เรื่อง : ก๊อบ
โดย : ละเว้
(ตอนที่๗ ข้าวต้มญวน)
ในที่สุดลุงก็พาหลานมาถึงร้านข้าวต้มที่อยู่อีกฝั่งของตลาดจนได้ ข้าวต้มญวนเป็นข้าวต้มที่ใส่เครื่องในและเนื้อหมูหรือไก่ ใส่ถั่วงอก มีเครื่องปรุงพริกป่นแบบข้าวต้มเครื่องของไทย บางทีก็มีใส่อย่างอื่นด้วยเช่นเส้นหมี่หรือก๊วยเตี๋ยว บางฅนกินกับปาท่องโก๋ ซึ่งปาท่องโก๋ของที่นี่จะมีขนาดใหญ่โตจนก๊อบอดแปลกใจไม่ได้เช่นกัน
“อันนี้เขาเรียกข้าวต้มญวนใช่ไหมครับ” เด็กชายชี้ไปที่ชามข้าวต้ม ลุงหันมองพลางพยักหน้า
“แล้วก็คงไม่มีขายที่เวียดนาม” ลุงหัวเราะชอบใจกับคำพูดของหลานชาย
“เออ ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะเหมือนกับของเราล่ะมัง ขนมจีน ลอดช่องสิงคโปร์ แต่ฅนจีนฅนสิงคโปร์ไม่รู้จัก” แล้วลุงก็หัวเราะขึ้นมาอีก ก๊อบรู้สึกดีที่ทำให้ลุงหัวเราะได้
“เมื่อคืนหนูยังได้ยินลุงเธียเรียกตัวเองว่าเขมรเลย” ก๊อบถาม ลุงหันมองพลางจ้องหน้าหลาน
“เพราะลุงเธียเขาเข้าใจนะสิ” ลุงพยายามอธิบาย “ลุงเธียเข้าใจและยอมรับได้ว่า ฅนไทยบางฅนที่เรียกเขาว่าเขมรนั้น มาจากความเคยชินไม่ใช่ดูถูก แต่ก็ไม่ใช่ทุกฅนที่เรียกแบบนั้นโดยไม่คิดดูถูก และก็ไม่ใช่ว่าฅนที่นี่ทุกฅนจะยอมรับคำว่าเขมรที่เราเรียกเขาได้เช่นกัน ลุงจึงอยากให้หัดเรียกเขาว่าขแมร์ให้เคยชินอย่างไรล่ะ”
ก๊อบรู้สึกว่าเขาถามนิดเดียวเองลุงตอบเสียยาวเลย ซึ่งเด็กชายก็ได้แต่ทำท่าเข้าใจ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ได้สนใจสักเท่าไรหรอก
หลังออกจากร้านข้าวต้มลุงก็พาเดินเบียดผู้ฅนในตลาดอีกแล้ว คราวนี้แกพาก๊อบเดินออกมาถึงหน้าตลาดเลย
“ไปไหนอีกลุง” ก๊อบถาม เขาเบื่อการเดินตามลุงเต็มทีแล้ว
“แลกเงิน เอาเงินไทยไปแลกเงินขแมร์ แล้วก็หาซื้อซิมการ์ดด้วยไง เอ็งจะได้เข้าเฟซเล่นอะไรได้” ลุงตอบขณะเดินนำไป โธ่ลุง แล้วก็ไม่ยอมซื้อให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้เลยนะ ก๊อบอดค่อนขอดในใจไม่ได้
แม่ยายของลุงเธียกำลังทำงานง่วนอยู่ในครัวเมื่อสองลุงหลานกลับมาถึงบ้าน ขณะที่ฅนอื่น ๆ ไม่มีใครอยู่เลย ก๊อบไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าการรีบเอาโทรศัพท์มาให้ลุงใส่ซิมเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่นานก็จมดิ่งอยู่ในสังคมออนไลน์ ได้โม้ให้เพื่อนฟังจนลืมเรื่องคิดถึงบ้านไปชั่วคราว
เกือบครึ่งวันลุงเธียจึงขับรถไถแบบเดินตามติดพ่วงท้าย พาลูกชายสามฅนกลับถึงบ้าน มีทะลายมะพร้าวอ่อนกองมาเต็มพ่วง
