หลังจาก ดวงจันทร์เคลื่อนย้ายผ่าน ดาวAntares ในกลุ่มดาวแมงป่อง ในวันที่ 5 ก.พ. 2024 มาแล้วก็มีเหตุการณ์อัศจรรย์ขึ้น ด้วยระบบจักรวาล และการเคลื่อนย้ายของดาวในแต่ ละดวงมีวันเวลาการเดินแตกต่างกัน
ซึ่งในวันที่ 6 ก.พ 2024 เกิดพาเรดดาวเรียงกัน ซึ่ง ดาวเคราะห์ 7 ดวง มี ดาวยูเรนัส ดาวพฤหัสบดี ,ดาวเนปจูน, ดาวเสาร์ ,ดวงอาทิตย์ ,ดาวพุธ ดาวอังคาร, ดาวศุกร์, และดวงอาทิตย์
ก็ถึงกับทึ่งกับปรากฏการณ์นี้ เลยย้อนไปหาข้อมูลเรื่อง ดาวแมงป่อง จากเรื่องเล่าตำนานมีอยู่ว่า
กลุ่มดาวแมงป่องนั้น คือ ตัวแทนของ “แมงป่องยักษ์” ที่ไกอา (Gaia) เทพีแห่งพื้นพิภพซึ่งทำหน้าที่ดูแลทุกสรรพชีวิตบนโลก
ในตำนานกรีกโบราณ ส่งไปตามล่าสังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน” (Orion) ซึ่งโอ้อวดถึงความสามารถในการล่าสัตว์และปณิธานที่จะตามฆ่าสัตว์ทุกชนิดบนโลก
ก่อนที่แมงป่องยักษ์จะถูกส่งขึ้นสู่สวรรค์กลายเป็น (กลุ่มดาวแมงป่อง) หลังสังหารนายพรานหนุ่มสำเร็จเพื่อเป็นเกียรติต่อความกล้าหาญที่ช่วยขจัดภัยให้โลก
เช่นเดียวนายพรานโอไรออนที่ถูกส่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็น(กลุ่มดาวนายพราน)
นอกจากนี้ ในอีกตำนานกรีกโบราณ กลุ่มดาวแมงป่อง คือตัวแทนของ “แมงป่องยักษ์” ที่อพอลโล (Apollo) เทพแห่งแสงสว่างหรือดวงอาทิตย์น้องชายฝาแฝดของ เทพีอาร์ทิมิส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ ส่งไปสังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน”
หลังพบว่าเทพีอาร์ทิมิสตกหลุมรักนายพรานหนุ่ม ซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา และหลังการเสียชีวิตของนายพรานโอไรออนนั้น เทพีอาร์ทิมิสได้ทำการร้องขอให้เทพเจ้าซุส (Zeus) ส่งนายพรานหนุ่มขึ้นสู่สรวงสวรรค์
ดังนั้น บนท้องฟ้าของฤดูหนาวจะมีกลุ่มดาวนายพรานปรากฏขึ้น แต่จะหายลับขอบฟ้าไปในทุกฤดูร้อนเมื่อกลุ่มดาวแมงป่องมาเยือน ถึงแม้แมงป่องยักษ์และนายพรานหนุ่มจะกลายเป็นกลุ่มดากลุ่มดาวทั้งสองอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามบนท้องฟ้าตลอดมา
อ่านตำนานแล้ว ก็ต้องมาวิเคราะห์ เรื่องดวงดาว ซึ่งในยุคปัจจุบัน มีแอพพลิเคชั่นเปิดดูการเดินดาวแต่ละดวงได้ชัดเจน เทียบเท่ากับจุดของดาวจริงได้เลย ทันต่อเหตุการณ์ ที่ดีมากๆ และมีจ้อมูลกลุ่มดาวนี้ว่า
เป็นกลุ่มดาวเก่าแก่ที่ถูกค้นเมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยชาวสุเมเรียน (Sumerian) ชาวกรีกโบราณและผู้คนทั่วไปเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “แมงป่อง” แต่ในอารยธรรมตะวันออก ชาวจีนโบราณเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “มังกรฟ้า” (Azure Dragon)
ีมีดาวฤกษ์ที่สุกสว่างมากกว่า 10 ดวง เรียงเป็นตัว "J"
โดย 7 ดวงดาวหลักในกลุ่มดาวแมงป่อง ประกอบไปด้วย
1.แอนทาเรส (Antares) หรือที่คนไทยรู้จักในนามของ “ดาวปาริชาต” ✨เป็นดาวยักษ์ใหญ่สีแดง (Red Supergiant Star) ที่สว่างที่สุดดวงหนึ่งในน่านฟ้าโลก อยู่ตรงใจกลางหรือ “หัวใจ” ของกลุ่มดาวแมงป่อง เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 550 ปีแสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 880 เท่า
2.ชอลา (Shaula) เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ในกลุ่ม อยู่ห่างจากโลกราว 700 ปีแสง เป็นดาวในระบบดาวพหุ (Multiple star system) คือ มีดาวฤกษ์หลายดวงโคจรรอบกันและกัน
