ศิริกัญญา เหน็บรัฐบาล รอแต่ ดิจิทัลวอลเล็ต ทำโครงการอื่นชะงัก เสียโอกาสฟื้นศก.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8088979
ศิริกัญญา เหน็บ รอดิจิทัลวอลเล็ตคลอด ทำโครงการอื่นต้องชะลอ เสียโอกาสพยุงเศรษฐกิจ ชี้รายงาน ป.ป.ช. เป็นสารตั้งต้นที่ดีในการเขียนคำร้อง ยันใช้วิธีการสภาฯ สกัดโครงการนี้ทุกทาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งข้อเสนอแนะ 8 ข้อเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ให้รัฐบาลว่า ต้องรอมติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต น่าจะดีที่สุด
คาดว่าน่าจะประชุมกันเร็วๆ นี้ และสัปดาห์หน้าเราน่าจะได้ทราบความคืบหน้าอื่นๆ เพิ่มเติม หลังจากชะงักงันมานาน ทั้งนี้ ไม่มีใครไม่เห็นด้วยว่าเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ดี แต่จะเข้านิยามของวิกฤตสากลหรือไม่นั้น ต้องพูดคุยกัน แต่ที่แน่ๆ คือ เศรษฐกิจไม่ดี เราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาพยุงเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้นมาได้
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า แต่การที่เราไปใจจดใจจ่ออยู่กับโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต อย่างเดียว อาจทำให้โครงการอื่นที่ต้องเกิดขึ้นแล้ววันนี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจมันฟื้นขึ้นมาได้ ต้องดีเลย์ออกไป รวมถึงเสียโอกาสที่จะพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้เร็วขึ้นได้
เมื่อถามว่านิยามของคำว่าวิกฤตเศรษฐกิจ ควรต้องจบใช่หรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีองค์ประกอบมาจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการกฤษฎีกา น่าจะตกลงกันได้ว่า นิยามของวิกฤตเศรษฐกิจคืออะไร และบอกได้แล้วในวันนั้นว่า สามารถออก พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้หรือไม่ และเป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อตามที่กฤษฎีกาพูดไว้หรือไม่
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลเดินหน้า ก็ดูเหมือนมีคนที่จ้องจะร้องเรียน มองว่าโครงการนี้น่าจะสะดุดหรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้เราเตือนมาตั้งแต่ต้น หากเลือกทางนี้ทางที่จะลุยไฟ ด้วยการออก พ.ร.บ.กู้เงิน ก็สุ่มเสี่ยงจะถูกร้องแน่นอน แต่ไว้ใจได้ว่าพรรคก้าวไกลไม่ร้องแน่นอน เพราะเราไม่เห็นด้วยที่องค์กรอิสระจะเข้ามาแทรกแซงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในลักษณะนี้
“
การจะมาบอกว่าทำได้หรือไม่ได้นั้น ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระ ให้เป็นหน้าที่สภาฯ ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจมากกว่าว่าเราจะให้โครงการนี้ผ่านหรือไม่ และแน่นอนว่าหากรัฐบาลใช้เสียงข้างมาก ก็น่าจะผ่านไปได้ แต่ดิฉันห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรายงานของ ป.ป.ช.ที่น่าจะเป็นสารตั้งต้นสำหรับการเขียนคำร้องได้เป็นอย่างดี” น.ส.
ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ร้องแต่จะใช้วิธีการของสภาฯ ในการสกัดใช่หรือไม่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวว่า ใช่ เราจะใช้วิธีการในสภาฯ ทุกวิถีทางที่จะสกัดโครงการนี้ และจะพูดเหตุผลที่เราสกัดให้ประชาชนได้รับทราบ
ศูนย์ทนายฯ ยื่นประกันครั้งใหญ่ ผู้ต้องขังการเมือง 15 ราย ตั้งแถวแถลงหน้าศาล ย้ำหลักสิทธิประกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4416863
ศูนย์ทนายฯ ยื่นประกันครั้งใหญ่ ผู้ต้องขังการเมือง 15 ราย ตั้งแถวแถลงหน้าศาล ย้ำหลักสิทธิประกัน
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณหน้าป้ายศาลอาญา รัชดาภิเษก เขตจตุจักร ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เดินทางไปยื่นประกันตัว #ผู้ต้องขังคดีการเมืองชุดใหญ่ พร้อมแถลงข่าวเน้นย้ำหลักการว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย น.ส.
