ก๊อบ (ตอนที่๑๓ เขาสำเภา)

กระทู้สนทนา
เรื่อง : ก๊อบ
โดย : ละเว้
(ตอนที่๑๓ เขาสำเภา)

หลังกินข้าวเสร็จและคุยกันได้สักพักลุงเธียก็พาเข้าตัวจังหวัด จะว่าไปบัตด็อมบองนี่ดูใหญ่กว่าตราดเสียอีก ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะลุงชัยบอกก๊อบว่า บัตด็อมบองถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากพนมเปญ ในขณะที่ตราดน่าจะเป็นจังหวัดที่เล็กสุดในไทยก็ว่าได้

ที่แท้ลุงเธียมาดูราคารถมอเตอร์ไซค์ให้ลูกชายนั่นเอง ก๊อบกับลุงจึงต้องตามแกไปยังร้านขายรถต่าง ๆ นั่นทำให้เขารู้สึกเบื่อและอดนึกถึงธนกับพวกไม่ได้อีกแล้ว

ขากลับลุงเธียพาเขากับลุงนั่งรถเครื่องขึ้นไปบนยอดเขาที่วิ่งผ่านตอนขามาด้วย



“เขาสำเภา” ลุงชัยบอกชื่อของมันกับเขาอีกครั้ง ลุงเธียขับมอเตอร์ไซค์พาก๊อบและลุงขึ้นไปตามทางที่เพิ่งสร้างเสร็จ พาเดินดูบรรดารูปปั้น สิ่งก่อสร้างและถ้ำต่าง ๆ บนนั้น ซึ่งมันก็สวยดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้ก๊อบนึกอยากกลับบ้านเต็มทน มาฅนเดียวอย่างไรก็ไม่สนุก ก๊อบอดคิดถึงธนกับพวกไม่ได้ 



ธนกำลังนั่งขายหอยตัวเล็ก ๆ อยู่ริมทางในหมู่บ้าน หอยเลียดที่เขาเห็นเมื่อเช้า

กลับจากตัวจังหวัดแล้วไม่เห็นธนก๊อบจึงถามหา ลุงเธียถามยายอีกทีก่อนตอบว่าธนขายหอยอยู่ริมทางเขาจึงตามออกมา

“มาอยู่นี่เอง” ก๊อบร้องทัก ธนยิ้ม แน่นอนว่าฟังไม่ออก อย่างมากก็อาจแค่พอเข้าใจ แต่ก๊อบก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าธนฟังคำพูดของเขาออก 

หอยตัวเล็ก ๆ คลุกเคล้าเครื่องปรุงสีสันน่ากินวางกองอยู่บนโต๊ะ ธนนั่งขายไปพลางแกะกินไปด้วย ก๊อบไปยืนพิงเก้าอี้ที่ธนนั่งอยู่ธนจึงแกะหอยในมือส่งให้ ก๊อบหยิบมาชิม มันก็อร่อยดี ธนนั่งกินหอยไปแกะส่งให้ก๊อบไป ก๊อบยืนกินไป มองดูรถเครื่องวิ่งผ่านไปมา 

รถเครื่องที่นี่ส่วนใหญ่แทบทุกคันมีแต่ที่วัยรุ่นไทยเรียกว่ารถคลาสสิก หรือรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าสมัยลุงชัยยังหนุ่ม ปัจจุบันมันหาได้ยากจนถูกวัยรุ่นสมัยนี้จัดให้เป็นรถคลาสสิกไปแล้วนั่นเอง ซึ่งมันหายากในเมืองไทยก็จริง แต่ที่นี่กลับมีเต็มไปหมด ในสภาพใหม่เอี่ยมอีกต่างหาก

รถที่ลุงเธียพาก๊อบไปบัตด็อมบองวันนี้ก็เป็น Honda Dream รถคลาสสิกของวัยรุ่นเมืองไทยเช่นกัน ก๊อบมองว่ามันเท่ดี เมื่อเห็นฅนที่นี่มีแต่รถคลาสสิก 

แต่ที่ลุงเธียไปดูให้ลูกชายวันนี้ไม่ใช่รถแบบที่ว่านี้แล้ว เป็นรถรุ่นใหม่จริง ๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นมีวิ่งตามท้องถนนสักเท่าไร

“นี่กินหอยตากด้วยเหรอ” ลุงชัยถามเป็นคำถามแรกเมื่อเดินเข้ามา ก๊อบหันไปพยักหน้าตอบ 

“มันดิบนะ” ลุงพูดเสียงดังจนก๊อบสะดุ้ง หอยดิบเหรอ นี่ธนมานั่งขายหอยดิบ ก๊อบก้มมองธนที่ยังคงแกะหอยใส่ปาก

“มันแค่ตากแดดเดียวเอง แต่ฅนที่นี่เขาก็ว่ามันสุกนั่นแหละ”

กว่าจะรู้ตัวก็อร่อยไปแล้ว ธนส่งหอยตากให้อีก ก๊อบรับมาพลางหันไปบอกลุง

“ช่างมันเถอะ” ตอบเพราะไม่รู้จะบอกว่าอะไร กลับตัวไม่ทันเพราะอร่อยไปแล้ว ลุงยิ้มขำหลานชายที่ยืนกินหอยดิบหน้าตาเฉย

“ผมนึกว่าพี่เขยลุงเธียเป็นฅนงานดูแลนกเสียอีก คิดว่าเป็นตาแก่น่าสงสาร” ก๊อบคุยกับลุงก่อนนอนถึงเรื่องที่เขายังไม่อยากจะเชื่อนั้น

“แกก็น่าสงสารนะ แต่เป็นเมื่อก่อน สมัยเขมรแดงนั่นแหละ” ลุงตอบหลาน

“แกเป็นฅนเวียดนาม เขมรแดงเกลียดเวียดนาม ตอนนั้นแกจึงต้องหลบอยู่แต่ในป่า เพราะถ้าเขมรแดงเจอเวียดนามเขมรแดงจะฆ่าพวกเขาทิ้งหมด ข้าวปลาก็มีกินบ้างอดบ้าง และแกต้องอยู่แบบหลบซ่อนๆ อย่างนั้นร่วมสี่ปีเลย”

“เขมรแดงโหดร้ายมากเหรอครับ” ก๊อบเคยได้ยินเรื่องความโหดร้ายของเขมรแดงมาบ้างเช่นกัน แต่เขาเพิ่งเริ่มสนใจก็ตอนนี้เอง

“โหดร้ายมากนั่นแหละ พวกเขาฆ่าฅนหลายล้านฅนในเวลาประมาณสี่ปี พ่อของลุงเธียก็ถูกเขมรแดงฆ่าเช่นกัน”

“เหรอครับ ทำไมพวกเขาต้องฆ่าพ่อลุงเธียด้วย พ่อลุงเธียเป็นเวียดนามเหรอครับ” ก๊อบถามด้วยความสนใจ

“พ่อลุงเธียไม่ใช่เวียดนาม แต่เป็นครู เขมรแดงเจาะจงฆ่าครู หมอ คนรวย ดารา หรือแม้แต่พระสงฆ์” ก๊อบนอนฟังลุงพูดไป ที่นี่มีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิด

“แล้วรู้หรือเปล่าว่าพ่อลุงเธียถูกฆ่าที่ไหน” ลุงเว้นระยะก่อนพูดต่อ “เขาสำเภาที่เราไปกันวันนี้นั่นแหละ มีฅนมากมายถูกฆ่าตายที่นั่น จนทำให้มันได้ชื่อว่า ถ้ำสังหารแห่งพระตะบองเลยทีเดียว”

ก๊อบนึกถึงพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ บนนั้นแล้วอดคิดไม่ได้ว่า มันไม่น่าเป็นสถานที่ใช้ฆ่าฟันกันได้เลย.

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


ภาพ : โกศเก็บกระดูกบนเขาสำเภา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่