ฤดูหนาวของประเทศไทยผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว....เร็วจนไม่รู้สึกว่าหนาวเลย ใครที่รอคอยลมหนาวต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน ซึ่งฤดูหนาวปีนี้ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะหนาวน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนภาคกลางตอนบนและกรุงเทพมหานครแทบจะไม่มีโอกาสสัมผัสอากาศหนาวเลย และเหตุที่เป็นเช่นนี้คาดว่าเป็นเพราะปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" ซึ่งอากาศทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไปและจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยทั่วไปแล้ว เอลนีโญสามารถผลักดันให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นได้อีกราว 0.2 องศาเซลเซียส จึงนับว่ามีความเสี่ยงต่อการทำให้โลกร้อนขึ้นจนเกินขีดจำกัด ซึ่งนานาประเทศได้กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบันโลกร้อนขึ้นกว่าระดับมาตรฐานในอดีตอยู่แล้วถึง 1.2 องศาเซลเซียส
ดังนั้น มาตรการประหยัดพลังงานจึงถือเป็นหนึ่งแนวทางสำคัญในการลดปริมาณการใช้พลังงานในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 6 องศาเซลเซียส จะส่งผลถึงหน่วยความร้อนสูงขึ้น 14% ยิ่งใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เราจะเห็นได้ชัดจากค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นในช่วง เดือนเมษายน – พฤษภาคม ของทุกปี เพราะถือว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงอุณหภูมิสูงมาก มีการเปิดแอร์มากขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงไปด้วย
สำหรับการประหยัดพลังงานในหน้าร้อนง่าย ๆ คือ “ปรับ ล้าง ตั้ง ลด” คือ
“ปรับ” การแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น งดใส่สูท ผูกไทด์
“ล้าง” แผ่นกรองอากาศแอร์ทุก 1-2 เดือน และล้างทำความสะอาดใหญ่ทุก 6 เดือน
“ตั้ง” อุณหภูมิแอร์ที่ 26-27 องศาฯ และเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น
“ลด” ระยะเวลาการเปิดแอร์ลง 1 ชั่วโมงต่อวัน (เปิด 09.00 น. ปิด 16.00 น.) ซึ่งหากล้างแอร์ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 10% ประหยัดได้ 210 บาทต่อเดือน และปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีก 1 องศาฯ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 4.5% ประหยัดได้อีก 100 บาทต่อเดือน รวม 2 มาตรการนี้ จะลดค่าไฟฟ้าลงได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อเดือนต่อเครื่อง
นอกจากนั้น อย่าลืม เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์5 ติดดาว หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แทนผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าในบ้าน จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ และที่สำคัญต้องเปิดใช้เมื่อจำเป็น หากไม่ใช้แล้วอย่าลืมถอดปลั๊ก
การประหยัดพลังงานนั้น นอกจากจะสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งในภาคครัวเรือนแล้ว ยังเป็นอีกแนวทางนึงที่จะทำให้ประเทศไทยมีพลังงานใช้อย่างยั่งยืน
เตรียมเปิดโหมดประหยัดพลังงานรับมือหน้าร้อนนี้
ดังนั้น มาตรการประหยัดพลังงานจึงถือเป็นหนึ่งแนวทางสำคัญในการลดปริมาณการใช้พลังงานในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 6 องศาเซลเซียส จะส่งผลถึงหน่วยความร้อนสูงขึ้น 14% ยิ่งใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เราจะเห็นได้ชัดจากค่าไฟฟ้าจะสูงขึ้นในช่วง เดือนเมษายน – พฤษภาคม ของทุกปี เพราะถือว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงอุณหภูมิสูงมาก มีการเปิดแอร์มากขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงไปด้วย
สำหรับการประหยัดพลังงานในหน้าร้อนง่าย ๆ คือ “ปรับ ล้าง ตั้ง ลด” คือ
“ปรับ” การแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น งดใส่สูท ผูกไทด์
“ล้าง” แผ่นกรองอากาศแอร์ทุก 1-2 เดือน และล้างทำความสะอาดใหญ่ทุก 6 เดือน
“ตั้ง” อุณหภูมิแอร์ที่ 26-27 องศาฯ และเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น
“ลด” ระยะเวลาการเปิดแอร์ลง 1 ชั่วโมงต่อวัน (เปิด 09.00 น. ปิด 16.00 น.) ซึ่งหากล้างแอร์ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 10% ประหยัดได้ 210 บาทต่อเดือน และปรับเพิ่มอุณหภูมิขึ้นอีก 1 องศาฯ จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 4.5% ประหยัดได้อีก 100 บาทต่อเดือน รวม 2 มาตรการนี้ จะลดค่าไฟฟ้าลงได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อเดือนต่อเครื่อง
นอกจากนั้น อย่าลืม เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์5 ติดดาว หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แทนผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าในบ้าน จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ และที่สำคัญต้องเปิดใช้เมื่อจำเป็น หากไม่ใช้แล้วอย่าลืมถอดปลั๊ก
การประหยัดพลังงานนั้น นอกจากจะสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งในภาคครัวเรือนแล้ว ยังเป็นอีกแนวทางนึงที่จะทำให้ประเทศไทยมีพลังงานใช้อย่างยั่งยืน