‘ชัยธวัช’ ท้าเปิดบัญชี ‘หนุนม็อบเยาวชน’ หลัง ‘ชาดา’ ปูดกลางสภา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4425831
‘ชัยธวัช’ ท้าเปิดบัญชี ‘หนุนม็อบเยาวชน’ หลัง ‘ชาดา’ ปูดกลางสภา มีเบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน บอก อยากเห็นเหมือนกันมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง เผย ‘ฝ่ายค้านพบประชาชน’ จ่อ เปิดเวทีแก้ PM 2.5 ก่อนปิดสมัยประชุม
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นาย
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดสมุดกลางสภา พร้อมระบุว่า มีผู้ช่วย ส.ส.ของพรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน ว่า ขอให้เปิดได้เลย เพราะต้องยอมรับว่า มีความพยายามเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง ว่ามีพรรคการเมืองและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน
ดังนั้น ขอให้เปิดได้เลย และเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้าง ที่เคยสนับสนุนงบประมาณให้กับการเคลื่อนไหวของเยาวชนที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งตนก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง ที่หวังจะใช้กระแสความนิยมจากการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างความนิยมให้กับตนเอง โดยการสนับสนุนงบประมาณ ตนก็อยากเห็นเช่นกัน และยืนยันว่า ไม่กังวล ขอให้เปิดได้เลย อาจจะมีพรรคอื่นก็ได้
นาย
ชัยธวัช ยังกล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า จะมีการคุยกันว่า จะจัดเวทีกิจกรรมเป็นเวทีฝ่ายค้านพบประชาชนกันเมื่อไหร่ มีประเด็นอะไรบ้าง โดยที่ไม่ต้องรอให้ปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะหลายประเด็นมีความสำคัญ และไม่สามารถที่จะรอได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอว่าในต้นเดือนมีนาคมนี้ จะสนับสนุนให้จัดเวทีเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพราะสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครก็หนัก และภาคเหนือก็เริ่มมีปัญหา จะไปจัดเวทีในเดือนพฤษภาคมคงไม่ได้ เพราะมีฝนแล้ว
ทั้งนี้ นาย
ชัยธวัช ยืนยันว่า จะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันของฝ่ายค้าน ซึ่งก็เคยมีการทำกันเป็นปกติในทุกยุคทุกสมัย สำหรับกรณีที่จะมีการยกเลิกการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้นั้น นาย
ชัยธวัช กล่าวว่า ทราบข่าวมาเช่นกัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ถอนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกไป ดังนั้น ทางพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างนี้ประกบ ก็ต้องถอนไปด้วย
ถามหาวุฒิภาวะ อย่าผลักคนเห็นต่างออกไป “Hate Speech” ท่วมสภา ยืนยันไม่ได้ให้ท้ายตะวัน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4425570
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าการอยู่ในประเทศที่ตีเด็กคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า สังคมนี้กำลังผลักคนเห็นต่างออกไป ยืนยันว่าไม่ได้ให้ท้าย ไม่ได้เข้าข้าง
ตะวัน ขอให้มองด้วยใจที่เป็นกลาง มองด้วยสติ ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เหตุการณ์ในอดีตสอนเรามาตลอด ไม่ว่าจะเป็น 6 ตุลา หรือจัดการกลุ่มคนเสื้อแดง นำมาสู่ความสูญเสีย
บาทเสี่ยงผันผวนหนัก รับตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันนักลงทุนเทขายหุ้นไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4425749
บาทเสี่ยงผันผวนหนัก รับตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันนักลงทุนเทขายหุ้นไทย
นาย
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.15 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และประเมินกรอบในช่วง 35.90-36.30 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ
นาย
พูนกล่าวว่า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทได้ชะลอการอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.09-36.21 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ลงบ้าง
ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซนแนวต้านจิตวิทยา 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ก็ส่งผลให้ บรรดาผู้เล่นในตลาดทั้งผู้ส่งออก รวมถึงผู้เล่นที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) ทยอยขายเงินดอลลาร์รวมถึงขายทำกำไรสถานะ Short THB ออกมาบ้าง (โดยเฉพาะในช่วง 36.15-36.20 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท
นาย
พูนกล่าวว่า สำหรับวันนี้ เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของบรรดาเฟดสาขาต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาผู้เล่นในตลาดได้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใสและแข็งแกร่ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย ตามที่เคยได้ประเมินไว้
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของฝั่งอังกฤษ อย่าง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 พร้อมจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของทั้ง BOE และ ECB
นาย
พูนกล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ แม้ว่าอาจจะมีการแข็งค่าขึ้นมาบ้าง แต่เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน ทำให้ เงินบาทยังเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ในระยะสั้นได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในกรณีที่ เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นต่อ หรือ ตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นไทยเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ช่วง 20.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย เพราะหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด ก็จะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมามองว่า สุดท้ายเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot จริง ส่งผลให้ ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ กดดันราคาทองคำและเงินบาท
หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ยอดค้าปลีก ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก ก็อาจทำให้ตลาดเริ่มกลับมามองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมได้ หรือ เฟดก็อาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ทำให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสย่อตัวลงบ้าง ซึ่งจะหนุนการรีบาวด์ของราคาทองคำ และการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ที่อาจลงมาทดสอบโซน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ (หรืออาจหลุดโซนแนวรับดังกล่าวได้ไม่ยาก)
“
ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง” นาย
พูนกล่าว