ก๊อบยังสนใจหน้าจอของเขา ขณะทุกฅนช่วยกันยกมะพร้าวเข้ามาในใต้ถุน
มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งบรรทุกละมุดเต็มตะกร้าวิ่งเข้ามาจอด ลุงเธียส่งเสียงทักทาย ธนยกกิโลชั่งน้ำหนักซึ่งวางอยู่ใต้เตียงที่ก๊อบนอนออกไป สองพี่น้องเภียกับธี ช่วยกันยกตะกร้าละมุดขึ้นชั่ง ชาวบ้านพวกนี้คงเอาละมุดมาขายให้ลุงเธีย ก๊อบคิดในใจขณะยังคงเขี่ยหน้าจอ
สี่พ่อลูกเสร็จงานเมื่อถึงเวลาอาหารมื้อแรกของพวกเขา และมื้อกลางวันของสองลุงหลานจากเมืองไทย
ก๊อบยังคงนอนเล่นโทรศัพท์ต่อหลังกินข้าวเสร็จ ขณะที่ลุงรวบรวมผ้าที่ใส่มาตอนเดินทางเอาไปซัก
“ไปบ้านยายกัน” ลุงเอ่ยชวนเมื่อซักผ้าตากเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ไปหรอก” ก๊อบรีบตอบพลางส่ายหน้า ความรู้สึกแรกที่เจอกันทำให้เขาไม่อยากเจอหน้ายายเลย ลุงจึงต้องเดินออกไปฅนเดียว
จันเธือนเข้ามาเงียบ ๆ ปีนขึ้นไปบนเตียงที่ก๊อบนอนอยู่ เด็กหญิงตัวเล็กฅนนี้น่าจะอายุไม่เกินหกขวบ ก๊อบคิดว่าประมาณนั้น เธอเพิ่งกลับจากการไปวิ่งเล่นกับเพื่อน เด็กน้อยสนใจโทรศัพท์ในมือของก๊อบจึงปีนขึ้นมานั่งดู ไม่ได้รู้หรอกว่าก๊อบนึกรำคาญแล้ว ทำหน้าดุหันมองยังไม่รับรู้ กลับยิ้มประจบเสียอย่างนั้นอีก
“ดูอะไร” ก๊อบทำเสียงดุใส่ เด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะชอบใจ ขำภาษาที่ฟังไม่ออก ก๊อบทำตัวแข็งได้สักพักจึงเก็บโทรศัพท์ มานั่งห้อยขาหน้านิ่งอยู่ปลายเตียง
ธนส่งยิ้มมาแต่ไกลขณะเดินเข้ามาในใต้ถุน
“ไปไหน” ก๊อบถามเมื่อเห็นท่าทางพยักพเยิด
“เล่นน้ำอีกเหรอ” ท่าทางบุ้ยใบ้ไปทางสระทำให้ก๊อบพอเดาความหมายได้ น้ำขุ่นคลั่กขนาดนั้นเล่นกันไปได้อย่างไรทุกวัน ก๊อบคิดในใจ แต่ความที่ยังขัดใจเรื่องถูกขัดจังหวะการเล่นโทรศัพท์ กับท่าทางรบเร้าของธนด้วยที่ทำให้ก๊อบยอมเดินตามออกไป
ใต้ร่มไม้ติดรั้วลวดหนามนั้น เภียกำลังตักน้ำจากสระให้วัวเมื่อก๊อบไปถึง เภียมุดเข้ามาตักน้ำ แล้วก็มุดเอาออกไปให้วัว ธนไม่ได้มาเล่นน้ำ เขาเดินมุดลวดหนามไปในนา ก๊อบมุดตามออกไป เภียจูงวัวที่กินน้ำเสร็จแล้วออกไปมัดไว้ในร่ม ขณะที่ธนแก้มัดวัวที่เหลือต้อนเข้ามา วัวแต่ละตัวเดินมาที่สระ ก๊อบเดินตามกลับมาอีก
ลูกวัวตัวนั้นกำลังกินน้ำ อยู่ ๆ ธนก็เข้าไปถีบสุดแรงจนมันเซออกไป ฅนถีบหัวเราะชอบอกชอบใจ ธนชอบรังแกสัตว์ ก๊อบคิดแบบนั้นได้ไม่ทันไร เขาก็ได้เห็นเด็กขี้แกล้งถูกลูกวัวทุ่มตัวเข้าใส่ ดีที่เขาหลบมันได้อย่างหวุดหวิด ธนหัวเราะร่วนเสียงดังออกมา ก่อนหันไปถีบมันอีก ลูกวัวโจนออกไป แล้วกลับตัวพุ่งเข้ามาใหม่ เมื่อพลาดเป้าก็เบียดสะโพกเข้าหา ถูตัวกับเด็กชายซึ่งพยายามถีบมันออกไปอีกครั้ง
