี้เพิ่มความกดดันให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้
 
เมื่อถามถึง กรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าการคิดว่านายกรัฐมนตรี 2 คนเป็นการคิดมากเกินไปนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า หากไม่เกิดขึ้นก็ดี ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมคิดไปได้
 
เมื่อถามว่า การออกมาของนายทักษิณจะทำให้คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล ลดลงหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงเป็นคนละเรื่องกัน ความนิยมของพรรคก้าวไกล คงขึ้นอยู่กับการทำงานของพรรคเอง ว่าจะสามารถทำงานอย่างที่ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่
 
เมื่อถามว่า ต่อจากนี้จะต้องจับตาอะไรบ้างหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า หลายส่วนคงอยากทราบความชัดเจน ความโปร่งใสในการพิจารณาเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบ กฎเกณฑ์ต่างๆ ของนายทักษิณ ซึ่งสืบเนื่องเนื่องมาจากเรื่องของสิทธิในการที่จะได้รับการรักษาตัว มาจนถึงเรื่องการพักโทที่ว่าทำไมนายทักษิณจึงได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ แล้วการปฏิบัติหลังจากนี้จะเสมอภาคเท่าเทียมกันหรือไม่ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ที่จะต้องสร้างความกระจ่างให้ดี
 
เมื่อถามว่า มองทิศทางการเมืองหลังจากนี้อย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลขณะนี้คือสังคมยังเฝ้ารอว่า มีรัฐบาลใหม่มาแล้วจะมีการผลักดันนโยบายสำคัญๆ สำเร็จหรือไม่ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่อย่างไรไม่ว่าจะในทางการเมือง ในทางกระบวนการยุติธรรม ในทางเศรษฐกิจ สังคม ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่นายเศรษฐาและรัฐบาลกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่านายทักษิณจะได้รับการลงโทษออกมาหรือไม่ แต่นี่เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
 
เมื่อถามว่า ทางพรรคก้าวไกล จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องของนายทักษิณเลยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงยังเร็วไปที่จะมีการตั้งคณะกรรมการอะไร แต่ตนคิดว่าพรรคฝ่ายค้านคงจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ ที่ยังมีอีกหลายกลไกที่จะสามารถตรวจสอบได้ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการอะไร .312.-สำนักข่าวไทย



วิโรจน์ ชี้ ถ้าพักโทษ ทักษิณ เรื่องมาตรฐาน คนอื่นควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8101559

“วิโรจน์” ชี้ ถ้าพักโทษ “ทักษิณ” เป็นเรื่องมาตรฐาน ประชาชนคนอื่นๆ ก็ควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน ข้อครหาได้รับอภิสิทธิ์ จะคลี่คลายเอง
 
วันที่ 18 ก.พ. 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่าน x หรือทวิตเตอร์ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ และเดินทางกลับบ้านพัก ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้

โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า หากการ พักโทษทักษิณ เป็นเรื่องมาตรฐาน ประชาชนคนอื่นๆ ก็ควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับคุณทักษิณด้วย
 
ซึ่งรัฐบาลก็ปฏิบัติในลักษณะเดียวกันกับคนอื่นๆ ให้สังคมได้ประจักษ์สิ ข้อครหาว่าคุณทักษิณได้รับอภิสิทธิ์ก็จะคลี่คลายไปเอง แต่ถ้าไม่มีกรณีอื่นเลย ประชาชนก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา” นายวิโรจน์ ระบุ
 
https://twitter.com/wirojlak/status/1759068436158882073



แฮชแท็ก ‘ทักษิณ’ ขึ้นอันดับ 1 หลังโบกมือลารพ. พักฟื้นต่อบ้านจันทร์ส่องหล้า
https://www.dailynews.co.th/news/3185578/

แฮชแท็ก ‘ทักษิณ’ ขึ้นอันดับ 1 หลังโบกมือลารพ. พักฟื้นต่อบ้านจันทร์ส่องหล้า

บนโลกออนไลน์ร้อนระอุ! #ทักษิณ พุ่งขึ้นอันดับ 1 หลังได้รับพักโทษโบกมือลาโรงพยาบาลตำรวจไปพักฟื้นต่อที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

หลังจากที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษ โดยเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจวันที่ 18 ก.พ. 2567 กลับไปยังบ้านพักจันทร์ส่องหล้าย่านจรัญสนิทวงศ์ เพื่อเข้ารับการพักโทษตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ หลังจากถูกจองจำนอกเรือนจำครบ 180 วัน ซึ่งมีลูกสาว แพทองธาร และ พินทองทา มารับด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกันบนโลกออนไลน์ก็มีชาวเน็ตแห่ติดแฮชแท็ก #ทักษิณ พุ่งขึ้นอันดับ 1 ในประเทศไทยบนเทรนด์ X โดยมีทั้งชาวเน็ตบางกลุ่มได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการได้รับการพักโทษและปล่อยตัวกลับ รวมถึงก็มีแฟนคลับเสื้อแดงต่างมาคอมเมนต์ร่วมยินดีกันล้นหลามอีกด้วย….


