เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4429260
คอนโดตีปีกรับ วีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน เปิดทำเลฮอต แบรนด์ครองที่หนึ่งในใจต่างชาติ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2567 ยังคงอยู่บนความท้าทายจากสารพัดปัจจัยเสี่ยงที่ติดพันมาจากปี 2566 ทำให้ปีนี้ตลาดต่างชาติจึงเป็นดีมานด์สำคัญ ที่จะมาชดเชยตลาดในประเทศที่กำลังซื้ออ่อนแอ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมที่ต่างชาติสามารถซื้อได้ตามกฎหมายในสัดส่วน 49%
ลุ้นวีซ่าฟรีถาวรปลุกตลาดคึก
นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายโควต้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ซึ่งบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 จะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามามากขึ้นและส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมของไทยด้วย เนื่องจากชาวจีนเป็นลูกค้าหลักที่มาซื้อคอนโดมิเนียม แต่หลังเกิดโควิดทำให้หายไป ขณะนี้เริ่มกลับมาแล้ว หลังเปิดประเทศ การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว มีวีซ่าฟรี แต่ยังไม่หวือหวามากนัก เพราะจีนกำลังมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศด้วย อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ถือว่าจีนยังเป็นลูกค้าหลักของตลาดคอนโดไทย
“ตอนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 10-20% ส่วนใหญ่ซื้อลงทุนปล่อยเช่าให้กับต่างชาติและคนจีนด้วยกัน ระยะเวลาเช่าตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนหรือนานกว่านั้น อัตราค่าเช่าถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนเดือนละ 10,000 กว่าบาท แบบ 2 ห้องนอนเดือนละ 20,000-30,000 บาท โดยได้ผลตอบแทนประมาณ 3-6% ด้านระดับราคาที่ซื้อมีตั้งแต่ 3-50 ล้านบาท และซื้อมากสุด 5-10 ห้อง ยังไม่มีซื้อเป็นบิ๊กล็อตเหมือนเมื่อก่อน” นายไซม่อนกล่าว
กทม.-ภูเก็ต-เชียงใหม่คึก
นายไซม่อนกล่าวว่า ส่วนทำเลที่ต่างชาตินิยมซื้อ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นโซนพระราม 9 รัชดาภิเษก สุขุมวิท สาทร พระราม 4 ลูกค้าเป็นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง จะซื้อของแสนสิริ เอพี ศุภาลัย แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ส่วนที่เชียงใหม่อยู่ในย่านช้างคลาน สันกำแพง สันทราย ลูกค้าจะเป็นชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ และซื้อโครงการของอรสิริน ขณะที่ภูเก็ตอยู่โซนใกล้เซ็นทรัล หาดไม้ขาว ลากูนา ส่วนบางเทายังไม่มาก โดยลูกค้าหลักเป็นรัสเซีย ยุโรป และจีน จะซื้อของแสนสิริ ศุภาลัย ออริจิ้น โดยแสนสิริเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจของชาวต่างชาติ
“บริษัทคาดหวังหลังมีวีซ่าฟรีถาวร ทำให้ตลาดคอนโดคึกคักยิ่งขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขาย 800-900 ยูนิต คิดเป็นรายได้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 มียอดขาย 500 ยูนิต และรายได้ 4,000-5,000 ล้านบาท แต่ยังถือว่ารายได้ยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดที่เคยมียอดขาย 3,500 ยูนิต และรายได้ 20,000-30,000 ล้านบาท” นายไซม่อนกล่าว
‘อนันดา’ชี้คอนโดพร้อมอยู่ขายดี
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่างที่กำลังซื้ออ่อนแอ เนื่องจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ โดยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สูงถึง 40-50% สำหรับที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 3 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังการลงทุน ดังนั้นตลาดต่างชาติจึงเป็นความหวังของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่ต่างชาติให้ความสนใจและสามารถซื้อได้ตามกฎหมายในสัดส่วน 49% ของพื้นที่โครงการ
นายประเสริฐกล่าวว่า ปัจจุบันอนันดามีสต๊อกบ้านและคอนโดมิเนียมพร้อมโอนและอยู่ระหว่างก่อสร้าง 47,000 ล้านบาท โดยพร้อมโอนในปีนี้ 18,500 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า และคาดว่าสามารถสร้างรายได้ 15,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2566 มีรายได้ 13,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายตั้งเป้า 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2566 ที่ทำยอดขายได้ 20,000 ล้านบาท โดยในนี้มียอดขายต่างชาติ 7,000 ล้านบาท เติบโต 102%
