เรื่อง : ก๊อบ
โดย : ละเว้
(ตอนที่๑๒ ลุงแก่)
เช้านี้ลุงบอกว่าลุงเธียจะพาไปตัวจังหวัดบัตด็อมบองหรือพระตะบองกัน เมื่อกลับจากหาข้าวต้มกินในตลาดแล้วก๊อบจึงนั่งเล่นโทรศัพท์บนแคร่รอลุงเธีย ธนนอนอยู่ในเปลญวน จันเธือนยังอยู่บนบ้าน ยายอยู่ในครัวเหมือนเดิม เภียกับธีออกไปไหนกันแต่เช้าแล้ว
สักพักจึงได้เห็นลุงเธียขับมอเตอร์ไซค์กลับเข้ามา มีป้าเซร็ยกระเดียดตะกร้าก้นกลมซ้อนท้ายมาด้วย ในตะกร้ามีหอยสองฝาหรือหอยเลียดตัวขนาดไม่เกินปลายนิ้วจำนวนหนึ่ง ก๊อบเห็นเมื่อแกวางตะกร้าบนแคร่ที่เขานั่ง แต่สิ่งสะดุดตาก๊อบกลับเป็นของซึ่งอยู่ในถุงข้างตะกร้ามากกว่า เขาหยิบมันออกมาให้ลุงดู
“แผ่นซีดีละครไทย ทำไมล่ะ” ลุงเลิกคิ้วถาม
“เมื่อคืนก็ดูเรื่องนี้” ก๊อบบอกลุงหัวเราะก่อนตอบ
“เมื่อคืนมันพูดไทยไง แต่ในแผ่นนี่พูดขแมร์” ก๊อบได้แต่มองหน้า ลุงจึงต้องอธิบาย
“ที่นี่จะเป็นแบบนี้แหละ ดูภาษาไทยก่อน ถ้าชอบใจก็หาเช่าแผ่นก๊อปมาดูซ้ำ” ลุงมองหน้าหลานแล้วกล่าวต่อ "เป็นเพราะทางการสั่งห้ามทีวีแขมร์ฉายละครไทยนั่นแหละ พวกเขาจึงต้องดูละครจากช่องทีวีไทยกับหาเช่าแผ่นเท่านั้น"
“ทำไมถึงห้ามฉายละครไทยล่ะครับ” ก๊อบสงสัยอีก
“เรื่องมันยาว มีเรื่องเผาสถานทูตไทยอะไรนั่นด้วย ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน” ลุงตัดบทดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น
“ธนไปด้วยกันไหม” ก๊อบหันไปถามธนเมื่อได้เวลาเดินทาง บางครั้งเขาก็ลืมไปว่าธนฟังไม่ออก
“ธนมันไม่ไปหรอก” ลุงเธียรีบบอกโดยไม่ทันได้ถามธนอีกแล้ว รู้ได้อย่างไรว่าธนไม่อยากไป ก๊อบนึกในใจ แต่ถึงธนจะอยากไปก็คงไปไม่ได้เช่นกัน เพราะรถมอเตอร์ไซค์นั่งได้แค่สามฅนเท่านนั้
วันนี้ลุงเธียใช้มอเตอร์ไซค์คันใหม่ ไม่ใช่คันเดิมที่ใช้ขี่เข้าตลาด สามฅนออกจากบ้านกันแต่เช้า
บนเส้นทางที่พาก๊อบเข้ามาจากบ้านผักกาด ลุงเธียกำลังพาก๊อบกับลุงมุ่งหน้าต่อไปอีก ได้นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับลมเย็นแบบนี้มันก็สดชื่นกว่าแออัดมาในรถโดยสารเป็นธรรมดา
สองข้างทางยังคงเป็นภาพสวยงาม ทุ่งนากับภูเขาหินปูนที่โผล่มาให้เห็นไกล ๆ มีลูกหนึ่งที่เส้นทางรถพาพวกเขาเฉียดเข้าไปใกล้กับมัน
ฝั่งขวามือของชุมชนขนาดย่อมคือภูเขาหินปูนลูกที่ว่า ก๊อบเห็นมีบางอย่างอยู่บนยอดของมันด้วย
“เขาสำเภา” ลุงชัยบอกกับก๊อบ
