หากจะแก้ปัญหาพระรับเงิน เป็นได้ไหมครับที่จะแก้ไขที่กฎหมาย เช่น อาจแก้ไข พ.ร.บ สงฆ์ หรือ พ.ร.บ.จัดตั้งวัด
เพราะเท่าที่เห็น เหมือน สำนักนักพุทธพยายามแก้ไขเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง ถึงแม้บางวัดจะมีการแต่งตั้งไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการวัด แต่ก็มีหลายวัดที่ไม่มีการแต่งตั้ง
เป็นไปได้ไหมว่าหากจะแก้ไขโดยการออกกฎหมายไปเลยว่า
"ทุกวัดจะต้องมีไวยาวัจกรณ์ และต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบการเงินของวัด โดยให้เจ้าอาวาสเป็นผู้แต่งตั้งไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการวัดนั้นๆ หากวัดใดไม่จัดให้มีไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการที่กล่าวมา เจ้าอาวาสวัดนั้นพ้นจากการเป็นเจ้าอาวาส และจะถูกตัดสิทธ์ในการได้รับสมณศักดิ์ต่างๆตลอดชีพ และวัดนั้นพ้นสภาพจากความเป็นวัด
และให้สำนักงานพระพุทธศาสนามีอำนาจในการสั่งปิดและยึดทรัพย์สินวัดนั้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน
และให้ไวยาวัจกรณ์ เป็นผู้มีอำนาจในการจัดการเงินของวัด และให้คณะกรรมการตรวจสอบการเงินของวัดเป็นผู้มีอำนาจในการตรวจสอบการบริหารการเงินและการใช้อำนาจในทางทุจริตของไวยาวัจกรณ์
โดยให้มีการจัดสันเงินเดือนให้คณะกรรมการวัด และไวยาวัจกรณ์เหล่านั้นตามสัดส่วนรายได้จากการรับบริจาคของวัดที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของวัด เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถในกรณีที่พระมีกิจนิมนต์"
ทีนี้อาจมีหลายคนมองว่า พระในวัดมีหลายรูป แต่ละคนมีภารกิจต่างกัน บางคนเดินทางไปเรียน บางคนมีกิจนิมนต์ ไวยาวัจกรณ์คนเดียวจะไหวหรือ ตรงนี้ผมมองว่าอาจจะต้องมีไวยาวัจกรณ์หลายคน โดยอาจมีการจัดให้เหมาะสมกับจำนวนพระ
ส่วนเงินนิตยภัตก็ให้ส่งเป็นใบปวารณาให้เจ้าอาวาส และโอนเข้าบัญชีส่วนกลางของวัดทันที โดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีเจ้าอาวาส
ถ้าทำได้แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปโต้เถียงกันเรื่องพระวินัยและการสวดปาฏิโมกร่วมกันของมหานิกายและธรรมยุตอีกต่อไป และหากประชาชนจะถวายเงินให้พระเป็นค่ากิจนิมนต์ หรือบริจาคให้วัด ก็สามารถทำได้ผ่านไวยาวัจกรณ์ หรือหากจะถวายเงินให้พระในตอนบิณฑบาตก็สามารถทำได้โดยการถวายผ่านไวยาวัจกรณ์ที่ตามไปบิณฑบาตด้วย ผมมองว่าแบบนี้น่าจะใช้กับวัดทุกวัดและควบคุมวัดทุกวัดได้มากกว่า
แบบนี้พอจะเป็นไปได้ไหมครับ
หากจะแก้ปัญหาพระรับเงิน
เพราะเท่าที่เห็น เหมือน สำนักนักพุทธพยายามแก้ไขเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง ถึงแม้บางวัดจะมีการแต่งตั้งไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการวัด แต่ก็มีหลายวัดที่ไม่มีการแต่งตั้ง
เป็นไปได้ไหมว่าหากจะแก้ไขโดยการออกกฎหมายไปเลยว่า
"ทุกวัดจะต้องมีไวยาวัจกรณ์ และต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบการเงินของวัด โดยให้เจ้าอาวาสเป็นผู้แต่งตั้งไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการวัดนั้นๆ หากวัดใดไม่จัดให้มีไวยาวัจกรณ์ และคณะกรรมการที่กล่าวมา เจ้าอาวาสวัดนั้นพ้นจากการเป็นเจ้าอาวาส และจะถูกตัดสิทธ์ในการได้รับสมณศักดิ์ต่างๆตลอดชีพ และวัดนั้นพ้นสภาพจากความเป็นวัด
และให้สำนักงานพระพุทธศาสนามีอำนาจในการสั่งปิดและยึดทรัพย์สินวัดนั้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน
และให้ไวยาวัจกรณ์ เป็นผู้มีอำนาจในการจัดการเงินของวัด และให้คณะกรรมการตรวจสอบการเงินของวัดเป็นผู้มีอำนาจในการตรวจสอบการบริหารการเงินและการใช้อำนาจในทางทุจริตของไวยาวัจกรณ์
โดยให้มีการจัดสันเงินเดือนให้คณะกรรมการวัด และไวยาวัจกรณ์เหล่านั้นตามสัดส่วนรายได้จากการรับบริจาคของวัดที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของวัด เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถในกรณีที่พระมีกิจนิมนต์"
ทีนี้อาจมีหลายคนมองว่า พระในวัดมีหลายรูป แต่ละคนมีภารกิจต่างกัน บางคนเดินทางไปเรียน บางคนมีกิจนิมนต์ ไวยาวัจกรณ์คนเดียวจะไหวหรือ ตรงนี้ผมมองว่าอาจจะต้องมีไวยาวัจกรณ์หลายคน โดยอาจมีการจัดให้เหมาะสมกับจำนวนพระ
ส่วนเงินนิตยภัตก็ให้ส่งเป็นใบปวารณาให้เจ้าอาวาส และโอนเข้าบัญชีส่วนกลางของวัดทันที โดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีเจ้าอาวาส
ถ้าทำได้แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปโต้เถียงกันเรื่องพระวินัยและการสวดปาฏิโมกร่วมกันของมหานิกายและธรรมยุตอีกต่อไป และหากประชาชนจะถวายเงินให้พระเป็นค่ากิจนิมนต์ หรือบริจาคให้วัด ก็สามารถทำได้ผ่านไวยาวัจกรณ์ หรือหากจะถวายเงินให้พระในตอนบิณฑบาตก็สามารถทำได้โดยการถวายผ่านไวยาวัจกรณ์ที่ตามไปบิณฑบาตด้วย ผมมองว่าแบบนี้น่าจะใช้กับวัดทุกวัดและควบคุมวัดทุกวัดได้มากกว่า
แบบนี้พอจะเป็นไปได้ไหมครับ