จีน-ไต้หวัน-พม่าแห่ซื้อ
นายประเสริฐกล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้ามียอดขายตลาดต่างชาติ 8,000 ล้านบาท หลังได้ขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ เพิ่ม เช่น ไต้หวัน เมียนมา และผลจากการที่รัฐบาลมีมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน จะช่วยเพิ่มดีมานด์ต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยลูกค้าหลักยังเป็นจีนอยู่ที่ 43% รองลงมาไต้หวันและเมียนมา ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 ในทำเลในกลางเมือง ทั้งอยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งจะซื้อด้วยเงินสด โดยจีนยังเป็นผู้ซื้อราคาแพงสุด 40-50 ล้านบาท
“หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาแวะชมไซต์โครงการมากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้เรามียอดขายแล้ว 2,100 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายต่างชาติ 35%” นายประเสริฐกล่าว
เศรษฐีเยอรมันทุ่มซื้อเพนต์เฮาส์
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการต้นสนวัน เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมซุปเปอร์ลักชัวรี่ชิดลม-เพลินจิต ระดับราคา 23-190 ล้านบาท มูลค่า 3,000 ล้านบาท ยังเหลือขาย 7 ยูนิต ทั้ง 1 ห้องนอนและเพนต์เฮาส์ ซึ่งราคาแพงสุด 190 ล้านบาท มีนักธุรกิจเยอรมันซื้อไปแล้ว ซึ่งโครงการนี้มีต่างชาติซื้อแล้ว 25% ยังไม่เต็มโควต้า 49% ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจจากฮ่องกง ไต้หวัน เยอรมัน ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อสดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่จีนยังไม่มี คาดว่ามีมาตรการวีซ่าฟรีถาวรจะทำให้เข้ามามากขึ้น
10 อันดับประเทศ ที่ซื้อ “คอนโดฯในไทย” มากสุดปี 2566
https://mgronline.com/infographic/detail/9670000014779
คอนโดตีปีกรับ วีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน เปิดทำเลฮอต แบรนด์ครอง ‘ที่หนึ่งในใจ’ ต่างชาติ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4429260
คอนโดตีปีกรับ วีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน เปิดทำเลฮอต แบรนด์ครองที่หนึ่งในใจต่างชาติ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2567 ยังคงอยู่บนความท้าทายจากสารพัดปัจจัยเสี่ยงที่ติดพันมาจากปี 2566 ทำให้ปีนี้ตลาดต่างชาติจึงเป็นดีมานด์สำคัญ ที่จะมาชดเชยตลาดในประเทศที่กำลังซื้ออ่อนแอ โดยเฉพาะในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมที่ต่างชาติสามารถซื้อได้ตามกฎหมายในสัดส่วน 49%
ลุ้นวีซ่าฟรีถาวรปลุกตลาดคึก
นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายโควต้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน ซึ่งบังคับใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 จะทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามามากขึ้นและส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมของไทยด้วย เนื่องจากชาวจีนเป็นลูกค้าหลักที่มาซื้อคอนโดมิเนียม แต่หลังเกิดโควิดทำให้หายไป ขณะนี้เริ่มกลับมาแล้ว หลังเปิดประเทศ การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว มีวีซ่าฟรี แต่ยังไม่หวือหวามากนัก เพราะจีนกำลังมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศด้วย อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่ถือว่าจีนยังเป็นลูกค้าหลักของตลาดคอนโดไทย
“ตอนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น 10-20% ส่วนใหญ่ซื้อลงทุนปล่อยเช่าให้กับต่างชาติและคนจีนด้วยกัน ระยะเวลาเช่าตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนหรือนานกว่านั้น อัตราค่าเช่าถ้าเป็นแบบ 1 ห้องนอนเดือนละ 10,000 กว่าบาท แบบ 2 ห้องนอนเดือนละ 20,000-30,000 บาท โดยได้ผลตอบแทนประมาณ 3-6% ด้านระดับราคาที่ซื้อมีตั้งแต่ 3-50 ล้านบาท และซื้อมากสุด 5-10 ห้อง ยังไม่มีซื้อเป็นบิ๊กล็อตเหมือนเมื่อก่อน” นายไซม่อนกล่าว
กทม.-ภูเก็ต-เชียงใหม่คึก