พูนสุข พูนสุขเจริญ ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ ดร.
เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ร่วมกันยืนแถลงหน้าป้ายศาลาอาญา รัชดาภิเษก โดยมีการถือป้ายผ้าแคมเปญนิรโทษกรรมประชาชน และโปสเตอร์ข้อมูลผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ที่ต้องการเรียกร้องสิทธิประกันตัวจำนวนมาก
น.ส.
พูนสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2566 สถานการณ์ผู้ต้องขังคดีการเมืองเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคดีครอบครองอาวุธที่สืบเนื่องมาจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และในชั้นฎีกามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวล
น.ส.
พูนสุข กล่าวต่อว่า จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2567 ยังคงมีประชาชนถูกคุมขังในเรือนจำจากคดีที่แสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างน้อย 38 คน โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี จำนวนอย่างน้อย 25 คน และคดีถึงที่สุดแล้ว 13 คน
“
จำนวนของผู้ที่ไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี มีผู้ที่ถูกคุมขังจากคดีตามมาตรา 1 12 จำนวน 14 คน และมีเยาวชน 2 คน ถูกคุมขังในข้อหานี้ เพราะกำหนดมาตรการพิเศษแทนการมีคำพิพากษา ส่วนในคดีครอบครองวัตถุระเบิดหรือเผารถตำรวจ มีผู้ไม่ได้ประกันตัวรวม 9 คน” น.ส.พูนสุข กล่าว
น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมือง นักศึกษา และภาคประชาสังคม ได้รวมกลุ่มกันเป็น “เครือข่ายนิรโทษกรรม” จัดทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน และจัดให้มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยมีกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องในช่วงวันที่ 1-14 ก.พ. 2567 เพื่อให้รัฐยุติการดำเนินคดีจากการชุมนุมและแสดงออกทางการเมือง
“
ผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกคุมขัง เมื่อทราบถึงการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมและกิจกรรมของเพื่อนข้างนอกแล้ว หลายคนแจ้งความประสงค์ที่จะยื่นขอประกันตัว เพื่อใช้สิทธิของตนเองอีกครั้ง และเพื่อตอกย้ำให้สังคมได้เห็นว่ายังมีคนไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและได้รับความเดือดร้อน” น.ส.พูน
สุขเผย
น.ส.
พูนสุข กล่าวว่า ในวาระที่มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ประกอบกับที่สภาผู้แทนราษฎรก็มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันจะเป็นทางออกในการยุติความขัดแย้งทางการเมือง และกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญต่อพวกเขา
“
ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ ทนายความพร้อมนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ จะเข้ายื่นประกันตัวผู้ต้องขังที่แจ้งความประสงค์ ขอใช้สิทธิประกันตัวทั้งหมด 15 ราย ได้แก่ ถิรนัย, ชัยพรประวิตร, มงคล, ขจรศักดิ์, คเซนทร์, แม็กกี้, ไพฑูรย์, สุขสันต์, ธนายุทธ,วีรภาพ, อุดม ,กัลยา , จิวัฒน์ และทีปกร โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ซึ่งเป็นเงินบริจาคของประชาชน ในการวางหลักประกันต่อศาล
วัตถุประสงค์ขอยื่นประกันตัวในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เนื่องจากเป็นวันเดียวกับการฟังคำพิพากษาในคดีของตัวเอง และอานนท์ นำภา ได้แจ้งความประสงค์ว่าจะยื่นประกันตัวเองพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการยื่นอุทธรณ์ในคดีที่สืบเนื่องมาจากการปราศรัยในการชุมนุม 14 ต.ค. 2563
“ผู้ต้องขังคดีการเมืองรายอื่นๆ ที่ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เนื่องจากต้องการยุติการต่อสู้ทางคดีแล้ว รอคดีสิ้นสุด ได้แก่ ชนะดล และสมบัติ ทั้งในส่วนของวารุณี ได้แจ้งความประสงค์ว่าขอดูสถานการณ์ และยังไม่ขอตัดสินใจยื่นประกันตัวในช่วงเวลานี้” น.ส.
