JJNY : ก้าวไกลขอโทษปชช.│ถ้าประวิตร นายกฯ เพื่อไทยเสียหายหนักมาก│นักลงทุนต่างชาติกังวลการเมืองไทยป่วน│เอสเอ็มอีหนี้อ่วม!

ก้าวไกล ขอโทษประชาชน รับตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เปิดทาง ‘เพื่อไทย’ หยุดสืบทอดอำนาจขั้วเก่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4091293
 
 
ก้าวไกล ขอโทษประชาชน รับตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เปิดโอกาส ‘เพื่อไทย’
 
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 กรกฎาคม นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล โดยสรุปว่า ตลอด 2 เดือนหลังเลือกตั้ง ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม แม้พิธา ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ เป้าหมาย คือจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ สิ่งสำคัญ อยู่ที่ประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตย หยุดสืบทอดอำนาจได้หรือไม่
 
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล เปิดโอกาสให้ประเทศ ให้เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรค ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เหมือนที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล
 
โดยนายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในประเด็นอื่นๆ ต้องรอพรรคเพื่อไทยประสานมา ทุกอย่างให้เป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย
 

 
สัมภาษณ์ : อ.วันวิชิต ฉากสุดท้ายน่ากลัวมาก ถ้า ประวิตร นายกฯ เพื่อไทยเสียหายหนักมาก
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4090915

สัมภาษณ์พิเศษ:อ.วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต จับตา เกมอันตรายฉากสุดท้าย เพื่อไทย-ก้าวไกล บาดเจ็บหมด นายกฯเป็น พลเอกประวิตร อย่าประมาท เตือน เพื่อไทย อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว จะเสียหายหนักมาก ชมคลิป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


 
นักลงทุนต่างชาติกังวลการเมืองไทยป่วน เริ่มขายทำกำไรหุ้นไทย-บอนด์ระยะยาว หวั่นฉุดฟันด์โฟลว์ผันผวน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4091123

นักลงทุนต่างชาติกังวลการเมืองไทยป่วน เริ่มขายทำกำไรหุ้นไทย-บอนด์ระยะยาว หวั่นฉุดฟันด์โฟลว์ผันผวน
 
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.00-34.30 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 33.96-34.26 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินและรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันจากโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงตามการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
 
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทโมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นชะลอลง หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการขายทำกำไรหุ้นไทยและบอนด์ระยะยาวของนักลงทุนต่างชาติ หลังสถานการณ์การเมืองไทยยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งความกังวลของนักลงทุนต่างชาติก็อาจทำให้ฟันด์โฟลว์มีทิศทางที่ผันผวนได้ในระยะนี้ โดยนักลงทุนต่างชาติมีโอกาสทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยมากขึ้นได้
 
โดยในกรณีที่ เงินบาทเผชิญแรงกดดันจากทั้งการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ (ที่อาจมาพร้อมกับการปรับตัวลงของราคาทองคำ) และแรงขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้น ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 34.30-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก
 
อย่างไรก็ดี ผู้เล่นต่างชาติบางส่วนที่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มค่าเงินบาท (มองเงินบาทแข็งค่าขึ้น) อาจรอจังหวะการอ่อนค่าของเงินบาทในการเพิ่มสถานะ Long THB ได้ ซึ่งภาพดังกล่าวก็เริ่มสะท้อนผ่านโฟลว์ซื้อบอนด์ระยะสั้นบางส่วน ในช่วงสัปดาห์นี้ของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ เริ่มเห็นการปรับมุมมองของนักวิเคราะห์ต่างชาติบางส่วนที่กลับมาแนะนำให้ Long THB หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้าส่วนใหญ่นักวิเคราะห์จะคงมุมมอง Neutral หรือ Wait and See สำหรับค่าเงินบาท
 
ช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจพลิกไปมาในช่วงรับรู้รายงานผลประกอบการ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน”นายพูนกล่าว
 
นายพูน กล่าวว่า ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวน จากการทยอยรับรู้รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 100.8 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 100.1-101 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา)
 
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของอังกฤษ ในเดือนมิถุนายน เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมต้นเดือนสิงหาคม หลังจากที่ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ ได้ชะลอตัวลงมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย BOE ณ สิ้นปีลงพอสมควร
 
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งอาจกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินช่วงนี้ได้ ส่วนในฝั่งไทย ประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดควรติดตามสถานการณ์การเมืองไทย หลังล่าสุดนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายทำกำไรการลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่