ธนเล่นกับลูกวัวเหมือนมันเป็นสุนัขอย่างไรอย่างนั้นเลย ก๊อบอดหัวเราะขำออกมาไม่ได้ มันดูน่าสนุก แต่เขาไม่กล้าเข้าไปเล่นด้วยแน่ เพราะถึงจะเป็นแค่ลูกวัวตัวเล็ก ๆ แต่มันก็ยังโตกว่าสุนัขตัวโต ๆ อยู่ดี
กว่าเภียจะจูงวัวไปล่ามไว้กับโคนไม้ธนก็มีเหงื่อท่วมตัว แต่เขามีวิธีแก้ร้อน ถอดเสื้อผ้าออกโดดลงไปลอยคอในสระก็ชื่นใจแล้ว เมื่อเด็กสี่ห้าฅนปั่นจักรยานเข้ามาเห็นธนลอยคออยู่ ต่างฅนจึงรีบถอดเสื้อผ้าส่งเสียงเฮฮาโดดลงน้ำตามกัน โดดเสร็จก็ปีนขึ้นมาโดดลงไปใหม่ บางฅนตีลังกา บ้างมีท่าทางแปลกมาเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ
แม้เมื่อวานก๊อบดูจะไม่สนใจการเล่นน้ำสักเท่าไร แต่เมื่อได้เห็นเหล่าเด็กที่ต่างลอยคอโดดน้ำสนุกเสียงดังกันวันนี้แล้ว ก๊อบก็อยากลองสนุกบ้างเหมือนกัน แต่เขาคงไม่กล้าแก้ผ้าเล่นน้ำแบบเด็กพวกนี้แน่ ก๊อบจึงแค่ถอดเสื้อกับกางเกงตัวนอกออก ก่อนก้าวไปที่ขอบสระ แล้วค่อยหย่อนตัวลงไป เสียงทักทายแสดงความสนิทสนมจากเด็กบางฅนช่วยให้ก๊อบคลายอาการประหม่าได้มากทีเดียว เด็กพวกนี้ดูจะคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าได้ไม่ยากกันทุกฅน นั่นทำให้ก๊อบเข้ากับทุกฅนได้ไม่ยากเช่นกัน
เด็กฅนหนึ่งขึ้นไปยืนบนหลังเพื่อน แล้วดีดตัวลอยขึ้นไป หล่นลงมาเสียงดังน้ำแตกกระจาย ก๊อบไม่เคยรู้จักการเล่นที่เรียกว่า ดีดกุ้ง แบบนี้มาก่อน ตอนนี้เด็ก ๆ เลิกสนใจการโดดน้ำและหันมาดีดกุ้งกันแล้ว
ธนทำท่าบอกให้ก๊อบขึ้นไปยืนบนไหล่ แม้จะลังเลบ้างแต่เขาก็อยากลองดูเหมือนกัน ธนย่อต่ำแล้วพุ่งตัวขึ้นไป ก๊อบรีบดีด ช้าไปหน่อย แต่ไม่ว่าอย่างไรท่าตกน้ำของเขาก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน
ก๊อบเรียนรู้การดีดกุ้งได้ภายในเวลาไม่นานนัก ตอนนี้เขาสนุกกับการขึ้นไปยืนบนไหล่เพื่อนแล้วดีดตัวตกลงมา สนุกกับการได้ส่งเสียงหัวเราะเฮฮาไปกับเพื่อน ๆ หลายฅน แม้ว่าจะยังคงฟังภาษาโประเประไม่ออก แต่มันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว ปัญหาจะมีแค่ชื่อของแต่ละฅนที่ล้วนฟังยากจำยากสักหน่อย ก๊อบจำได้เพียงหน้าตาเท่านั้น ทั้งเด็กตัวเล็กท่าทางคล่องแคล่วฅนนั้น หรือเด็กตัวดำผอมสูงที่ชอบหัวเราะเฮฮานั่นด้วย
และไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ก๊อบสามารถสนุกกับทุกฅนได้ แม้จะพูดกันฅนละภาษาก็ตามที.