พูนสุขกล่าว
น.ส.
พูนสุขกล่าวว่า ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่เหลือ ได้แก่ นายเวหา แสนชนชนะศึก และนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท ได้ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม จนกว่าผู้ต้องขังรายอื่นจะได้รับการประกันตัวทั้งหมด ส่วนบุ้ง เนติพร ไม่ประสงค์ให้ยื่นประกันตัว เพื่อประท้วงความอยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรม
“
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ความหวังในการใช้ชีวิตข้างนอกของประชาชนที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำริบหรี่ เพียงเพราะคำสั่งในลักษณะเช่นเดิมที่ว่า ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม กลายเป็นแรงผลักให้หลายคนต้องตัดสินใจยอมรับคำตัดสินโทษ โดยไม่ได้อุทธรณ์หรือฎีกาต่อไป
แต่เพื่อให้พวกเขาได้กลับมามีอิสรภาพในชีวิตให้เร็วที่สุดอีกครั้ง การยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทั้งหมดในวันนี้ด้วยความหวังกระบวนการยุติธรรม จะคงยึดมั่นในหลักการขั้นพื้นฐานที่สำคัญของระบบกฎหมายสมัยใหม่ คือหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และแม้เป็นจำเลย ก็ควรได้รับสิทธิในการต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของ ผู้ต้องขังคดีการเมืองเหล่านี้อย่างเที่ยงธรรม และคืนสิทธิประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งยังเป็นหลักประกันในการได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม ให้กับผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกคน”
ด้าน ดร.
เบญจรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารับทราบมาตลอดโดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มาการดำเนินคดีกับผู้ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก คือมีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกจองจำโดยอาชญากรรมของพวกเขา เพียงจากการตั้งคำถาม การวิพากษ์วิจารณ์หรือการออกมาต่อต้านผู้ที่มีอำนาจในสังคมหรือระบอบการเมือง
“
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ที่แสดงเห็นต่างทางการเมืองคือการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวทั้งที่หลายคนยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี พวกเขากับถูกพรากเสรีภาพไปในระหว่างที่ฐานะตามกฎหมายของพวกเขาตามหลักการขั้นพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม คือพวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์” ดร.
เบญจรัตน์กล่าว
เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย 35.84 บาท จับตาปัจจัยต่างประเทศ-ราคาทองคำ
https://www.dailynews.co.th/news/3158483/
ค่าเงินบาทวันนี้ 9 ก.พ. วันไหว้ตรุษจีน เปิดตลาดเช้าแตะระดับ 35.84 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จับตาปัจจัยจากต่างประเทศและในประเทศ เรื่องดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ราคาทองคำ
นาย
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.84 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.81 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.05 บาทต่อดอลลาร์
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.78-35.94 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐ (Jobless Claims) ออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ แรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าก็ชะลอลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง จากท่ามกลางบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะเดียวกัน การย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ร้อนแรงขึ้น หลังทางการอิสราเอลได้ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาส ได้ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นบ้าง และช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท
ตลาดหุ้นสหรัฐ โดยรวมยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในช่วงนี้ที่ยังคงสดใส อาทิ Walt Disney +11.5% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบ นำโดย Exxon Mobil +1.7% อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้มากนัก ท่ามกลางแรงขายทำกำไรของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ Apple -0.7%, Nvidia -0.7% ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.06%
อัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
JJNY : ศิริกัญญาเหน็บ รอแต่ดิจิทัลวอลเล็ต│ศูนย์ทนายฯ ยื่นประกันครั้งใหญ่│เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย│เตือนโลกรับมือ “ลานีญา”
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8088979
ศิริกัญญา เหน็บ รอดิจิทัลวอลเล็ตคลอด ทำโครงการอื่นต้องชะลอ เสียโอกาสพยุงเศรษฐกิจ ชี้รายงาน ป.ป.ช. เป็นสารตั้งต้นที่ดีในการเขียนคำร้อง ยันใช้วิธีการสภาฯ สกัดโครงการนี้ทุกทาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งข้อเสนอแนะ 8 ข้อเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ให้รัฐบาลว่า ต้องรอมติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต น่าจะดีที่สุด
คาดว่าน่าจะประชุมกันเร็วๆ นี้ และสัปดาห์หน้าเราน่าจะได้ทราบความคืบหน้าอื่นๆ เพิ่มเติม หลังจากชะงักงันมานาน ทั้งนี้ ไม่มีใครไม่เห็นด้วยว่าเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ดี แต่จะเข้านิยามของวิกฤตสากลหรือไม่นั้น ต้องพูดคุยกัน แต่ที่แน่ๆ คือ เศรษฐกิจไม่ดี เราจึงจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆ เข้ามาพยุงเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้นมาได้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า แต่การที่เราไปใจจดใจจ่ออยู่กับโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต อย่างเดียว อาจทำให้โครงการอื่นที่ต้องเกิดขึ้นแล้ววันนี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจมันฟื้นขึ้นมาได้ ต้องดีเลย์ออกไป รวมถึงเสียโอกาสที่จะพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้เร็วขึ้นได้
เมื่อถามว่านิยามของคำว่าวิกฤตเศรษฐกิจ ควรต้องจบใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีองค์ประกอบมาจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการกฤษฎีกา น่าจะตกลงกันได้ว่า นิยามของวิกฤตเศรษฐกิจคืออะไร และบอกได้แล้วในวันนั้นว่า สามารถออก พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้หรือไม่ และเป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อตามที่กฤษฎีกาพูดไว้หรือไม่
เมื่อถามว่าหากรัฐบาลเดินหน้า ก็ดูเหมือนมีคนที่จ้องจะร้องเรียน มองว่าโครงการนี้น่าจะสะดุดหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้เราเตือนมาตั้งแต่ต้น หากเลือกทางนี้ทางที่จะลุยไฟ ด้วยการออก พ.ร.บ.กู้เงิน ก็สุ่มเสี่ยงจะถูกร้องแน่นอน แต่ไว้ใจได้ว่าพรรคก้าวไกลไม่ร้องแน่นอน เพราะเราไม่เห็นด้วยที่องค์กรอิสระจะเข้ามาแทรกแซงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในลักษณะนี้
“การจะมาบอกว่าทำได้หรือไม่ได้นั้น ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระ ให้เป็นหน้าที่สภาฯ ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจมากกว่าว่าเราจะให้โครงการนี้ผ่านหรือไม่ และแน่นอนว่าหากรัฐบาลใช้เสียงข้างมาก ก็น่าจะผ่านไปได้ แต่ดิฉันห้ามไม่ได้จริงๆ ที่จะมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะรายงานของ ป.ป.ช.ที่น่าจะเป็นสารตั้งต้นสำหรับการเขียนคำร้องได้เป็นอย่างดี” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ร้องแต่จะใช้วิธีการของสภาฯ ในการสกัดใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ใช่ เราจะใช้วิธีการในสภาฯ ทุกวิถีทางที่จะสกัดโครงการนี้ และจะพูดเหตุผลที่เราสกัดให้ประชาชนได้รับทราบ
ศูนย์ทนายฯ ยื่นประกันครั้งใหญ่ ผู้ต้องขังการเมือง 15 ราย ตั้งแถวแถลงหน้าศาล ย้ำหลักสิทธิประกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4416863
ศูนย์ทนายฯ ยื่นประกันครั้งใหญ่ ผู้ต้องขังการเมือง 15 ราย ตั้งแถวแถลงหน้าศาล ย้ำหลักสิทธิประกัน