ระยะทางและเวลายิ่งผ่านไป ก๊อบยิ่งรู้สึกได้ถึงเสียงดังจากรถยนต์แต่ละคันที่ต่างชอบบีบแตรใส่กัน บีบรัว ๆ ถี่ ๆ เพื่อขอทางหรืออะไรสักอย่าง ยิ่งใกล้ถึงตัวจังหวัดเสียงแตรยิ่งรัวถี่มากขึ้น ในที่สุดก็ดังสนั่นไปหมด อาจเพราะในไทยไม่ค่อยมีใครบีบแตรใส่กันแบบนี้ด้วย ก๊อบจึงอดคิดไม่ได้ว่า มันดังจนน่าตกใจและทำให้เขารำคาญได้เหมือนกัน
ยังไม่ทันถึงตัวจังหวัดลุงเธียก็พาก๊อบกับลุงข้ามฝั่งถนนแยกไปตามทางซอยซ้ายมือ ลึกพอควรที่แกพาเข้ามาก่อนหยุดรถที่หน้ากำแพงรั้วของบ้านหลังหนึ่ง บ้านปูนสองชั้นรูปทรงทันสมัยโดดเด่นกว่าบ้านหลังอื่นในละแวกนี้อย่างเห็นได้ชัด มีรถกระบะสองคันและสิบล้อจอดอยู่ด้านข้างนอกกำแพง บ้านของฅนรวย ก๊อบคิดในใจ
เมื่อทุกฅนลงจากรถลุงเธียจึงพาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ลึกเข้าไปสักหน่อยก๊อบจึงได้เห็นว่าที่นี่ก็มีกรงนกกระทาเช่นกันกับที่หมู่บ้านลุงเธีย เป็นกรงหรือเล้าขนาดใหญ่เรียกว่าฟาร์มได้เลย
“เมืองเขมรกำลังขยาย” ลุงเธียชวนคุยขณะพาเดินไปด้วย “ที่บัตด็อมบองตอนนี้ขอแต่ให้มีของขายเถอะ ขายไม่ทันกันเลยนั่นแหละ นกกระทาที่นี่ยังเลี้ยงไม่พอขายเลย”
ลุงเธียทักทายฅนงานที่กำลังทำงานอยู่กับเครื่องถอนขนนกด้วยความคุ้นเคย เครื่องถอนขนนกก็ดูน่าสนใจสำหรับก๊อบเช่นกัน แต่ว่า...
ลุงแก่กับรอยยิ้มย่นไม่ใส่เสื้อฅนนั้นแกอยู่ที่นี่ด้วย ยังอยู่ในชุดเดิม กางเกงขาสั้นเก่า ๆ เมื่อเห็นพวกเขาแกจึงยิ้มทักทายด้วยรอยยิ้มย่น ๆ นั้น ลุงแก่คุยกับลุงเธียสักพักจึงพาพวกเขาเดินออกมา และนำเข้าไปยังบ้านฅนรวยหลังนั้น
ผู้หญิงฅนหนึ่งออกมาทักทายต้อนรับ ลุงแก่ยิ้มให้ก๊อบก่อนเดินเข้าไปข้างใน ขณะที่หญิงฅนนั้นพาพวกเขาไปนั่งยังโต๊ะหินอ่อนใต้ชายคาหน้าบ้าน
ก๊อบเพิ่งรู้ว่าลุงแก่ฅนนี้คือเจ้าของบ้านหลังนี้ เป็นสามีของผู้หญิงที่ออกมาต้อนรับ ซึ่งก็คือพี่สาวของลุงเธีย นั่นหมายความว่า แกเป็นเจ้าของฟาร์มนกกระทา รวมถึงเจ้าของรถกระบะรถสิบล้อที่จอดอยู่ข้างบ้านนี่ด้วย เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ
ทุกเช้าที่แกไปยังกรงนกที่บ้านลุงเธียนั้นจะมีลูกชายขับรถไปส่ง ซึ่งก๊อบไม่เคยได้สังเกต เขาจึงเพิ่งทราบความจริงวันนี้เองว่า ลุงแก่ที่เขาคิดว่าน่าสงสารนั้น ไม่ใช่ฅนจนน่าสงสารอย่างที่คิดเลย กลับเป็นฅนรวยที่รวยมากเสียด้วยซ้ำ
สักพักพี่สาวลุงเธียจึงเรียกให้ทุกฅนไปกินข้าวในครัว มาอยู่ขแมร์นี่ตั้งหลายวันแล้ว นอกจากข้าวต้มญวนที่ลุงพาไปกินทุกเช้า ก๊อบก็เพิ่งได้กินของอร่อยถูกปากวันนี้เอง.
