‘หนุ่มเมืองจันท์’ โต้แบงก์ชาติเปรียบตัวเองเป็น “ผู้รักษาประตู” ชี้หน้าที่ไม่ได้มีแค่ป้องกัน เกมรุกสำคัญต้องเล่นด้วย
https://ch3plus.com/news/political/morning/382942
‘หนุ่มเมืองจันท์’ ชี้ผู้รักษาประตู ต้องไม่มองแต่ลูกบอลบนฟ้า ต้องทำความเข้าใจกับผืนหญ้า และพื้นดิน หลังแบงค์ชาติเปรียบตัวเองเป็นผู้รักษาประตู
วานนี้ (16 ม.ค.67 ) นาย
สรกล อดุลยานนท์ หรือ คอลัมน์นิสต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "หนุ่มเมืองจันท์" โพสต์ข้อความระบุว่า
คุยแบบคนชอบดูฟุตบอลนะครับ เมื่อวานฟังผู้บริหารแบงก์ชาติเปรียบตัวเองเป็น “ผู้รักษาประตู” มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็น “กองหน้า” กระตุ้นเศรษฐกิจ
ฟังแล้วรู้เลยว่าว่าท่านไม่เข้าใจเกมฟุตบอลสมัยใหม่ เพราะฟุตบอลยุคนี้ “ผู้รักษาประตู”จะไม่ได้มีหน้าที่ป้องกันประตูเก่งเพียงอย่างเดียว เขาจะขึ้นสูงตอนทีมกำลังบุก ทำตัวเป็นกองหลังคนสุดท้าย
ผู้รักษาประตูไม่ต้องขึ้นไปเป็นกองหน้าเพื่อยิงประตูเอง แต่ฟุตบอลยุคใหม่ไม่ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สเปอร์ ฯลฯ
จุดเริ่มต้นของ “เกมรุก” จะมาจาก“ผู้รักษาประตู” ค่อยๆต่อบอลขึ้นไปจากแดนหลัง ผู้รักษาประตูยุคนี้จึงต้องเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ไม่มองแต่ลูกบอลบนฟ้า ต้องก้มหน้ามองดิน มองลูกฟุตบอล ทำความเข้าใจกับผืนหญ้า และเข้าใจพื้นดิน #อลิสซอนเบ็กเกอร์#เอแดร์สัน
ไม่ใช่ “โอนาน่า” 555
https://www.facebook.com/boycitychanFC/posts/pfbid02j2CkzPgPqvE9QdcPZZ1K9tcqecQbcybZ7SRtLMq9j3hXsV2tR5skfUMb2YruSEvSl
อนุสรณ์ ก้าวไกล เตรียมเข้าพบ ตร. เหตุคนสนิทรุมทำร้ายทีมงาน ส.ส.ปัญญารัตน์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4379292
อนุสรณ์ ก้าวไกล เตรียมพบ ตร. 10 โมง เหตุคนสนิทรุมทำร้ายทีมงาน ส.ส.ปัญญารัตน์
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นาย
อนุสรณ์ แก้ววิเชียร หรือ ทนายเอ๊ะ ส.ส.นนทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์ที่ นาย
ปริญญา หรือ ตู่ ประธานชุมชนในพื้นที่ ต.บางกรวย พร้อมพวก ร่วมกันรุมทำร้าย นาย
กิตติภัทร หรือ
เบน อายุ 44 ปี ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว นางปั
ญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ส.ส.นนทบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
มีรายงานว่า ปมเหตุความขัดแย้งมาจากการที่ “
เบน” ผู้บาดเจ็บ เคยยื่นเรื่องร้องจริยธรรมไปที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เกี่ยวกับนาย
อนุสรณ์ ส.ส.เขต 3 ประมาณเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งกรณีนี้ นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ผู้บาดเจ็บเคยมายื่นเรื่องกับ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าใจว่าตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เบื้องต้นไม่ทราบรายละเอียด แต่หากตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คงเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะ
ล่าสุด คืนวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา นายอนุสรณ์เปิดเผยทางเพจเฟซบุ๊ก
อนุสรณ์ แก้ววิเชียร – Anusorn Kaewwichain ว่า ผมเพิ่งกลับจากประชุมกรรมาธิการที่จังหวัดตากวันนี้ พรุ่งนี้ 10 โมง ผมจะไปให้การเป็นพยานที่ สภ.บางกรวย ครับ
https://www.facebook.com/AnusornOfficial/posts/pfbid029CgSSGtKQ1K7HSXU8kcheEkCzw6HvdA3Bsegx7auT1NE5N1QFw3J6ZLpgU54DjQMl
กกต.ฟันอาญา-ตัดสิทธิ์ ‘เกศกานดา’ ผู้สมัครสส.กทม. ปชป. ซื้อเสียงแลกคะแนน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8054980
กกต.แจก ใบดำ-ใบแดง ‘เกศกานดา อินช่วย’ ผู้สมัครสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เหตุซื้อเสียงแลกคะแนนเพิ่ม สั่งดำเนินคดีอาญาพร้อมพวก
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.ที่มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมดำเนินคดีอาญา น.ส.
เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครสส.กทม.เขต 16 พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี
โดยเป็นกรณี กกต.ได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งสส. วันที่ 2 พ.ค.66 เวลากลางวัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า นาย
สถาพร ไกรถวิล ผู้ถูกร้องที่ 2ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของน.ส.
เกศกานดา ผู้ถูกร้องที่ 1 โทรศัพท์ติดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวนัดหมายให้น.ส.
เกศกานดา มาพบกับที่บ้านพักของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในช่วงเวลาค่ำของวันเดียวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง
มีบทสนทนาตอนหนึ่ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวถามว่า “
เอาแบบเปล่าเลยเหรอ” และนาย
สถาพร ตอบว่า เอาแบบนั้นแหละ ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ต้องจด ทำอะไรก็ทำไปเลย ผมบอกน้องมันแล้ว บอกให้ไปเหอะ พวก ๆ กันทั้งนั้น ก็เดี๋ยว ช่วยสัก 40เสียง 30 เสียง ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าเราก็อยากให้ตังค์เอาไว้ใช้ ไม่เสียหายอะไรหรอก
บทสนทนาดังกล่าวมีลักษณะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการแจกเงินซื้อเสียงว่าจะต้องจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่
ต่อมาเวลา 18.10น. ของวันเดียวกัน นาย
สถาพร ไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวขอให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่น.ส.
เกศกานดา เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเป็นประธานหมู่บ้านวงศกร 5 และเป็นตัวแทนหรือหัวคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นในพื้นที่
จากนั้นเวลาประมาณ 18.30น. น.ส.
เกศกานดา นายฐนวัฒน์ ภูมี ผู้ถูกร้องที่ 3 และพยานผู้ถูกร้อง เดินทางมาถึงบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ในๆ ทำนองขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแบ่งคะแนนเสียงของหมู่บ้านวงศกร 5 ให้แก่น.ส.
เกศกานดา
บทสนทนาช่วงหนึ่ง น.ส.
เกศกานดา พูดว่า
เกศก็พอรู้ว่าพี่
สถาพรโทรมาคุยกับพี่เรื่อย ๆ วันนี้เลยอยากมาหาพี่
เกศอยากจะขอโอกาส เพราะว่าแนวโน้มที่โพลออกมา
เกศก็มีโอกาสแต่
เกศตามอยู่นิดหนึ่ง แต่ของคุณ
บอนคะแนน มันไม่ขึ้นเลย ไม่ติด 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 เลยด้วยซ้ำ
เกศเลยว่าในเมื่อ
เกศเป็นคนแพ้
เกศหาคะแนนเพิ่มอยู่แล้ว ดังนั้น
เกศอยากจะขอคะแนนที่ไปให้คุณบอน ขอถ่ายมาเป็นฝั่ง
เกศ เพราะว่า
เกศมีโอกาสมากกว่า ไม่อย่างนั้น ก็เสียของ
เกศก็ไม่อยากให้คะแนนมันหายไปเลย
เกศแพ้มาก่อน
เกศหาคะแนนเพิ่มอย่างเดียว เอาทุกวิถีทาง อย่างที่พี่โตบอก เอาทุกวิถีทาง
โดยคำว่าพี่
โต หมายถึงนาย
ฐนวัฒน์ และบอนหมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง คนหนึ่ง ซึ่งนาย
ฐนวัฒน์ พูดว่า “
ตอนนี้โพลติด 1 ใน 3 มี
เบอร์ 4 เบอร์ 14 เบอร์ 11 แต่เบอร์ 5 มีปละปลาย ไม่ติด 1 ใน 4 ถ้ามันพอพลิกเกมได้ก็อยากจะพลิก เพราะว่าพี่ดันทางพี่บอนใช่ไหมมันก็ไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะ เปอร์เซ็นต์มันไม่ขึ้นเลยนะ เผื่อว่าพี่มาช่วยเกศ” นาย
สถาพร พูดว่า “
ตามนิดเดียว วันนี้ซอย 2 ซอยพวกเย็บผ้า พนักงานแรงงาน ผมก็ใส่ไปแล้ว 20 คน ช่วยเหลือไปคนละ 500 ห้าร้อยมันถึงแฮปปี้ไง ถ้าได้มาสัก 200กว่า มันจะทำให้ตัวเลขมันขึ้น” ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา ตั้งแต่นาทีที่ 26.21
จากบทสนทนาดังกล่าว น่าเชื่อว่าผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งและการแจกเงินซื้อเสียง ประกอบกับจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นาทีที่ 1.42.30 ปรากฏภาพน.ส.