นายไซม่อนกล่าวว่า ส่วนทำเลที่ต่างชาตินิยมซื้อ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นโซนพระราม 9 รัชดาภิเษก สุขุมวิท สาทร พระราม 4 ลูกค้าเป็นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง จะซื้อของแสนสิริ เอพี ศุภาลัย แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ส่วนที่เชียงใหม่อยู่ในย่านช้างคลาน สันกำแพง สันทราย ลูกค้าจะเป็นชาวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ และซื้อโครงการของอรสิริน ขณะที่ภูเก็ตอยู่โซนใกล้เซ็นทรัล หาดไม้ขาว ลากูนา ส่วนบางเทายังไม่มาก โดยลูกค้าหลักเป็นรัสเซีย ยุโรป และจีน จะซื้อของแสนสิริ ศุภาลัย ออริจิ้น โดยแสนสิริเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจของชาวต่างชาติ
“บริษัทคาดหวังหลังมีวีซ่าฟรีถาวร ทำให้ตลาดคอนโดคึกคักยิ่งขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขาย 800-900 ยูนิต คิดเป็นรายได้ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 มียอดขาย 500 ยูนิต และรายได้ 4,000-5,000 ล้านบาท แต่ยังถือว่ารายได้ยังไม่กลับมาเท่ากับช่วงก่อนโควิดที่เคยมียอดขาย 3,500 ยูนิต และรายได้ 20,000-30,000 ล้านบาท” นายไซม่อนกล่าว
‘อนันดา’ชี้คอนโดพร้อมอยู่ขายดี
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่างที่กำลังซื้ออ่อนแอ เนื่องจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ โดยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สูงถึง 40-50% สำหรับที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 3 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังการลงทุน ดังนั้นตลาดต่างชาติจึงเป็นความหวังของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่ต่างชาติให้ความสนใจและสามารถซื้อได้ตามกฎหมายในสัดส่วน 49% ของพื้นที่โครงการ
นายประเสริฐกล่าวว่า ปัจจุบันอนันดามีสต๊อกบ้านและคอนโดมิเนียมพร้อมโอนและอยู่ระหว่างก่อสร้าง 47,000 ล้านบาท โดยพร้อมโอนในปีนี้ 18,500 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า และคาดว่าสามารถสร้างรายได้ 15,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2566 มีรายได้ 13,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายตั้งเป้า 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2566 ที่ทำยอดขายได้ 20,000 ล้านบาท โดยในนี้มียอดขายต่างชาติ 7,000 ล้านบาท เติบโต 102%
จีน-ไต้หวัน-พม่าแห่ซื้อ
นายประเสริฐกล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้ามียอดขายตลาดต่างชาติ 8,000 ล้านบาท หลังได้ขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ เพิ่ม เช่น ไต้หวัน เมียนมา และผลจากการที่รัฐบาลมีมาตรการวีซ่าฟรีถาวรไทย-จีน จะช่วยเพิ่มดีมานด์ต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยลูกค้าหลักยังเป็นจีนอยู่ที่ 43% รองลงมาไต้หวันและเมียนมา ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 ในทำเลในกลางเมือง ทั้งอยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งจะซื้อด้วยเงินสด โดยจีนยังเป็นผู้ซื้อราคาแพงสุด 40-50 ล้านบาท
“หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาแวะชมไซต์โครงการมากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ทำให้ 2 เดือนแรกของปีนี้เรามียอดขายแล้ว 2,100 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายต่างชาติ 35%” นายประเสริฐกล่าว
เศรษฐีเยอรมันทุ่มซื้อเพนต์เฮาส์
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการต้นสนวัน เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมซุปเปอร์ลักชัวรี่ชิดลม-เพลินจิต ระดับราคา 23-190 ล้านบาท มูลค่า 3,000 ล้านบาท ยังเหลือขาย 7 ยูนิต ทั้ง 1 ห้องนอนและเพนต์เฮาส์ ซึ่งราคาแพงสุด 190 ล้านบาท มีนักธุรกิจเยอรมันซื้อไปแล้ว ซึ่งโครงการนี้มีต่างชาติซื้อแล้ว 25% ยังไม่เต็มโควต้า 49% ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจจากฮ่องกง ไต้หวัน เยอรมัน ซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อสดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่จีนยังไม่มี คาดว่ามีมาตรการวีซ่าฟรีถาวรจะทำให้เข้ามามากขึ้น
10 อันดับประเทศ ที่ซื้อ “คอนโดฯในไทย” มากสุดปี 2566
https://mgronline.com/infographic/detail/9670000014779