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ตอนที่แล้ว
ก๊อบ (ตอนที่๑๒ ลุงแก่)
โดย : ละเว้
(ตอนที่๑๒ ลุงแก่)
เช้านี้ลุงบอกว่าลุงเธียจะพาไปตัวจังหวัดบัตด็อมบองหรือพระตะบองกัน เมื่อกลับจากหาข้าวต้มกินในตลาดแล้วก๊อบจึงนั่งเล่นโทรศัพท์บนแคร่รอลุงเธีย ธนนอนอยู่ในเปลญวน จันเธือนยังอยู่บนบ้าน ยายอยู่ในครัวเหมือนเดิม เภียกับธีออกไปไหนกันแต่เช้าแล้ว
สักพักจึงได้เห็นลุงเธียขับมอเตอร์ไซค์กลับเข้ามา มีป้าเซร็ยกระเดียดตะกร้าก้นกลมซ้อนท้ายมาด้วย ในตะกร้ามีหอยสองฝาหรือหอยเลียดตัวขนาดไม่เกินปลายนิ้วจำนวนหนึ่ง ก๊อบเห็นเมื่อแกวางตะกร้าบนแคร่ที่เขานั่ง แต่สิ่งสะดุดตาก๊อบกลับเป็นของซึ่งอยู่ในถุงข้างตะกร้ามากกว่า เขาหยิบมันออกมาให้ลุงดู
“แผ่นซีดีละครไทย ทำไมล่ะ” ลุงเลิกคิ้วถาม
“เมื่อคืนก็ดูเรื่องนี้” ก๊อบบอกลุงหัวเราะก่อนตอบ
“เมื่อคืนมันพูดไทยไง แต่ในแผ่นนี่พูดขแมร์” ก๊อบได้แต่มองหน้า ลุงจึงต้องอธิบาย
“ที่นี่จะเป็นแบบนี้แหละ ดูภาษาไทยก่อน ถ้าชอบใจก็หาเช่าแผ่นก๊อปมาดูซ้ำ” ลุงมองหน้าหลานแล้วกล่าวต่อ "เป็นเพราะทางการสั่งห้ามทีวีแขมร์ฉายละครไทยนั่นแหละ พวกเขาจึงต้องดูละครจากช่องทีวีไทยกับหาเช่าแผ่นเท่านั้น"
“ทำไมถึงห้ามฉายละครไทยล่ะครับ” ก๊อบสงสัยอีก
“เรื่องมันยาว มีเรื่องเผาสถานทูตไทยอะไรนั่นด้วย ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน” ลุงตัดบทดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น
“ธนไปด้วยกันไหม” ก๊อบหันไปถามธนเมื่อได้เวลาเดินทาง บางครั้งเขาก็ลืมไปว่าธนฟังไม่ออก
“ธนมันไม่ไปหรอก” ลุงเธียรีบบอกโดยไม่ทันได้ถามธนอีกแล้ว รู้ได้อย่างไรว่าธนไม่อยากไป ก๊อบนึกในใจ แต่ถึงธนจะอยากไปก็คงไปไม่ได้เช่นกัน เพราะรถมอเตอร์ไซค์นั่งได้แค่สามฅนเท่านนั้
วันนี้ลุงเธียใช้มอเตอร์ไซค์คันใหม่ ไม่ใช่คันเดิมที่ใช้ขี่เข้าตลาด สามฅนออกจากบ้านกันแต่เช้า
บนเส้นทางที่พาก๊อบเข้ามาจากบ้านผักกาด ลุงเธียกำลังพาก๊อบกับลุงมุ่งหน้าต่อไปอีก ได้นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับลมเย็นแบบนี้มันก็สดชื่นกว่าแออัดมาในรถโดยสารเป็นธรรมดา
สองข้างทางยังคงเป็นภาพสวยงาม ทุ่งนากับภูเขาหินปูนที่โผล่มาให้เห็นไกล ๆ มีลูกหนึ่งที่เส้นทางรถพาพวกเขาเฉียดเข้าไปใกล้กับมัน
ฝั่งขวามือของชุมชนขนาดย่อมคือภูเขาหินปูนลูกที่ว่า ก๊อบเห็นมีบางอย่างอยู่บนยอดของมันด้วย
“เขาสำเภา” ลุงชัยบอกกับก๊อบ