เกศกานดา นำธนบัตรจำนวนหนึ่งวางบนโต๊ะ แล้วนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าววางทับเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “
อันนี้เกศฝาก ฝากวางไว้ก่อน เกศไม่สร้างความลำบากใจ เกศเข้าใจ แต่ถ้าทอนตรงไหนมาได้ก็ทอนมาให้เกศหน่อย ด้วยของตัวพรรค บอนเองอ่ะคนในพื้นที่เขาก็ไม่ได้ชอบเยอะ เกศก็เลยหนีไปอยู่ประชาธิปัตย์ไง ยังไงให้เกศมีคะแนนบ้างล่ะ”
ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา นาทีที่ 48.26 เมื่อพิจารณาภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ นาทีที่ 1.42.30 เป็นต้นไป และขยายภาพขณะที่น.ส.
เกศกานดา วางวัตถุบนโต๊ะ และขณะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คนดังกล่าวหยิบวัตถุดังกล่าวขึ้นมาจากโต๊ะนำมาใส่กระเป๋ากางเกง และล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงนำมาใส่ถุงพลาสติกใสและเก็บวัตถุดังกล่าวไว้ในตู้
น่าเชื่อได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นธนบัตรที่อยู่ในลักษณะพับครึ่งจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เอกสารหาเสียงเลือกตั้งตามที่ผู้ถูกร้องทั้งสามกล่าวอ้าง เนื่องจากหากเป็นเอกสารหาเสียงเลือกตั้งที่มี ลักษณะเป็นบัตรแนะนำตัวตามที่นายฐนวัฒน์ ส่งมอบให้แก่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเพื่อประกอบการให้ถ้อยคำแล้ว การวางบัตรแนะนำตัวซึ่งเป็นกระดาษที่มีความหนาและมีน้ำหนักมากกว่าธนบัตรนั้น ไม่จำต้องนำวัตถุอื่นมาวางทับไว้
ตามภาพที่ปรากฏวัตถุดังกล่าวมีลักษณะโค้งงอเหมือนกับธนบัตรจำนวน หนึ่งที่พับครึ่งไว้ มิใช่ลักษณะของบัตรแนะนำตัว อีกทั้งจากการตรวจสอบการสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ ระหว่างผู้ร้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 วันที่ 7 และวันที่ 12พ.ค.66หลังจาก ที่น.ส.เกศกานดา ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวประสงค์จะขอคืนเงิน บางส่วนให้นายสถาพรเนื่องจากเพิ่งแจกเงินไปหนึ่งหมื่นกว่าบาท
กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า น.ส
.เกศกานดากระทำการและก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นาย
สถาพร และนาย
ฐนวัฒน์ ให้เงินดังกล่าว แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการ ฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. 2561 มาตรา 73(1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งสส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 16
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน.ส.
เกศกานดา มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ น.ส.
เกศกานดา อินช่วย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. 2561มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง และให้ดำเนินคดีอาญา แก่น.ส.
เกศกานดา นาย
สถาพร และนาย
ฐนวัฒน์ ตามกฎหมายเดียวกัน มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158วรรคหนึ่ง
รวมทั้งให้กันผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. 2560 มาตรา 46 ประกอบระเบียบกกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2563 ข้อ 5 และข้อ 6
JJNY : ‘หนุ่มเมืองจันท์’โต้แบงก์ชาติ│อนุสรณ์เตรียมพบตร.│ฟันอาญา-ตัดสิทธิ์ผู้สมัครสส.ปชป.│จ่อขึ้นฮูตีเป็นกลุ่มก่อการร้าย
https://ch3plus.com/news/political/morning/382942
‘หนุ่มเมืองจันท์’ ชี้ผู้รักษาประตู ต้องไม่มองแต่ลูกบอลบนฟ้า ต้องทำความเข้าใจกับผืนหญ้า และพื้นดิน หลังแบงค์ชาติเปรียบตัวเองเป็นผู้รักษาประตู
วานนี้ (16 ม.ค.67 ) นายสรกล อดุลยานนท์ หรือ คอลัมน์นิสต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "หนุ่มเมืองจันท์" โพสต์ข้อความระบุว่า
คุยแบบคนชอบดูฟุตบอลนะครับ เมื่อวานฟังผู้บริหารแบงก์ชาติเปรียบตัวเองเป็น “ผู้รักษาประตู” มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็น “กองหน้า” กระตุ้นเศรษฐกิจ
ฟังแล้วรู้เลยว่าว่าท่านไม่เข้าใจเกมฟุตบอลสมัยใหม่ เพราะฟุตบอลยุคนี้ “ผู้รักษาประตู”จะไม่ได้มีหน้าที่ป้องกันประตูเก่งเพียงอย่างเดียว เขาจะขึ้นสูงตอนทีมกำลังบุก ทำตัวเป็นกองหลังคนสุดท้าย
ผู้รักษาประตูไม่ต้องขึ้นไปเป็นกองหน้าเพื่อยิงประตูเอง แต่ฟุตบอลยุคใหม่ไม่ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สเปอร์ ฯลฯ
จุดเริ่มต้นของ “เกมรุก” จะมาจาก“ผู้รักษาประตู” ค่อยๆต่อบอลขึ้นไปจากแดนหลัง ผู้รักษาประตูยุคนี้จึงต้องเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ไม่มองแต่ลูกบอลบนฟ้า ต้องก้มหน้ามองดิน มองลูกฟุตบอล ทำความเข้าใจกับผืนหญ้า และเข้าใจพื้นดิน #อลิสซอนเบ็กเกอร์#เอแดร์สัน
ไม่ใช่ “โอนาน่า” 555
https://www.facebook.com/boycitychanFC/posts/pfbid02j2CkzPgPqvE9QdcPZZ1K9tcqecQbcybZ7SRtLMq9j3hXsV2tR5skfUMb2YruSEvSl
อนุสรณ์ ก้าวไกล เตรียมเข้าพบ ตร. เหตุคนสนิทรุมทำร้ายทีมงาน ส.ส.ปัญญารัตน์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4379292
อนุสรณ์ ก้าวไกล เตรียมพบ ตร. 10 โมง เหตุคนสนิทรุมทำร้ายทีมงาน ส.ส.ปัญญารัตน์
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร หรือ ทนายเอ๊ะ ส.ส.นนทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกแถลงการณ์ชี้แจงเหตุการณ์ที่ นายปริญญา หรือ ตู่ ประธานชุมชนในพื้นที่ ต.บางกรวย พร้อมพวก ร่วมกันรุมทำร้าย นายกิตติภัทร หรือ เบน อายุ 44 ปี ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ส.ส.นนทบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
มีรายงานว่า ปมเหตุความขัดแย้งมาจากการที่ “เบน” ผู้บาดเจ็บ เคยยื่นเรื่องร้องจริยธรรมไปที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เกี่ยวกับนายอนุสรณ์ ส.ส.เขต 3 ประมาณเดือนธันวาคม 2566 ซึ่งกรณีนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ผู้บาดเจ็บเคยมายื่นเรื่องกับ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าใจว่าตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เบื้องต้นไม่ทราบรายละเอียด แต่หากตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คงเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะ
ล่าสุด คืนวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา นายอนุสรณ์เปิดเผยทางเพจเฟซบุ๊ก อนุสรณ์ แก้ววิเชียร – Anusorn Kaewwichain ว่า ผมเพิ่งกลับจากประชุมกรรมาธิการที่จังหวัดตากวันนี้ พรุ่งนี้ 10 โมง ผมจะไปให้การเป็นพยานที่ สภ.บางกรวย ครับ
https://www.facebook.com/AnusornOfficial/posts/pfbid029CgSSGtKQ1K7HSXU8kcheEkCzw6HvdA3Bsegx7auT1NE5N1QFw3J6ZLpgU54DjQMl
กกต.ฟันอาญา-ตัดสิทธิ์ ‘เกศกานดา’ ผู้สมัครสส.กทม. ปชป. ซื้อเสียงแลกคะแนน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8054980
กกต.แจก ใบดำ-ใบแดง ‘เกศกานดา อินช่วย’ ผู้สมัครสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เหตุซื้อเสียงแลกคะแนนเพิ่ม สั่งดำเนินคดีอาญาพร้อมพวก
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.ที่มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมดำเนินคดีอาญา น.ส.เกศกานดา อินช่วย ผู้สมัครสส.กทม.เขต 16 พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี
โดยเป็นกรณี กกต.ได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งสส. วันที่ 2 พ.ค.66 เวลากลางวัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า นายสถาพร ไกรถวิล ผู้ถูกร้องที่ 2ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของน.ส.เกศกานดา ผู้ถูกร้องที่ 1 โทรศัพท์ติดต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวนัดหมายให้น.ส.เกศกานดา มาพบกับที่บ้านพักของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในช่วงเวลาค่ำของวันเดียวกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง
มีบทสนทนาตอนหนึ่ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวถามว่า “เอาแบบเปล่าเลยเหรอ” และนายสถาพร ตอบว่า เอาแบบนั้นแหละ ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ต้องจด ทำอะไรก็ทำไปเลย ผมบอกน้องมันแล้ว บอกให้ไปเหอะ พวก ๆ กันทั้งนั้น ก็เดี๋ยว ช่วยสัก 40เสียง 30 เสียง ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าเราก็อยากให้ตังค์เอาไว้ใช้ ไม่เสียหายอะไรหรอก
บทสนทนาดังกล่าวมีลักษณะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการแจกเงินซื้อเสียงว่าจะต้องจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่
ต่อมาเวลา 18.10น. ของวันเดียวกัน นายสถาพร ไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวขอให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้แก่น.ส.เกศกานดา เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเป็นประธานหมู่บ้านวงศกร 5 และเป็นตัวแทนหรือหัวคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่นในพื้นที่
จากนั้นเวลาประมาณ 18.30น. น.ส.เกศกานดา นายฐนวัฒน์ ภูมี ผู้ถูกร้องที่ 3 และพยานผู้ถูกร้อง เดินทางมาถึงบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว ในๆ ทำนองขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแบ่งคะแนนเสียงของหมู่บ้านวงศกร 5 ให้แก่น.ส.เกศกานดา
บทสนทนาช่วงหนึ่ง น.ส.เกศกานดา พูดว่า เกศก็พอรู้ว่าพี่สถาพรโทรมาคุยกับพี่เรื่อย ๆ วันนี้เลยอยากมาหาพี่ เกศอยากจะขอโอกาส เพราะว่าแนวโน้มที่โพลออกมา เกศก็มีโอกาสแต่เกศตามอยู่นิดหนึ่ง แต่ของคุณบอนคะแนน มันไม่ขึ้นเลย ไม่ติด 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 เลยด้วยซ้ำ เกศเลยว่าในเมื่อเกศเป็นคนแพ้ เกศหาคะแนนเพิ่มอยู่แล้ว ดังนั้นเกศอยากจะขอคะแนนที่ไปให้คุณบอน ขอถ่ายมาเป็นฝั่งเกศ เพราะว่าเกศมีโอกาสมากกว่า ไม่อย่างนั้น ก็เสียของ เกศก็ไม่อยากให้คะแนนมันหายไปเลย เกศแพ้มาก่อน เกศหาคะแนนเพิ่มอย่างเดียว เอาทุกวิถีทาง อย่างที่พี่โตบอก เอาทุกวิถีทาง
โดยคำว่าพี่โต หมายถึงนายฐนวัฒน์ และบอนหมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง คนหนึ่ง ซึ่งนายฐนวัฒน์ พูดว่า “ตอนนี้โพลติด 1 ใน 3 มี
เบอร์ 4 เบอร์ 14 เบอร์ 11 แต่เบอร์ 5 มีปละปลาย ไม่ติด 1 ใน 4 ถ้ามันพอพลิกเกมได้ก็อยากจะพลิก เพราะว่าพี่ดันทางพี่บอนใช่ไหมมันก็ไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะ เปอร์เซ็นต์มันไม่ขึ้นเลยนะ เผื่อว่าพี่มาช่วยเกศ” นายสถาพร พูดว่า “ตามนิดเดียว วันนี้ซอย 2 ซอยพวกเย็บผ้า พนักงานแรงงาน ผมก็ใส่ไปแล้ว 20 คน ช่วยเหลือไปคนละ 500 ห้าร้อยมันถึงแฮปปี้ไง ถ้าได้มาสัก 200กว่า มันจะทำให้ตัวเลขมันขึ้น” ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา ตั้งแต่นาทีที่ 26.21
