ถึงปัจจุบัน ปี 2567 คลอเรสเตอรอล โดยเฉพาะ LDL สูง ควรกินยา หรือไม่ ก็ ยังเป็นที่ถกเถียง กัน
จากผลงานวิจัย ที่ออกมา ทั้งฝ่ายสนับสนุนและ ไม่เห็นด้วย
ซึ่งจริง ๆ เรื่องพวกนี้ ในแนวทาง เวชปฏิบัติ การใช้ยารักษาภาวะไขมันผิดปกติเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด 2559
ก็จะมีอธิบายรายละเอียด
ผม พอสรุป สั้น ๆ ตามความเข้าใจของตัวเอง
วัตถุประสงค์ ของการ ลด LDL นั้น เพื่อ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือด ในอีก 7-10 ปี
ด้วยเหตุนี้ หมอบางท่านจึงไม่จ่ายยาให้ผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน 75 เว้นแต่ เคยกินมาก่อน แล้วไม่มีอาการข้างเคียงอะไร
เมื่อ LDL สุง จึงจำเป็นต้องดูแลรักษา การดูแลรักษา มีตั้งแต่ ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และ กินยา
คำว่าลดความเสี่ยง หมายถึง รักษาแล้ว ดูแลแล้ว ค่าปกติ ก็ยังมีโอกาส เกิดขึ้นได้
ความเสี่ยงที่ว่า นอกจาก LDL สูง แล้ว ค่า HDL ไตรกรีเซอร์ไร สูงหรือไม่ และ ยังมี อายุ น้ำหนัก ไต ตับ เบาหวาน ความดัน กรรมพันธุ์ สูบบุหรี่ อ้วน ไม่ออกกำลังกาย กินเหล้า และ อื่น ๆ
นั่น หมายความว่า ถึงคุณ ตรวจแล้ว ดูแลรักษาแล้ว ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย คุณก็ยังมีความเสี่ยง
เพียงแต่เสี่ยงน้อย แต่ถ้าคุณมีพวกนี้ อยู่ด้วย เสี่ยงมาก
เช่น การที่ LDL สูง แล้ว HDL สูง ไตรกรีต่ำ ถือว่า เสี่ยงน้อย
คนออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้ เพราะ เป็น กระบวนการ เผาผลาญ ปกติ ในร่างกาย
สำหรับคนออกกำลังกาย ถ้าปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ปกติ ถือว่าคุณ เสี่ยงน้อย
แต่ถ้าไม่ปกติ ก็อาจจะอยู่ในข่ายที่ควรกินยา
มันมีการทำแบบประเมินความเสี่ยง ทั้งของอเมริกา ของไทย
การพิจารณา รักษาว่าจะให้ยาหรือไม่ ให้ตัวไหน แค่ไหน ก็อยู่ที่ตรงนี้ด้วย
หมอทุกคน รู้เรื่องพวกนี้ อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ มักมีเวลา คุยกับคนไข้ 3-5 นาที
นอกจากค่าไขมันแล้ว ต้องพิจารณาค่าต่าง ๆ ที่อาจจะมีความสัมพันธ์ กัน ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ
ก่อนจะตัดสินใจ ว่าควรกินยา หรือ ไม่ เพราะอะไร
ผมสรุป แบบนี้ ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ
ถามคุณหมอ หรือ ผู้รู้ ครับ สรุป เกี่ยวกับภาวะไขมันในเลือด แบบนี้ได้หรือไม่
จากผลงานวิจัย ที่ออกมา ทั้งฝ่ายสนับสนุนและ ไม่เห็นด้วย
ซึ่งจริง ๆ เรื่องพวกนี้ ในแนวทาง เวชปฏิบัติ การใช้ยารักษาภาวะไขมันผิดปกติเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด 2559
ก็จะมีอธิบายรายละเอียด
ผม พอสรุป สั้น ๆ ตามความเข้าใจของตัวเอง
วัตถุประสงค์ ของการ ลด LDL นั้น เพื่อ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือด ในอีก 7-10 ปี
ด้วยเหตุนี้ หมอบางท่านจึงไม่จ่ายยาให้ผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน 75 เว้นแต่ เคยกินมาก่อน แล้วไม่มีอาการข้างเคียงอะไร
เมื่อ LDL สุง จึงจำเป็นต้องดูแลรักษา การดูแลรักษา มีตั้งแต่ ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และ กินยา
คำว่าลดความเสี่ยง หมายถึง รักษาแล้ว ดูแลแล้ว ค่าปกติ ก็ยังมีโอกาส เกิดขึ้นได้
ความเสี่ยงที่ว่า นอกจาก LDL สูง แล้ว ค่า HDL ไตรกรีเซอร์ไร สูงหรือไม่ และ ยังมี อายุ น้ำหนัก ไต ตับ เบาหวาน ความดัน กรรมพันธุ์ สูบบุหรี่ อ้วน ไม่ออกกำลังกาย กินเหล้า และ อื่น ๆ
นั่น หมายความว่า ถึงคุณ ตรวจแล้ว ดูแลรักษาแล้ว ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย คุณก็ยังมีความเสี่ยง
เพียงแต่เสี่ยงน้อย แต่ถ้าคุณมีพวกนี้ อยู่ด้วย เสี่ยงมาก
เช่น การที่ LDL สูง แล้ว HDL สูง ไตรกรีต่ำ ถือว่า เสี่ยงน้อย
คนออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้ เพราะ เป็น กระบวนการ เผาผลาญ ปกติ ในร่างกาย
สำหรับคนออกกำลังกาย ถ้าปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ปกติ ถือว่าคุณ เสี่ยงน้อย
แต่ถ้าไม่ปกติ ก็อาจจะอยู่ในข่ายที่ควรกินยา
มันมีการทำแบบประเมินความเสี่ยง ทั้งของอเมริกา ของไทย
การพิจารณา รักษาว่าจะให้ยาหรือไม่ ให้ตัวไหน แค่ไหน ก็อยู่ที่ตรงนี้ด้วย
หมอทุกคน รู้เรื่องพวกนี้ อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ มักมีเวลา คุยกับคนไข้ 3-5 นาที
นอกจากค่าไขมันแล้ว ต้องพิจารณาค่าต่าง ๆ ที่อาจจะมีความสัมพันธ์ กัน ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่าง ๆ
ก่อนจะตัดสินใจ ว่าควรกินยา หรือ ไม่ เพราะอะไร
ผมสรุป แบบนี้ ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