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ภาพ : หน้าตลาดสะเดาในปัจจุบัน
ก๊อบ (ตอนที่๗ ข้าวต้มญวน)
โดย : ละเว้
(ตอนที่๗ ข้าวต้มญวน)
ในที่สุดลุงก็พาหลานมาถึงร้านข้าวต้มที่อยู่อีกฝั่งของตลาดจนได้ ข้าวต้มญวนเป็นข้าวต้มที่ใส่เครื่องในและเนื้อหมูหรือไก่ ใส่ถั่วงอก มีเครื่องปรุงพริกป่นแบบข้าวต้มเครื่องของไทย บางทีก็มีใส่อย่างอื่นด้วยเช่นเส้นหมี่หรือก๊วยเตี๋ยว บางฅนกินกับปาท่องโก๋ ซึ่งปาท่องโก๋ของที่นี่จะมีขนาดใหญ่โตจนก๊อบอดแปลกใจไม่ได้เช่นกัน
“อันนี้เขาเรียกข้าวต้มญวนใช่ไหมครับ” เด็กชายชี้ไปที่ชามข้าวต้ม ลุงหันมองพลางพยักหน้า
“แล้วก็คงไม่มีขายที่เวียดนาม” ลุงหัวเราะชอบใจกับคำพูดของหลานชาย
“เออ ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะเหมือนกับของเราล่ะมัง ขนมจีน ลอดช่องสิงคโปร์ แต่ฅนจีนฅนสิงคโปร์ไม่รู้จัก” แล้วลุงก็หัวเราะขึ้นมาอีก ก๊อบรู้สึกดีที่ทำให้ลุงหัวเราะได้
“เมื่อคืนหนูยังได้ยินลุงเธียเรียกตัวเองว่าเขมรเลย” ก๊อบถาม ลุงหันมองพลางจ้องหน้าหลาน
“เพราะลุงเธียเขาเข้าใจนะสิ” ลุงพยายามอธิบาย “ลุงเธียเข้าใจและยอมรับได้ว่า ฅนไทยบางฅนที่เรียกเขาว่าเขมรนั้น มาจากความเคยชินไม่ใช่ดูถูก แต่ก็ไม่ใช่ทุกฅนที่เรียกแบบนั้นโดยไม่คิดดูถูก และก็ไม่ใช่ว่าฅนที่นี่ทุกฅนจะยอมรับคำว่าเขมรที่เราเรียกเขาได้เช่นกัน ลุงจึงอยากให้หัดเรียกเขาว่าขแมร์ให้เคยชินอย่างไรล่ะ”
ก๊อบรู้สึกว่าเขาถามนิดเดียวเองลุงตอบเสียยาวเลย ซึ่งเด็กชายก็ได้แต่ทำท่าเข้าใจ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ได้สนใจสักเท่าไรหรอก
หลังออกจากร้านข้าวต้มลุงก็พาเดินเบียดผู้ฅนในตลาดอีกแล้ว คราวนี้แกพาก๊อบเดินออกมาถึงหน้าตลาดเลย
“ไปไหนอีกลุง” ก๊อบถาม เขาเบื่อการเดินตามลุงเต็มทีแล้ว
“แลกเงิน เอาเงินไทยไปแลกเงินขแมร์ แล้วก็หาซื้อซิมการ์ดด้วยไง เอ็งจะได้เข้าเฟซเล่นอะไรได้” ลุงตอบขณะเดินนำไป โธ่ลุง แล้วก็ไม่ยอมซื้อให้ตั้งแต่เมื่อวานนี้เลยนะ ก๊อบอดค่อนขอดในใจไม่ได้
แม่ยายของลุงเธียกำลังทำงานง่วนอยู่ในครัวเมื่อสองลุงหลานกลับมาถึงบ้าน ขณะที่ฅนอื่น ๆ ไม่มีใครอยู่เลย ก๊อบไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าการรีบเอาโทรศัพท์มาให้ลุงใส่ซิมเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่นานก็จมดิ่งอยู่ในสังคมออนไลน์ ได้โม้ให้เพื่อนฟังจนลืมเรื่องคิดถึงบ้านไปชั่วคราว
เกือบครึ่งวันลุงเธียจึงขับรถไถแบบเดินตามติดพ่วงท้าย พาลูกชายสามฅนกลับถึงบ้าน มีทะลายมะพร้าวอ่อนกองมาเต็มพ่วง
