ระบายเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต

สวัสดีค่ะ เราขอพื้นที่ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นมานานหน่อยนะคะ ใครที่เข้ามาอ่านต้องขอขอบคุณที่รับฟังกันนะคะ

ตอนช่วงอนุบาลเราไม่มีเพื่อนเลยค่ะ คุยคนเดียวตลอด เหงามากแต่ตอนนั้นเด็กมากเลย จึงไม่รู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกอะไร พยายามตีสนิทกับเพื่อนร่วมห้องตลอด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือโดนแกล้ง จนสุดท้ายขึ้นป.1 คิดว่าต้องมีเพื่อนให้ได้ พยายามตีสนิทกับทุกคน แต่ไม่รู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรา เหมือนไม่อยากคุยด้วยแล้วทำเมินใส่ จึงไม่มีเพื่อนตามเดิม555 พอขึ้นป.4 มีเพื่อนกลุ่มนึงมาตีสนิทด้วย ดีใจมากจริงๆ มีความสุขที่สุดคือช่วงนั้นเลยค่ะ แต่พอเทอม2เข้า พวกมันเริ่มแกล้งเราค่ะ เอากระเป๋าเราไปทิ้งใส่ถังขยะบ้าง ตัดผมเราบ้าง ไถเงินเราบ้าง หนักสุดก็คงจะถอดถุงเท้ายัดปาก เราก็ยังบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เพื่อนแค่แกล้งเล่น เเต่มันแรงขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มทนไม่ไหว พอต่อต้านก็โดนจับแขนตบหน้า จากที่มีความคิดเล็กๆว่าเรื่องแค่นี้ตายได้ไหม จนมันเริ่มคิดเรื่อยๆ จนมันหมดความอดทน ไปบอกพวกมันว่าเราไม่โอเค พยายามบอกในสิ่งที่มันไม่ควร แต่มันกลับบอกว่าถ้ารับไม่ได้ก็โดดตึกตายไปสิ ความคิดพวกนั้นอยู่ในหัวจนอยากทำ เครียดเรื่องเพื่อนทุกๆวัน ทนให้พวกมันจิกหัวรองตีนจนขึ้นมัธยม และบอกกับตัวเองว่าจะไม่หาเพื่อนอีกแล้ว ยอมอยู่คนเดียวดีกว่า แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันมีงานที่ต้องทำเป็นกลุ่ม จึงได้เพื่อนมา เป็นกลุ่มใหญ่ในห้อง รู้สึกดีมากๆ เพื่อนคอยซับพอร์ตกันและกัน ในกลุ่มไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ช่วงม.1แฮปปี้มากๆ แต่พอขึ้นม.2 พ่อเราไปทำงานที่ตปท. เราจึงต้องย้ายไปอยู่กับตายาย เราเริ่มโดนด่าจากตาคำเล็กๆที่ว่า ทำไมกูต้องเลี้ยง ไปจนถึงคำที่เราได้ยินแล้วหัวใจแทบจะแตกสลาย ไม่น่าเกิดมาเลย เราโดนด่าจากตาทุกครั้งทุกวัน วันไหนไม่มีเรื่องให้เราก็ต้องด่าให้ได้ เช่นเรากำลังทำการบ้านช่วง4-5ทุ่ม ตาก็มาด่าว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่เนิ่น กลับมาก็รีบทำงานสิ เราไม่เข้าใจ เรากลับมาพักไม่ได้เลยหรอ ได้นอนสักหน่อยก่อนที่จะทำงานไม่ได้หรอ เราจึงพูดสวนไปว่าเหนื่อย อยากพักบ้างเลยทำการบ้านตอนนี้ ตาจึงด่ากลับบอกเราเถียงบ้างบอกปัญญาอ่อนสำออย ได้ยินแค่นี้ก็ร้องให้แล้ว เราเครียดกับการเรียนแล้วกลับบ้านมาต้องมาเครียดกับตาที่ด่าทุกวัน มีวันนึงเราลืมเสียบหม้อหุงข้าว เราโดนตาตบหน้าจนเป็นรอย บางทีเราทำงานอยู่แล้วยายเรียกไปกินข้าว เราเลยคิดว่าเดี๋ยวทำเสร็จก่อนค่อยไป น่าจะเหลือไว้ แต่สุดท้ายก็ว่างปล่าว ตาบอกว่าชักช้าเอง ทำแต่อะไรไร้สาระเลยไม่ได้แดก วันนั้นเลยไม่ได้กินข้าว รู้สึกเหนื่อยกับคำพูดที่มันถาโถมเข้ามาเกือบจะทุกวัน ยายไม่เคยห้ามตา ยายด้วยซ้ำที่ทำให้เราโดนด่า เวลาตาไม่อยู่ยายจะปกติมากๆ พอตาอยู่ยายดันบ่นเจ็บบ่นแสบบ่นตาย พอเราไม่สนใจคำพูดของยายเราก็จะโดนตาด่า มีครั้งนึงเราซ้อมงานโรงเรียนหนักจนเพลีย กลับบ้านมาอาเจียนหนักมาก ไม่มีใครสนใจเลย แถมยังบอกว่ารำคาญแล้วก็ไล่ให้ไปเช็ดอ้วก เรารู้สึกเสียใจ อยากไปอยู่กับแม่ รู้สึกไม่อยากให้ชีวิตต่อ แต่ยังมีเพื่อนมีพ่อแม่ที่ยังรักเรา แต่เรากลับคิดผิด เพื่อนสนิทมาบอกว่าตอนที่เราไม่มารรเพื่อนในกลุ่มนั่งนินทาว่าไม่ชอบเรา แล้วนินทากันสนุกสนาน เราร้องไห้เมื่อรู้ว่าเพื่อนที่รักไม่เคยรักเราจริงๆ ทุกอย่างมันก็แค่การแสดง เราเสียใจมาก เรารู้สึกว่าเราไร้ค่า แต่ยังคิดถึงพ่อแม่ที่ส่งเราเรียน สุดท้ายก็มารู้ทีหลังว่าพ่อมีชู้ แม่ร้องไห้ทุกวัน เราแอบไปได้ยินแม่คุยกับพ่อว่าถ้าเบื่อแม่เมื่อไรก็มาเซ็นใบหย่า พ่อบอกอีกด้วยว่า ถ้าหย่ากันแล้ว ก็เลี้ยงลูกเอง ใจเราแตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี ไม่เคยมีใครอยู่ข้างเรา ตอนนี้ท้อแท้มากค่ะ พึ่งกินพาราไป6เม็ด และยาเบาหวานไป5เม็ด เผื่อจะขาดน้ำตาลในเลือดแล้วแอดมิด ตอนนี้นอนหน้าทีวี เพราะตาไล่ไม่ให้นอนในห้อง รู้สึกเบื่อกับชีวิต ร้องไห้ทุกวันจนมันเอียน คิดแค่ว่าตัวเองจะอยู่รอดไปถึงไหน จะใช้ชีวิตยังไง ใครจะอยู่ข้างเรา...
ขอบคุณที่รับชมรับฟังค่ะ จะพยายามไม่คิดมากไม่คิดสั้น อีกแค่8ปีเอง เราก็จะหมดทุกข์แล้ว
ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านจนจบค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่