อาหารไม่ย่อยและท้องอืด ถือเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถสร้างความรู้สึกไม่สบายกายต่อผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะเหล่านี้อยู่เป็นอย่างมาก บางรายอาจแค่รู้สึกอึดอัด ในขณะที่บางรายอาจมีอาการปวดท้องรุนแรงกระทั่งทำให้นอนไม่หลับ และไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ วันนี้เราจึงจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสาเหตุ อาการ รวมถึงวิธีป้องกันของอาการเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
อาหารไม่ย่อยและท้องอืด เกิดจากอะไร?
สำหรับสาเหตุของอาหารไม่ย่อยและท้องอืดนั้น มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และมีสาเหตุหลักๆ ดังต่อนี้
1. พฤติกรรมการกิน เช่น การรับประทานอาหารเร็วเกินไป เคี้ยวไม่ละเอียด รับประทานอาหารมากเกินไป รับประทานอาหารมันๆ เผ็ดจัด ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลมมากเกินไป
2. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาสเตียรอยด์ ยาต้านการอักเสบ
3.โรคหรือภาวะอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ โรคกรดไหลย้อน โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ ภาวะเครียด ภาวะวิตกกังวล
อาการของอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
อาการของอาหารไม่ย่อยและท้องอืด แตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แต่โดยทั่วไปอาการที่พบบ่อย มักมีดังนี้
1. แน่นท้อง จุกเสียด ปวดท้อง
2. ท้องอืด ท้องเฟ้อ
3. คลื่นไส้ อาเจียน
4. เบื่ออาหาร ไม่อยากอาหาร
5.รู้สึกแสบร้อนกลางอก
6. มีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร
7. น้ำหนักลด
วิธีการรักษาอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
สำหรับวิธีการรักษาอาหารไม่ย่อยและท้องอืด ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ซึ่งโดยทั่วไปการรักษาสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- การรักษาด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน
ดดยวีนี้เป็นวิธีรักษาที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
เช่น รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เป็นต้น
หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินแล้ว อาการอาหารไม่ย่อยและท้องอืดยังไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาใช้ยาช่วย
- การรักษาด้วยยา
แพทย์อาจพิจารณาให้ยารักษาตามสาเหตุของอาการ เช่น การใช้ยาลดกรด ยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาลดกรด เป็นต้น
วิธีการป้องกันอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
การป้องกันอาหารไม่ย่อยและท้องอืดสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้เป็นเวลา
2. ไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
3. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
5. งดดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม
6. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
8. ทำจิตใจให้แจ่มใส ปราศจากความเครียด
หากมีอาการอาหารไม่ย่อยและท้องอืดบ่อยๆ หรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tnnthailand.com/news/health/160559/
"อาหารไม่ย่อย-ท้องอืด" เกิดจากอะไร? เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกัน
อาหารไม่ย่อยและท้องอืด เกิดจากอะไร?
สำหรับสาเหตุของอาหารไม่ย่อยและท้องอืดนั้น มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และมีสาเหตุหลักๆ ดังต่อนี้
1. พฤติกรรมการกิน เช่น การรับประทานอาหารเร็วเกินไป เคี้ยวไม่ละเอียด รับประทานอาหารมากเกินไป รับประทานอาหารมันๆ เผ็ดจัด ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลมมากเกินไป
2. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาสเตียรอยด์ ยาต้านการอักเสบ
3.โรคหรือภาวะอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ โรคกรดไหลย้อน โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ ภาวะเครียด ภาวะวิตกกังวล
อาการของอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
อาการของอาหารไม่ย่อยและท้องอืด แตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แต่โดยทั่วไปอาการที่พบบ่อย มักมีดังนี้
1. แน่นท้อง จุกเสียด ปวดท้อง
2. ท้องอืด ท้องเฟ้อ
3. คลื่นไส้ อาเจียน
4. เบื่ออาหาร ไม่อยากอาหาร
5.รู้สึกแสบร้อนกลางอก
6. มีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร
7. น้ำหนักลด
วิธีการรักษาอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
สำหรับวิธีการรักษาอาหารไม่ย่อยและท้องอืด ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ซึ่งโดยทั่วไปการรักษาสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- การรักษาด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน
ดดยวีนี้เป็นวิธีรักษาที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
เช่น รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เป็นต้น
หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินแล้ว อาการอาหารไม่ย่อยและท้องอืดยังไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาใช้ยาช่วย
- การรักษาด้วยยา
แพทย์อาจพิจารณาให้ยารักษาตามสาเหตุของอาการ เช่น การใช้ยาลดกรด ยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาลดกรด เป็นต้น
วิธีการป้องกันอาหารไม่ย่อยและท้องอืด
การป้องกันอาหารไม่ย่อยและท้องอืดสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. รับประทานอาหารให้เป็นเวลา
2. ไม่ควรรับประทานอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
3. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
5. งดดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม
6. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
8. ทำจิตใจให้แจ่มใส ปราศจากความเครียด
หากมีอาการอาหารไม่ย่อยและท้องอืดบ่อยๆ หรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/health/160559/