3.ซาร์กาซ (Sargas) เป็นดาวยักษ์เหลืองที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 300 ปีแสง มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราราว 25 เท่า
4.ดีชับบา (Dschubba) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 490 ปีแสง
5.กราฟฟิอัส (Graffias) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ในระบบดาวพหุเช่นกัน ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ถึง 6 ดวง อยู่ห่างจากโลกราว 500 ปีแสง
6.เรเซิทธ์ (Lesath) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 600 ปีแสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 11 เท่าและสว่างมากกว่าถึง 10,000 เท่า
7.อัลเนียท์ (Alniyat) เป็นดาวยักษ์สีน้ำเงิน อยู่ห่างจากโลกราว 470 ปีแสง มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราราว 13 เท่า
ลุ่มดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก (The Milky Way) อีกด้วย ส่งผลให้มีวัตถุในห้วงอวกาศลึก (Deeps-sky objects) ที่น่ามหัศจรรย์มากมายอยู่ในขอบเขตของกลุ่มดาวกลุ่มนี้ เช่น กระจุกดาวผีเสื้อ (Butterfly Cluster) และกระจุกดาวปโตเลมี (Ptolemy Cluster) ซึ่งเป็นกระจุกดาวเปิดที่มีดาวฤกษ์รวมกันมากกว่า 80 ดวง
นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางที่น่าค้นหามากๆ ที่น่าสนใจมากมายในธรรมชาติของกลุ่มดาวนี้
และอีกไฮไลต์ ดาวAntares ในตำนานไทย อย่างที่เรียกว่า "ดาวปาริชาต" มีที่มาตำนานชื่อนี้ เช่นกันคะ
รอติดตามชมอีก❗
ตำนานเทพ✨🦂แห่งดาวแมงป่องยักษ์ Scorpio ❤️มี Antares คือหัวใจ✨
หลังจาก ดวงจันทร์เคลื่อนย้ายผ่าน ดาวAntares ในกลุ่มดาวแมงป่อง ในวันที่ 5 ก.พ. 2024 มาแล้วก็มีเหตุการณ์อัศจรรย์ขึ้น ด้วยระบบจักรวาล และการเคลื่อนย้ายของดาวในแต่ ละดวงมีวันเวลาการเดินแตกต่างกัน
ซึ่งในวันที่ 6 ก.พ 2024 เกิดพาเรดดาวเรียงกัน ซึ่ง ดาวเคราะห์ 7 ดวง มี ดาวยูเรนัส ดาวพฤหัสบดี ,ดาวเนปจูน, ดาวเสาร์ ,ดวงอาทิตย์ ,ดาวพุธ ดาวอังคาร, ดาวศุกร์, และดวงอาทิตย์
ก็ถึงกับทึ่งกับปรากฏการณ์นี้ เลยย้อนไปหาข้อมูลเรื่อง ดาวแมงป่อง จากเรื่องเล่าตำนานมีอยู่ว่า
กลุ่มดาวแมงป่องนั้น คือ ตัวแทนของ “แมงป่องยักษ์” ที่ไกอา (Gaia) เทพีแห่งพื้นพิภพซึ่งทำหน้าที่ดูแลทุกสรรพชีวิตบนโลก
ในตำนานกรีกโบราณ ส่งไปตามล่าสังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน” (Orion) ซึ่งโอ้อวดถึงความสามารถในการล่าสัตว์และปณิธานที่จะตามฆ่าสัตว์ทุกชนิดบนโลก
ก่อนที่แมงป่องยักษ์จะถูกส่งขึ้นสู่สวรรค์กลายเป็น (กลุ่มดาวแมงป่อง) หลังสังหารนายพรานหนุ่มสำเร็จเพื่อเป็นเกียรติต่อความกล้าหาญที่ช่วยขจัดภัยให้โลก
เช่นเดียวนายพรานโอไรออนที่ถูกส่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็น(กลุ่มดาวนายพราน)
นอกจากนี้ ในอีกตำนานกรีกโบราณ กลุ่มดาวแมงป่อง คือตัวแทนของ “แมงป่องยักษ์” ที่อพอลโล (Apollo) เทพแห่งแสงสว่างหรือดวงอาทิตย์น้องชายฝาแฝดของ เทพีอาร์ทิมิส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ ส่งไปสังหารนายพรานหนุ่มนาม “โอไรออน”