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณหน้าป้ายศาลอาญา รัชดาภิเษก เขตจตุจักร ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เดินทางไปยื่นประกันตัว #ผู้ต้องขังคดีการเมืองชุดใหญ่ พร้อมแถลงข่าวเน้นย้ำหลักการว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ตัวแทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ ดร.เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ร่วมกันยืนแถลงหน้าป้ายศาลาอาญา รัชดาภิเษก โดยมีการถือป้ายผ้าแคมเปญนิรโทษกรรมประชาชน และโปสเตอร์ข้อมูลผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ที่ต้องการเรียกร้องสิทธิประกันตัวจำนวนมาก
น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2566 สถานการณ์ผู้ต้องขังคดีการเมืองเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคดีครอบครองอาวุธที่สืบเนื่องมาจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ และในชั้นฎีกามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากังวล
น.ส.พูนสุข กล่าวต่อว่า จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2567 ยังคงมีประชาชนถูกคุมขังในเรือนจำจากคดีที่แสดงออกทางการเมือง หรือมีมูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมือง อย่างน้อย 38 คน โดยไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี จำนวนอย่างน้อย 25 คน และคดีถึงที่สุดแล้ว 13 คน
“จำนวนของผู้ที่ไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างต่อสู้คดี มีผู้ที่ถูกคุมขังจากคดีตามมาตรา 1 12 จำนวน 14 คน และมีเยาวชน 2 คน ถูกคุมขังในข้อหานี้ เพราะกำหนดมาตรการพิเศษแทนการมีคำพิพากษา ส่วนในคดีครอบครองวัตถุระเบิดหรือเผารถตำรวจ มีผู้ไม่ได้ประกันตัวรวม 9 คน” น.ส.พูนสุข กล่าว
น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมือง นักศึกษา และภาคประชาสังคม ได้รวมกลุ่มกันเป็น “เครือข่ายนิรโทษกรรม” จัดทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน และจัดให้มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยมีกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องในช่วงวันที่ 1-14 ก.พ. 2567 เพื่อให้รัฐยุติการดำเนินคดีจากการชุมนุมและแสดงออกทางการเมือง
“ผู้ต้องหาและจำเลยที่ถูกคุมขัง เมื่อทราบถึงการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมและกิจกรรมของเพื่อนข้างนอกแล้ว หลายคนแจ้งความประสงค์ที่จะยื่นขอประกันตัว เพื่อใช้สิทธิของตนเองอีกครั้ง และเพื่อตอกย้ำให้สังคมได้เห็นว่ายังมีคนไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและได้รับความเดือดร้อน” น.ส.พูนสุขเผย
น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ในวาระที่มีการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ประกอบกับที่สภาผู้แทนราษฎรก็มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อันจะเป็นทางออกในการยุติความขัดแย้งทางการเมือง และกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญต่อพวกเขา
“ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ ทนายความพร้อมนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ จะเข้ายื่นประกันตัวผู้ต้องขังที่แจ้งความประสงค์ ขอใช้สิทธิประกันตัวทั้งหมด 15 ราย ได้แก่ ถิรนัย, ชัยพรประวิตร, มงคล, ขจรศักดิ์, คเซนทร์, แม็กกี้, ไพฑูรย์, สุขสันต์, ธนายุทธ,วีรภาพ, อุดม ,กัลยา , จิวัฒน์ และทีปกร โดยใช้เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ ซึ่งเป็นเงินบริจาคของประชาชน ในการวางหลักประกันต่อศาล
วัตถุประสงค์ขอยื่นประกันตัวในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เนื่องจากเป็นวันเดียวกับการฟังคำพิพากษาในคดีของตัวเอง และอานนท์ นำภา ได้แจ้งความประสงค์ว่าจะยื่นประกันตัวเองพร้อมกับยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 14 ก.พ. 2567 เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการยื่นอุทธรณ์ในคดีที่สืบเนื่องมาจากการปราศรัยในการชุมนุม 14 ต.ค. 2563
“ผู้ต้องขังคดีการเมืองรายอื่นๆ ที่ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เนื่องจากต้องการยุติการต่อสู้ทางคดีแล้ว รอคดีสิ้นสุด ได้แก่ ชนะดล และสมบัติ ทั้งในส่วนของวารุณี ได้แจ้งความประสงค์ว่าขอดูสถานการณ์ และยังไม่ขอตัดสินใจยื่นประกันตัวในช่วงเวลานี้” น.ส.พูนสุขกล่าว
น.ส.พูนสุขกล่าวว่า ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่เหลือ ได้แก่ นายเวหา แสนชนชนะศึก และนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท ได้ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม จนกว่าผู้ต้องขังรายอื่นจะได้รับการประกันตัวทั้งหมด ส่วนบุ้ง เนติพร ไม่ประสงค์ให้ยื่นประกันตัว เพื่อประท้วงความอยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรม
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ความหวังในการใช้ชีวิตข้างนอกของประชาชนที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำริบหรี่ เพียงเพราะคำสั่งในลักษณะเช่นเดิมที่ว่า ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม กลายเป็นแรงผลักให้หลายคนต้องตัดสินใจยอมรับคำตัดสินโทษ โดยไม่ได้อุทธรณ์หรือฎีกาต่อไป
แต่เพื่อให้พวกเขาได้กลับมามีอิสรภาพในชีวิตให้เร็วที่สุดอีกครั้ง การยื่นประกันตัวผู้ต้องขังทั้งหมดในวันนี้ด้วยความหวังกระบวนการยุติธรรม จะคงยึดมั่นในหลักการขั้นพื้นฐานที่สำคัญของระบบกฎหมายสมัยใหม่ คือหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และแม้เป็นจำเลย ก็ควรได้รับสิทธิในการต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของ ผู้ต้องขังคดีการเมืองเหล่านี้อย่างเที่ยงธรรม และคืนสิทธิประกันตัวซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งยังเป็นหลักประกันในการได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม ให้กับผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกคน”
ด้าน ดร.เบญจรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารับทราบมาตลอดโดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มาการดำเนินคดีกับผู้ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมาก คือมีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกจองจำโดยอาชญากรรมของพวกเขา เพียงจากการตั้งคำถาม การวิพากษ์วิจารณ์หรือการออกมาต่อต้านผู้ที่มีอำนาจในสังคมหรือระบอบการเมือง
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ที่แสดงเห็นต่างทางการเมืองคือการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวทั้งที่หลายคนยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี พวกเขากับถูกพรากเสรีภาพไปในระหว่างที่ฐานะตามกฎหมายของพวกเขาตามหลักการขั้นพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม คือพวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์” ดร.เบญจรัตน์กล่าว
เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย 35.84 บาท จับตาปัจจัยต่างประเทศ-ราคาทองคำ
https://www.dailynews.co.th/news/3158483/
ค่าเงินบาทวันนี้ 9 ก.พ. วันไหว้ตรุษจีน เปิดตลาดเช้าแตะระดับ 35.84 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จับตาปัจจัยจากต่างประเทศและในประเทศ เรื่องดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ราคาทองคำ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.84 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.81 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.05 บาทต่อดอลลาร์
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.78-35.94 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐ (Jobless Claims) ออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ แรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าก็ชะลอลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง จากท่ามกลางบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะเดียวกัน การย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ร้อนแรงขึ้น หลังทางการอิสราเอลได้ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาส ได้ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นบ้าง และช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท
ตลาดหุ้นสหรัฐ โดยรวมยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในช่วงนี้ที่ยังคงสดใส อาทิ Walt Disney +11.5% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบ นำโดย Exxon Mobil +1.7% อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้มากนัก ท่ามกลางแรงขายทำกำไรของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ Apple -0.7%, Nvidia -0.7% ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาดเพียง +0.06%
อัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง