ลูกน้องที่เก่ง แต่มีนิสัยไม่เอาใคร ทำอย่างไรดีครับ

ลูกน้องที่เก่ง แต่มีนิสัยไม่เอาใคร ทำอย่างไรดีครับ

เป็นงานสายplanningในโรงงานแห่งนึงซึ่งเป็นตัวtopลำดับต้นๆของนิคมแถวนี้
-ลูกน้องคนนี้มีทักษะเฉพาะตัวที่หาคนแทนยาก งานของน้องเป็นงานที่ต้องใช้ข้อมูลsupportจากแผนกต่างๆเพื่อที่ว่าต้องหาแผนรับมือยังไงในสถานการณ์ต่างๆ
-น้องไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ชอบมิตติ้ง จะส่งเมลขอข้อมูล หรือแจกtaskที่เกี่ยวกับการเกี่ยวข้อมูลให้คนอื่นอย่างเดียว
-จากข้อที่แล้ว คือ น้องจะไม่ได้มาแนวขอความร่วมมือ แต่จะบังคับ หากใครไม่ทำตามหรือทำไม่ถูก/ให้ข้อมูลผิด น้องจะcomplain ในweekly meetingที่มีผจกโรงงานนั่งฟังและรับรู้ ซึ่งมันได้ผลทุกครั้ง 
-ในบางสถานการณ์เช่นCOVID19 แม้จะไม่ใครมาให้ข้อมูลsupportทำให้วางแผนลำบาก แต่น้องก็คิดแผนออกมาเองได้ดี แถมผม(หัวหน้า) นอนป่วย2วีคน้องก็ทำหน้าที่แทนได้แบบไม่บกพร่อง
-น้องเคยลาออกไปเรียนต่ออังกฤษ1ปี ซึ่งระหว่างที่ตำแหน่งว่างนั้น บริษัทจ้างคนใหม่และทำงานไม่ไหว หรือไม่ผ่านโปร รวมทั้งสิ้น3คน จนน้องเรียนจบต้องตัดสินใจชวนกลับมาพร้อมเงินเดือน+30%จากเดิม
-น้องคนนี้มีการศึกษากลางๆ จบจากม.ต่างจังหวัดภาคเหนือ ภาษาอังกฤษดีมากTOEIC 900+ทั้งๆที่ก็ดูเหมือนว่าตอนเด็กๆก็ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอะไร เรียนโรงเรียนประจำอำเภอ น้องไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องที่บ้านแต่ฐานะเหมือนจะไม่แย่ รู้มาว่าครอบครัวเป็นข้าราชการครูทั้งตระกูล ขับรถญี่ปุ่น2ประตูแต่งJDMไม่รู้รุ่นอะไร แต่เก่าๆหน่อยและหายาก และเท่าที่สังเกตคือ หัวไว คิดอะไรเองเป็นโดยไม่ต้องสอนแม้จะเริ่มงานใหม่ ก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนสามารถทำงานและตัดสินใจได้ดีกว่าคนที่ทำมาเป็นปี แต่นิสัยขี้เกียจ มาสายวันละครึ่งชั่วโมง แต่ทำงานเสร็จเร็วจนนั่งว่างทุกวัน ทั้งๆที่คนก่อนหน้าทำจนดึก
-ปัญหาคือไม่มีใครอยากยุ่งกับน้องพร้อมcomplain ว่าน้องสนแต่ว่าให้งานตัวเองเสร็จ แม้จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน บางคนถึงขั้นลาออกเพราะน้องคนนี้
-ตัวน้องแย้งว่า สิ่งที่น้องให้ทำเพิ่ม มันเป็นสิ่งที่มีอยู่ใน policy ของแผนก และ ทุกคนควรจะทำอยู่แล้วถ้าเอาใจใส่งานของตัวเองจริงๆ  คนที่เดือดร้อนก็มักจะเป็นพวกทำงานแบบขี้เเกียจๆ ส่งๆไปวันๆแต่ไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไรหรือส่งผลอะไรต่อโรงงาน และคนแบบนั้นออกไปก็สามารถหาใคร
มาแทนก็ได้ น่าจะหาโอกาสนี้หาเด็กจบใหม่ไฟแรงทำงานคุ้มเงินเดือนดีกว่า (ซึ่งมันก็จริง)
-ปัญหาถัดมาคือมีคนที่สองลาออกเพราะน้องคนนี้ แล้วดันเป็นลูกรักของผู้จัดการฝ่ายคนนึง(อยู่มานาน แต่ก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไร) ซึ่งเขาเดือดมากและพยายามชงให้ไล่น้องคนนี้ออกเพราะทำตัวtoxic และดูเหมือนว่า HR managerจะเริ่มเห็นด้วย
-HRเรียกน้องไปปรับทัศนคติและให้ใบเตือน น้องตอบแบบเปรี้ยวและหัวหมอว่า "ผมไม่รับฟังครับ เพราะสิ่งที่ผมทำนั้นถูกต้องตามpolicyทุกอย่าง ซึ่งHRเองก็อยู่ใต้กฏนี้ ถ้าคิดตามหลักกฏหมาย ใบเตือนนี้มันคงไม่มีผลถ้ามันขัดกับกฏที่ใหญ่กว่า"
-ตอนนี้กลายเป็นว่ามี Manager 2คนแล้วที่ไม่ชอบทัศนคติของน้องที่แข็งข้อเกินไป และพยายามหาทางตัดโบนัสน้องด้วยเหตผลต่างๆ
-น้องบอกว่า อยากตัดโบนัสก็ลองดู เดี๋ยวเขาจะได้รู้ว่าถ้าผมไม่ใจดีกับHRแล้วจะเป็นยังไง (งานของน้องส่วนนึงคือการทำlean การapproveคำสั่งซื้อต่างๆ ต้องผ่านการverifyจากน้องก่อนว่ามีความจำเป็นจริง ซึ่งHRมีเรื่องที่สมควรให้ตัดทิ้งได้มากมาย)

ทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดีครับ
น้องงัดกับคนอื่นแบบไม่กลัวโดนไล่ออก ไม่รู้เพราะฐานะทางบ้านไม่เดือดร้อน หรือว่ามั่นใจในตัวเองมากไปรึเปล่า
ปกป้องน้อง ผมลำบาก
ให้น้องออก ผมก็ลำบากอีก
หรือถ้าผมออก(จริงๆก็หาแอบหางานบ้าง) มันก็แค่การหนีปัญหา ทั้งๆที่ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขจริงๆคือทุกคนควรเลิกขี้เกียจแล้วเลิกcomplainน้องที่ทำให้งานตัวเองเยอะขึ้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่