ผมไม่ปฏิเสธว่ากล้วยสามารถบรรเทาเยียวยาโรคกรดไหลย้อนได้จริง แต่ทุกอย่างย่อมมีจุดบอดในตัวมันเองเสมอ กล้วยก็มีจุดบอดในการใช้รักษากรดไหลย้อนเช่นกัน โดยเราจะพูดเกี่ยวกับการรับประทานกล้วยสุกและผงกล้วยชงน้ำทั้ง 2 กรณี
ติดตามต่อได้ที่
https://www.facebook.com/thai.traditional.next.gen/
1. กล้วยสุก พอพูดว่ากล้วยสุกสามารถรักษากรดไหลย้อนได้ หลายท่านอาจบอกว่ามันไม่เห็นจะอันตรายตรงไหนเลย มันจะมีจุดบอดได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรมันก็มีจุดบอดครับ ถึงแม้กล้วยสุกจะสามารถบรรเทากรดไหลย้อนได้ อาศัยความหวานจากกล้วยไปป้องกันลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหารไม่ให้โดนกรดกัด
แต่จุดบอดของมันก็อยู่ที่ลักษณะของการรับประทานเป็นอาหารหยาบที่ต้องเคี้ยวและกลืนลงกระเพาะนี้แหละ เพราะถ้ากินมากเกินไป ผมกล้าฟันธงได้ว่าท้องท่านจะอืด บางคนเกิดลมตีจุก
โดยปรกติหากต้องการป้องกันกรดไม่ให้ตีขึ้นมาทำร้ายลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหาร ต้องกินอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง การป้องกันกรดที่จะส่งผลต่อลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหารจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นปริมาณกล้วยที่รับประทานต่อครั้งมันต้องน้อยมาก เอาเข้าจริงไม่เกินครึ่งลูกด้วซ้ำ ซึ่งถ้าใครกินกล้วยครั้งละ 1 ลูกเพื่อรักษากรดไหลย้อนแล้วกินวันละ 3 - 4 ลูก มีโอกาศที่ท้องจะอืดสูง
2. กล้วยผงชงน้ำ การรับประทานกล้วยผงชงน้ำ สามารถบรรเทาเยียวยากรดไหลย้อนได้อีกเช่นกัน แต่ปริมาณการดื่มต่อครั้ง อย่าให้เกิน 15-30 CC เพราะเราต้องการเพิ่มเกราะกำบังให้ลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหาร ไม่ใช่จะไปรักษาอาการท้องเสียหรือโรคกระเพาะอาหาร และกล้วยผงชงน้ำย่อมไม่เหมือนกล้วยสุกแน่นอน
บางท่านสงสัยว่าจะไม่เหมือนกันได้อย่างไร ก็กล้วยเหมือนกัน ผมแนะนำให้ท่านดูพันธะเคมีหลังการเปลี่ยนรูป กล้วยผงผงมีความฝาดมากกว่ากล้วยสุก หากท่านดื่มมากเกินไป ถ้าไม่ท้องอืดก็ท้องผูก
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไท่ว่าท่านจะได้ยาดีมาจากไหน แต่ท่านไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคนี้จะไม่มีทางหาย เพราะกรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงส่วนน้อยที่เกิดความผิดปรกติของอวัยวะภายในส่วนอื่นแล้วส่งผลมาให้เป็นกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนกับการใช้กล้วยรักษาที่ไม่กล้วยเลย
ติดตามต่อได้ที่ https://www.facebook.com/thai.traditional.next.gen/
1. กล้วยสุก พอพูดว่ากล้วยสุกสามารถรักษากรดไหลย้อนได้ หลายท่านอาจบอกว่ามันไม่เห็นจะอันตรายตรงไหนเลย มันจะมีจุดบอดได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรมันก็มีจุดบอดครับ ถึงแม้กล้วยสุกจะสามารถบรรเทากรดไหลย้อนได้ อาศัยความหวานจากกล้วยไปป้องกันลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหารไม่ให้โดนกรดกัด
แต่จุดบอดของมันก็อยู่ที่ลักษณะของการรับประทานเป็นอาหารหยาบที่ต้องเคี้ยวและกลืนลงกระเพาะนี้แหละ เพราะถ้ากินมากเกินไป ผมกล้าฟันธงได้ว่าท้องท่านจะอืด บางคนเกิดลมตีจุก
โดยปรกติหากต้องการป้องกันกรดไม่ให้ตีขึ้นมาทำร้ายลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหาร ต้องกินอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง การป้องกันกรดที่จะส่งผลต่อลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหารจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นปริมาณกล้วยที่รับประทานต่อครั้งมันต้องน้อยมาก เอาเข้าจริงไม่เกินครึ่งลูกด้วซ้ำ ซึ่งถ้าใครกินกล้วยครั้งละ 1 ลูกเพื่อรักษากรดไหลย้อนแล้วกินวันละ 3 - 4 ลูก มีโอกาศที่ท้องจะอืดสูง
2. กล้วยผงชงน้ำ การรับประทานกล้วยผงชงน้ำ สามารถบรรเทาเยียวยากรดไหลย้อนได้อีกเช่นกัน แต่ปริมาณการดื่มต่อครั้ง อย่าให้เกิน 15-30 CC เพราะเราต้องการเพิ่มเกราะกำบังให้ลิ้นเปิดปิดกระเพาะอาหาร ไม่ใช่จะไปรักษาอาการท้องเสียหรือโรคกระเพาะอาหาร และกล้วยผงชงน้ำย่อมไม่เหมือนกล้วยสุกแน่นอน
บางท่านสงสัยว่าจะไม่เหมือนกันได้อย่างไร ก็กล้วยเหมือนกัน ผมแนะนำให้ท่านดูพันธะเคมีหลังการเปลี่ยนรูป กล้วยผงผงมีความฝาดมากกว่ากล้วยสุก หากท่านดื่มมากเกินไป ถ้าไม่ท้องอืดก็ท้องผูก
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ไท่ว่าท่านจะได้ยาดีมาจากไหน แต่ท่านไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โรคนี้จะไม่มีทางหาย เพราะกรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงส่วนน้อยที่เกิดความผิดปรกติของอวัยวะภายในส่วนอื่นแล้วส่งผลมาให้เป็นกรดไหลย้อน