ก๊อบยังสนใจหน้าจอของเขา ขณะทุกฅนช่วยกันยกมะพร้าวเข้ามาในใต้ถุน
มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งบรรทุกละมุดเต็มตะกร้าวิ่งเข้ามาจอด ลุงเธียส่งเสียงทักทาย ธนยกกิโลชั่งน้ำหนักซึ่งวางอยู่ใต้เตียงที่ก๊อบนอนออกไป สองพี่น้องเภียกับธี ช่วยกันยกตะกร้าละมุดขึ้นชั่ง ชาวบ้านพวกนี้คงเอาละมุดมาขายให้ลุงเธีย ก๊อบคิดในใจขณะยังคงเขี่ยหน้าจอ
สี่พ่อลูกเสร็จงานเมื่อถึงเวลาอาหารมื้อแรกของพวกเขา และมื้อกลางวันของสองลุงหลานจากเมืองไทย
ก๊อบยังคงนอนเล่นโทรศัพท์ต่อหลังกินข้าวเสร็จ ขณะที่ลุงรวบรวมผ้าที่ใส่มาตอนเดินทางเอาไปซัก
“ไปบ้านยายกัน” ลุงเอ่ยชวนเมื่อซักผ้าตากเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ไปหรอก” ก๊อบรีบตอบพลางส่ายหน้า ความรู้สึกแรกที่เจอกันทำให้เขาไม่อยากเจอหน้ายายเลย ลุงจึงต้องเดินออกไปฅนเดียว
จันเธือนเข้ามาเงียบ ๆ ปีนขึ้นไปบนเตียงที่ก๊อบนอนอยู่ เด็กหญิงตัวเล็กฅนนี้น่าจะอายุไม่เกินหกขวบ ก๊อบคิดว่าประมาณนั้น เธอเพิ่งกลับจากการไปวิ่งเล่นกับเพื่อน เด็กน้อยสนใจโทรศัพท์ในมือของก๊อบจึงปีนขึ้นมานั่งดู ไม่ได้รู้หรอกว่าก๊อบนึกรำคาญแล้ว ทำหน้าดุหันมองยังไม่รับรู้ กลับยิ้มประจบเสียอย่างนั้นอีก
“ดูอะไร” ก๊อบทำเสียงดุใส่ เด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะชอบใจ ขำภาษาที่ฟังไม่ออก ก๊อบทำตัวแข็งได้สักพักจึงเก็บโทรศัพท์ มานั่งห้อยขาหน้านิ่งอยู่ปลายเตียง
ธนส่งยิ้มมาแต่ไกลขณะเดินเข้ามาในใต้ถุน
“ไปไหน” ก๊อบถามเมื่อเห็นท่าทางพยักพเยิด
“เล่นน้ำอีกเหรอ” ท่าทางบุ้ยใบ้ไปทางสระทำให้ก๊อบพอเดาความหมายได้ น้ำขุ่นคลั่กขนาดนั้นเล่นกันไปได้อย่างไรทุกวัน ก๊อบคิดในใจ แต่ความที่ยังขัดใจเรื่องถูกขัดจังหวะการเล่นโทรศัพท์ กับท่าทางรบเร้าของธนด้วยที่ทำให้ก๊อบยอมเดินตามออกไป
ใต้ร่มไม้ติดรั้วลวดหนามนั้น เภียกำลังตักน้ำจากสระให้วัวเมื่อก๊อบไปถึง เภียมุดเข้ามาตักน้ำ แล้วก็มุดเอาออกไปให้วัว ธนไม่ได้มาเล่นน้ำ เขาเดินมุดลวดหนามไปในนา ก๊อบมุดตามออกไป เภียจูงวัวที่กินน้ำเสร็จแล้วออกไปมัดไว้ในร่ม ขณะที่ธนแก้มัดวัวที่เหลือต้อนเข้ามา วัวแต่ละตัวเดินมาที่สระ ก๊อบเดินตามกลับมาอีก
ลูกวัวตัวนั้นกำลังกินน้ำ อยู่ ๆ ธนก็เข้าไปถีบสุดแรงจนมันเซออกไป ฅนถีบหัวเราะชอบอกชอบใจ ธนชอบรังแกสัตว์ ก๊อบคิดแบบนั้นได้ไม่ทันไร เขาก็ได้เห็นเด็กขี้แกล้งถูกลูกวัวทุ่มตัวเข้าใส่ ดีที่เขาหลบมันได้อย่างหวุดหวิด ธนหัวเราะร่วนเสียงดังออกมา ก่อนหันไปถีบมันอีก ลูกวัวโจนออกไป แล้วกลับตัวพุ่งเข้ามาใหม่ เมื่อพลาดเป้าก็เบียดสะโพกเข้าหา ถูตัวกับเด็กชายซึ่งพยายามถีบมันออกไปอีกครั้ง