JJNY : ‘ชัยธวัช’ ท้าเปิดบัญชี│ถามหาวุฒิภาวะ อย่าผลักคนเห็นต่าง│บาทเสี่ยงผันผวนหนัก│มะกันแจ้งเตือนพันธมิตร ผวารัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4425831
‘ชัยธวัช’ ท้าเปิดบัญชี ‘หนุนม็อบเยาวชน’ หลัง ‘ชาดา’ ปูดกลางสภา มีเบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน บอก อยากเห็นเหมือนกันมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง เผย ‘ฝ่ายค้านพบประชาชน’ จ่อ เปิดเวทีแก้ PM 2.5 ก่อนปิดสมัยประชุม
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดสมุดกลางสภา พร้อมระบุว่า มีผู้ช่วย ส.ส.ของพรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน ว่า ขอให้เปิดได้เลย เพราะต้องยอมรับว่า มีความพยายามเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง ว่ามีพรรคการเมืองและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน
ดังนั้น ขอให้เปิดได้เลย และเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้าง ที่เคยสนับสนุนงบประมาณให้กับการเคลื่อนไหวของเยาวชนที่ผ่านมาหรือไม่ ซึ่งตนก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง ที่หวังจะใช้กระแสความนิยมจากการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างความนิยมให้กับตนเอง โดยการสนับสนุนงบประมาณ ตนก็อยากเห็นเช่นกัน และยืนยันว่า ไม่กังวล ขอให้เปิดได้เลย อาจจะมีพรรคอื่นก็ได้
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านในวันนี้ ว่า จะมีการคุยกันว่า จะจัดเวทีกิจกรรมเป็นเวทีฝ่ายค้านพบประชาชนกันเมื่อไหร่ มีประเด็นอะไรบ้าง โดยที่ไม่ต้องรอให้ปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะหลายประเด็นมีความสำคัญ และไม่สามารถที่จะรอได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอว่าในต้นเดือนมีนาคมนี้ จะสนับสนุนให้จัดเวทีเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพราะสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครก็หนัก และภาคเหนือก็เริ่มมีปัญหา จะไปจัดเวทีในเดือนพฤษภาคมคงไม่ได้ เพราะมีฝนแล้ว
ทั้งนี้ นายชัยธวัช ยืนยันว่า จะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันของฝ่ายค้าน ซึ่งก็เคยมีการทำกันเป็นปกติในทุกยุคทุกสมัย สำหรับกรณีที่จะมีการยกเลิกการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ทราบข่าวมาเช่นกัน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ถอนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกไป ดังนั้น ทางพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างนี้ประกบ ก็ต้องถอนไปด้วย
ถามหาวุฒิภาวะ อย่าผลักคนเห็นต่างออกไป “Hate Speech” ท่วมสภา ยืนยันไม่ได้ให้ท้ายตะวัน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4425570
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าการอยู่ในประเทศที่ตีเด็กคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า สังคมนี้กำลังผลักคนเห็นต่างออกไป ยืนยันว่าไม่ได้ให้ท้าย ไม่ได้เข้าข้างตะวัน ขอให้มองด้วยใจที่เป็นกลาง มองด้วยสติ ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เหตุการณ์ในอดีตสอนเรามาตลอด ไม่ว่าจะเป็น 6 ตุลา หรือจัดการกลุ่มคนเสื้อแดง นำมาสู่ความสูญเสีย
บาทเสี่ยงผันผวนหนัก รับตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันนักลงทุนเทขายหุ้นไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4425749
บาทเสี่ยงผันผวนหนัก รับตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันนักลงทุนเทขายหุ้นไทย
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.15 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และประเมินกรอบในช่วง 35.90-36.30 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ
นายพูนกล่าวว่า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทได้ชะลอการอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.09-36.21 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ลงบ้าง
ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าของเงินบาททะลุโซนแนวต้านจิตวิทยา 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ก็ส่งผลให้ บรรดาผู้เล่นในตลาดทั้งผู้ส่งออก รวมถึงผู้เล่นที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) ทยอยขายเงินดอลลาร์รวมถึงขายทำกำไรสถานะ Short THB ออกมาบ้าง (โดยเฉพาะในช่วง 36.15-36.20 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท
นายพูนกล่าวว่า สำหรับวันนี้ เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึงดัชนีภาคการผลิตของบรรดาเฟดสาขาต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาผู้เล่นในตลาดได้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใสและแข็งแกร่ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ย ตามที่เคยได้ประเมินไว้
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของฝั่งอังกฤษ อย่าง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 พร้อมจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของทั้ง BOE และ ECB
นายพูนกล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ แม้ว่าอาจจะมีการแข็งค่าขึ้นมาบ้าง แต่เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน ทำให้ เงินบาทยังเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ในระยะสั้นได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในกรณีที่ เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นต่อ หรือ ตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง กดดันให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นไทยเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ช่วง 20.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย เพราะหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด ก็จะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมามองว่า สุดท้ายเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot จริง ส่งผลให้ ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ กดดันราคาทองคำและเงินบาท
หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ยอดค้าปลีก ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก ก็อาจทำให้ตลาดเริ่มกลับมามองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคมได้ หรือ เฟดก็อาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ทำให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสย่อตัวลงบ้าง ซึ่งจะหนุนการรีบาวด์ของราคาทองคำ และการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ที่อาจลงมาทดสอบโซน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ (หรืออาจหลุดโซนแนวรับดังกล่าวได้ไม่ยาก)
“ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง” นายพูนกล่าว