 
แบงก์เร่งสกัด NPL พุ่ง ปรับโครงสร้างหนี้บ้าน-รถ ยืดเทอม-ผ่อนตามกำลัง
https://www.prachachat.net/finance/news-1503919

แบงก์ขานรับมาตรการ ธปท. เร่งปรับโครงสร้างหนี้สินเชื่อรายย่อย-ธุรกิจ กันตัวเลข เอ็นพีแอล ขยับ “กรุงไทย” โฟกัสกลุ่มเปราะบาง รายได้น้อย “ทิสโก้” เผยตัวเลขปรับโครงสร้างหนี้เฉลี่ย 200-300 รายต่อเดือน ส่วน “ทีทีบี” พร้อมช่วยลูกหนี้รถ-บ้าน ยืดเทอม-ผ่อนตามกำลัง ลดยึดรถ ฟาก “กรุงศรีฯ” ชี้ ลูกค้าเริ่มส่งสัญญาณเร่งเสนอแผนปรับโครงสร้างตามกระแสเงินสด-ดูเงินหลังหักชำระหนี้ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเอ็นพีแอลอยู่ในกรอบ 2.60-2.85%
 
นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้มาก่อน หากเริ่มมีปัญหาการชำระหนี้ให้ผู้ให้บริการเสนอแนวทางการช่วยเหลือสำหรับลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาชำระหนี้แต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) อย่างน้อย 1 ครั้ง และสำหรับลูกหนี้เอ็นพีแอลอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยจะไม่ถูกโอนขายหนี้ก่อน 60 วัน นับจากวันที่ผู้ให้บริการเสนอเงื่อนไขปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้

เร่งช่วยป้องกันลูกหนี้ตกชั้น
 
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ให้ธนาคารช่วยเหลือลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ เป็นสิ่งที่ทุกธนาคารรวมทั้งกรุงไทยที่มีการดำเนินการมาต่อเนื่อง
 
โดยกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบางที่ยังต้องช่วยประคองต่อเนื่อง หลังจากออกจากช่วงโควิด-19 และกลุ่มที่มีรายได้น้อยและปานกลาง มาตรการที่ช่วยเหลือจะเน้นยืดเทอม ปรับเทอมการชำระหนี้ให้เหมาะสม และมีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมโดยที่ไม่สูญเสียวินัยกับระบบ
 
หลัง ธปท.สื่อสารชัดเจนจะเป็นสแตนดาร์ดที่จะเป็นกรอบให้ธนาคารทำทั้งระบบ เดิมต่างคนต่างทำ จากนี้ไปเชื่อว่าจะเห็นการปรับโครงสร้างหนี้ที่มากขึ้น เพราะแบงก์ไม่มีใครชอบตัวเลขหนี้เสีย หากดูตัวเลขจากข้อมูลของเครดิตบูโรจะพบว่า กลุ่มรายได้ปานกลางและน้อย หรือราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท ถือเป็นกลุ่มเปราะบางก็ต้องได้รับการดูแลและการช่วยเหลือ ซึ่งทุกธนาคารรวมทั้งกรุงไทยเองก็พยายามทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง
 
ขณะที่ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการปรับโครงสร้างหนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 เพื่อไม่ให้ลูกค้าตกชั้นเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) หลังจากสถานการณ์คลี่คลายพบว่า ลูกค้าเช่าซื้อสามารถกลับมาเป็นปกติถึง 70-80%
 
โดยช่วงก่อนโควิด-19 มีลูกค้าขอปรับโครงสร้างหนี้เฉลี่ย 50-100 รายต่อเดือน และเพิ่มขึ้นเป็น 400-500 รายต่อเดือน ในช่วงโควิด-19 และปัจจุบันลดลงมาเหลือ 200-300 รายต่อเดือน คาดว่าปีนี้ตัวเลขอาจจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงสอดคล้องกับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อที่มีอยู่ 7 แสนราย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่