ธนเล่นกับลูกวัวเหมือนมันเป็นสุนัขอย่างไรอย่างนั้นเลย ก๊อบอดหัวเราะขำออกมาไม่ได้ มันดูน่าสนุก แต่เขาไม่กล้าเข้าไปเล่นด้วยแน่ เพราะถึงจะเป็นแค่ลูกวัวตัวเล็ก ๆ แต่มันก็ยังโตกว่าสุนัขตัวโต ๆ อยู่ดี
กว่าเภียจะจูงวัวไปล่ามไว้กับโคนไม้ธนก็มีเหงื่อท่วมตัว แต่เขามีวิธีแก้ร้อน ถอดเสื้อผ้าออกโดดลงไปลอยคอในสระก็ชื่นใจแล้ว เมื่อเด็กสี่ห้าฅนปั่นจักรยานเข้ามาเห็นธนลอยคออยู่ ต่างฅนจึงรีบถอดเสื้อผ้าส่งเสียงเฮฮาโดดลงน้ำตามกัน โดดเสร็จก็ปีนขึ้นมาโดดลงไปใหม่ บางฅนตีลังกา บ้างมีท่าทางแปลกมาเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ
แม้เมื่อวานก๊อบดูจะไม่สนใจการเล่นน้ำสักเท่าไร แต่เมื่อได้เห็นเหล่าเด็กที่ต่างลอยคอโดดน้ำสนุกเสียงดังกันวันนี้แล้ว ก๊อบก็อยากลองสนุกบ้างเหมือนกัน แต่เขาคงไม่กล้าแก้ผ้าเล่นน้ำแบบเด็กพวกนี้แน่ ก๊อบจึงแค่ถอดเสื้อกับกางเกงตัวนอกออก ก่อนก้าวไปที่ขอบสระ แล้วค่อยหย่อนตัวลงไป เสียงทักทายแสดงความสนิทสนมจากเด็กบางฅนช่วยให้ก๊อบคลายอาการประหม่าได้มากทีเดียว เด็กพวกนี้ดูจะคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าได้ไม่ยากกันทุกฅน นั่นทำให้ก๊อบเข้ากับทุกฅนได้ไม่ยากเช่นกัน
เด็กฅนหนึ่งขึ้นไปยืนบนหลังเพื่อน แล้วดีดตัวลอยขึ้นไป หล่นลงมาเสียงดังน้ำแตกกระจาย ก๊อบไม่เคยรู้จักการเล่นที่เรียกว่า ดีดกุ้ง แบบนี้มาก่อน ตอนนี้เด็ก ๆ เลิกสนใจการโดดน้ำและหันมาดีดกุ้งกันแล้ว
ธนทำท่าบอกให้ก๊อบขึ้นไปยืนบนไหล่ แม้จะลังเลบ้างแต่เขาก็อยากลองดูเหมือนกัน ธนย่อต่ำแล้วพุ่งตัวขึ้นไป ก๊อบรีบดีด ช้าไปหน่อย แต่ไม่ว่าอย่างไรท่าตกน้ำของเขาก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน
ก๊อบเรียนรู้การดีดกุ้งได้ภายในเวลาไม่นานนัก ตอนนี้เขาสนุกกับการขึ้นไปยืนบนไหล่เพื่อนแล้วดีดตัวตกลงมา สนุกกับการได้ส่งเสียงหัวเราะเฮฮาไปกับเพื่อน ๆ หลายฅน แม้ว่าจะยังคงฟังภาษาโประเประไม่ออก แต่มันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว ปัญหาจะมีแค่ชื่อของแต่ละฅนที่ล้วนฟังยากจำยากสักหน่อย ก๊อบจำได้เพียงหน้าตาเท่านั้น ทั้งเด็กตัวเล็กท่าทางคล่องแคล่วฅนนั้น หรือเด็กตัวดำผอมสูงที่ชอบหัวเราะเฮฮานั่นด้วย
และไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ก๊อบสามารถสนุกกับทุกฅนได้ แม้จะพูดกันฅนละภาษาก็ตามที.
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ภาพ : หน้าตลาดสะเดาในปัจจุบัน