จากบทสนทนาดังกล่าว น่าเชื่อว่าผู้ถูกร้องทั้งสามพูดคุยเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งและการแจกเงินซื้อเสียง ประกอบกับจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นาทีที่ 1.42.30 ปรากฏภาพน.ส.เกศกานดา นำธนบัตรจำนวนหนึ่งวางบนโต๊ะ แล้วนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าววางทับเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “อันนี้เกศฝาก ฝากวางไว้ก่อน เกศไม่สร้างความลำบากใจ เกศเข้าใจ แต่ถ้าทอนตรงไหนมาได้ก็ทอนมาให้เกศหน่อย ด้วยของตัวพรรค บอนเองอ่ะคนในพื้นที่เขาก็ไม่ได้ชอบเยอะ เกศก็เลยหนีไปอยู่ประชาธิปัตย์ไง ยังไงให้เกศมีคะแนนบ้างล่ะ”
ปรากฏตามบันทึกเสียงการสนทนา นาทีที่ 48.26 เมื่อพิจารณาภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ นาทีที่ 1.42.30 เป็นต้นไป และขยายภาพขณะที่น.ส.เกศกานดา วางวัตถุบนโต๊ะ และขณะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คนดังกล่าวหยิบวัตถุดังกล่าวขึ้นมาจากโต๊ะนำมาใส่กระเป๋ากางเกง และล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงนำมาใส่ถุงพลาสติกใสและเก็บวัตถุดังกล่าวไว้ในตู้
น่าเชื่อได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นธนบัตรที่อยู่ในลักษณะพับครึ่งจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เอกสารหาเสียงเลือกตั้งตามที่ผู้ถูกร้องทั้งสามกล่าวอ้าง เนื่องจากหากเป็นเอกสารหาเสียงเลือกตั้งที่มี ลักษณะเป็นบัตรแนะนำตัวตามที่นายฐนวัฒน์ ส่งมอบให้แก่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเพื่อประกอบการให้ถ้อยคำแล้ว การวางบัตรแนะนำตัวซึ่งเป็นกระดาษที่มีความหนาและมีน้ำหนักมากกว่าธนบัตรนั้น ไม่จำต้องนำวัตถุอื่นมาวางทับไว้
ตามภาพที่ปรากฏวัตถุดังกล่าวมีลักษณะโค้งงอเหมือนกับธนบัตรจำนวน หนึ่งที่พับครึ่งไว้ มิใช่ลักษณะของบัตรแนะนำตัว อีกทั้งจากการตรวจสอบการสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ ระหว่างผู้ร้องกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 วันที่ 7 และวันที่ 12พ.ค.66หลังจาก ที่น.ส.เกศกานดา ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวประสงค์จะขอคืนเงิน บางส่วนให้นายสถาพรเนื่องจากเพิ่งแจกเงินไปหนึ่งหมื่นกว่าบาท
กรณีจึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า น.ส.เกศกานดากระทำการและก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้นายสถาพร และนายฐนวัฒน์ ให้เงินดังกล่าว แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง อันเป็นการ ฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. 2561 มาตรา 73(1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งสส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 16
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน.ส.เกศกานดา มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ น.ส.เกศกานดา อินช่วย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. 2561มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง และให้ดำเนินคดีอาญา แก่น.ส.เกศกานดา นายสถาพร และนายฐนวัฒน์ ตามกฎหมายเดียวกัน มาตรา 73 (1) ประกอบมาตรา 158วรรคหนึ่ง
รวมทั้งให้กันผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. 2560 มาตรา 46 ประกอบระเบียบกกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกันบุคคลไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดี พ.ศ. 2563 ข้อ 5 และข้อ 6