โรคมะเร็ง ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย และคนทั่วโลก โดยผู้ป่วยหลายๆ คน มักรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งในระยะท้ายๆ และอาจลุกลามไปยังอวัยวะต่างๆทั่วร่างกายแล้ว ทำให้ยากต่อการรักษา ดังนั้นการตรวจและสังเกตสุขภาพตนเองอยู่เป็นประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีโอกาสในตรวจเจอโรคมะเร็งตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถตอบสนองต่อการรักษาได้ดีกว่านั่นเอง
7 สัญญาณเตือนมะเร็งที่ต้องรู้
สำหรับอาการเริ่มต้น ที่ถือเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อย มีดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น มีแผลที่รักษาไม่หาย ผิวหนังมีสีหรือรูปร่างผิดปกติ ไฝหรือหูดมีการเปลี่ยนแปลง
2. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องผูกหรือท้องเสีย ถ่ายอุจจาระปนเลือด อาเจียนเป็นเลือดหรือเสมหะปนเลือด
3. อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบ หายใจลำบาก
4. อาการทางระบบปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะมีเลือดปน
5. อาการทางระบบสืบพันธุ์ เช่น ประจำเดือนมาผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ก้อนบริเวณเต้านมหรืออวัยวะเพศ
6. อาการทางระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง อ่อนแรงหรือชาตามร่างกาย มีปัญหาในการทรงตัว
7. อาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง มีไข้สูง เหงื่อออกตอนกลางคืน
การตรวจคัดกรองมะเร็งจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากตรวจพบในระยะเริ่มแรก จะทําให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นควรสังเกตอาการตัวเองเป็นประจำ หากมีอาการใดๆ ที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
นอกจากสัญญาณเตือนมะเร็งที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง ได้แก่
1. อายุที่เพิ่มขึ้น
2. ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
3. พันธุกรรม
4. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสสารเคมีบางชนิด
5. โรคอ้วน
6. ขาดการออกกำลังกาย
ทั้งนี้การป้องกันโรคมะเร็งที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เครียด และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tnnthailand.com/news/health/160983/
7 สัญญานเตือนมะเร็งที่ต้องรู้ อาการเริ่มต้น มีอะไรบ้าง เช็คที่นี่
7 สัญญาณเตือนมะเร็งที่ต้องรู้
สำหรับอาการเริ่มต้น ที่ถือเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อย มีดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เช่น มีแผลที่รักษาไม่หาย ผิวหนังมีสีหรือรูปร่างผิดปกติ ไฝหรือหูดมีการเปลี่ยนแปลง
2. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องผูกหรือท้องเสีย ถ่ายอุจจาระปนเลือด อาเจียนเป็นเลือดหรือเสมหะปนเลือด
3. อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบ หายใจลำบาก
4. อาการทางระบบปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะมีเลือดปน
5. อาการทางระบบสืบพันธุ์ เช่น ประจำเดือนมาผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ก้อนบริเวณเต้านมหรืออวัยวะเพศ
6. อาการทางระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง อ่อนแรงหรือชาตามร่างกาย มีปัญหาในการทรงตัว
7. อาการอื่นๆ เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง มีไข้สูง เหงื่อออกตอนกลางคืน
การตรวจคัดกรองมะเร็งจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากตรวจพบในระยะเริ่มแรก จะทําให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นควรสังเกตอาการตัวเองเป็นประจำ หากมีอาการใดๆ ที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
นอกจากสัญญาณเตือนมะเร็งที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง ได้แก่
1. อายุที่เพิ่มขึ้น
2. ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
3. พันธุกรรม
4. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสสารเคมีบางชนิด
5. โรคอ้วน
6. ขาดการออกกำลังกาย
ทั้งนี้การป้องกันโรคมะเร็งที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เครียด และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/health/160983/