หลังพบว่าเทพีอาร์ทิมิสตกหลุมรักนายพรานหนุ่ม ซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา และหลังการเสียชีวิตของนายพรานโอไรออนนั้น เทพีอาร์ทิมิสได้ทำการร้องขอให้เทพเจ้าซุส (Zeus) ส่งนายพรานหนุ่มขึ้นสู่สรวงสวรรค์
ดังนั้น บนท้องฟ้าของฤดูหนาวจะมีกลุ่มดาวนายพรานปรากฏขึ้น แต่จะหายลับขอบฟ้าไปในทุกฤดูร้อนเมื่อกลุ่มดาวแมงป่องมาเยือน ถึงแม้แมงป่องยักษ์และนายพรานหนุ่มจะกลายเป็นกลุ่มดากลุ่มดาวทั้งสองอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามบนท้องฟ้าตลอดมา
อ่านตำนานแล้ว ก็ต้องมาวิเคราะห์ เรื่องดวงดาว ซึ่งในยุคปัจจุบัน มีแอพพลิเคชั่นเปิดดูการเดินดาวแต่ละดวงได้ชัดเจน เทียบเท่ากับจุดของดาวจริงได้เลย ทันต่อเหตุการณ์ ที่ดีมากๆ และมีจ้อมูลกลุ่มดาวนี้ว่า
เป็นกลุ่มดาวเก่าแก่ที่ถูกค้นเมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยชาวสุเมเรียน (Sumerian) ชาวกรีกโบราณและผู้คนทั่วไปเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “แมงป่อง” แต่ในอารยธรรมตะวันออก ชาวจีนโบราณเรียกกลุ่มดาวกลุ่มนี้ว่า “มังกรฟ้า” (Azure Dragon)
ีมีดาวฤกษ์ที่สุกสว่างมากกว่า 10 ดวง เรียงเป็นตัว "J"
โดย 7 ดวงดาวหลักในกลุ่มดาวแมงป่อง ประกอบไปด้วย
1.แอนทาเรส (Antares) หรือที่คนไทยรู้จักในนามของ “ดาวปาริชาต” ✨เป็นดาวยักษ์ใหญ่สีแดง (Red Supergiant Star) ที่สว่างที่สุดดวงหนึ่งในน่านฟ้าโลก อยู่ตรงใจกลางหรือ “หัวใจ” ของกลุ่มดาวแมงป่อง เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 550 ปีแสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเราถึง 880 เท่า
2.ชอลา (Shaula) เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ในกลุ่ม อยู่ห่างจากโลกราว 700 ปีแสง เป็นดาวในระบบดาวพหุ (Multiple star system) คือ มีดาวฤกษ์หลายดวงโคจรรอบกันและกัน
3.ซาร์กาซ (Sargas) เป็นดาวยักษ์เหลืองที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 300 ปีแสง มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราราว 25 เท่า
4.ดีชับบา (Dschubba) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 490 ปีแสง
5.กราฟฟิอัส (Graffias) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ในระบบดาวพหุเช่นกัน ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ถึง 6 ดวง อยู่ห่างจากโลกราว 500 ปีแสง
6.เรเซิทธ์ (Lesath) เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างจากโลกราว 600 ปีแสง มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 11 เท่าและสว่างมากกว่าถึง 10,000 เท่า
7.อัลเนียท์ (Alniyat) เป็นดาวยักษ์สีน้ำเงิน อยู่ห่างจากโลกราว 470 ปีแสง มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราราว 13 เท่า
ลุ่มดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก (The Milky Way) อีกด้วย ส่งผลให้มีวัตถุในห้วงอวกาศลึก (Deeps-sky objects) ที่น่ามหัศจรรย์มากมายอยู่ในขอบเขตของกลุ่มดาวกลุ่มนี้ เช่น กระจุกดาวผีเสื้อ (Butterfly Cluster) และกระจุกดาวปโตเลมี (Ptolemy Cluster) ซึ่งเป็นกระจุกดาวเปิดที่มีดาวฤกษ์รวมกันมากกว่า 80 ดวง
นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางที่น่าค้นหามากๆ ที่น่าสนใจมากมายในธรรมชาติของกลุ่มดาวนี้
และอีกไฮไลต์ ดาวAntares ในตำนานไทย อย่างที่เรียกว่า "ดาวปาริชาต" มีที่มาตำนานชื่อนี้ เช่นกันคะ
รอติดตามชมอีก❗