ระยะทางและเวลายิ่งผ่านไป ก๊อบยิ่งรู้สึกได้ถึงเสียงดังจากรถยนต์แต่ละคันที่ต่างชอบบีบแตรใส่กัน บีบรัว ๆ ถี่ ๆ เพื่อขอทางหรืออะไรสักอย่าง ยิ่งใกล้ถึงตัวจังหวัดเสียงแตรยิ่งรัวถี่มากขึ้น ในที่สุดก็ดังสนั่นไปหมด อาจเพราะในไทยไม่ค่อยมีใครบีบแตรใส่กันแบบนี้ด้วย ก๊อบจึงอดคิดไม่ได้ว่า มันดังจนน่าตกใจและทำให้เขารำคาญได้เหมือนกัน
ยังไม่ทันถึงตัวจังหวัดลุงเธียก็พาก๊อบกับลุงข้ามฝั่งถนนแยกไปตามทางซอยซ้ายมือ ลึกพอควรที่แกพาเข้ามาก่อนหยุดรถที่หน้ากำแพงรั้วของบ้านหลังหนึ่ง บ้านปูนสองชั้นรูปทรงทันสมัยโดดเด่นกว่าบ้านหลังอื่นในละแวกนี้อย่างเห็นได้ชัด มีรถกระบะสองคันและสิบล้อจอดอยู่ด้านข้างนอกกำแพง บ้านของฅนรวย ก๊อบคิดในใจ
เมื่อทุกฅนลงจากรถลุงเธียจึงพาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ลึกเข้าไปสักหน่อยก๊อบจึงได้เห็นว่าที่นี่ก็มีกรงนกกระทาเช่นกันกับที่หมู่บ้านลุงเธีย เป็นกรงหรือเล้าขนาดใหญ่เรียกว่าฟาร์มได้เลย
“เมืองเขมรกำลังขยาย” ลุงเธียชวนคุยขณะพาเดินไปด้วย “ที่บัตด็อมบองตอนนี้ขอแต่ให้มีของขายเถอะ ขายไม่ทันกันเลยนั่นแหละ นกกระทาที่นี่ยังเลี้ยงไม่พอขายเลย”
ลุงเธียทักทายฅนงานที่กำลังทำงานอยู่กับเครื่องถอนขนนกด้วยความคุ้นเคย เครื่องถอนขนนกก็ดูน่าสนใจสำหรับก๊อบเช่นกัน แต่ว่า...
ลุงแก่กับรอยยิ้มย่นไม่ใส่เสื้อฅนนั้นแกอยู่ที่นี่ด้วย ยังอยู่ในชุดเดิม กางเกงขาสั้นเก่า ๆ เมื่อเห็นพวกเขาแกจึงยิ้มทักทายด้วยรอยยิ้มย่น ๆ นั้น ลุงแก่คุยกับลุงเธียสักพักจึงพาพวกเขาเดินออกมา และนำเข้าไปยังบ้านฅนรวยหลังนั้น
ผู้หญิงฅนหนึ่งออกมาทักทายต้อนรับ ลุงแก่ยิ้มให้ก๊อบก่อนเดินเข้าไปข้างใน ขณะที่หญิงฅนนั้นพาพวกเขาไปนั่งยังโต๊ะหินอ่อนใต้ชายคาหน้าบ้าน
ก๊อบเพิ่งรู้ว่าลุงแก่ฅนนี้คือเจ้าของบ้านหลังนี้ เป็นสามีของผู้หญิงที่ออกมาต้อนรับ ซึ่งก็คือพี่สาวของลุงเธีย นั่นหมายความว่า แกเป็นเจ้าของฟาร์มนกกระทา รวมถึงเจ้าของรถกระบะรถสิบล้อที่จอดอยู่ข้างบ้านนี่ด้วย เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ
ทุกเช้าที่แกไปยังกรงนกที่บ้านลุงเธียนั้นจะมีลูกชายขับรถไปส่ง ซึ่งก๊อบไม่เคยได้สังเกต เขาจึงเพิ่งทราบความจริงวันนี้เองว่า ลุงแก่ที่เขาคิดว่าน่าสงสารนั้น ไม่ใช่ฅนจนน่าสงสารอย่างที่คิดเลย กลับเป็นฅนรวยที่รวยมากเสียด้วยซ้ำ
สักพักพี่สาวลุงเธียจึงเรียกให้ทุกฅนไปกินข้าวในครัว มาอยู่ขแมร์นี่ตั้งหลายวันแล้ว นอกจากข้าวต้มญวนที่ลุงพาไปกินทุกเช้า ก๊อบก็เพิ่งได้กินของอร่อยถูกปากวันนี้เอง.
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ตอนที่แล้ว