สับสนจังว่า ความรักคือความสวยงามหรือนรกกันแน่

สวัสดีค่ะ เรามาตั้งกระทู้ เพราะวันนี้เรารู้สึกมืดดับ
ว่างเปล่า ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตไร้ความหวัง
ต่อให้พยายามแค่ไหนก็เหมือนมันจะไม่ก้าวหน้า
เราเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางไม่แย่แต่ก็ไม่ดีเราเป็นลูกชาวนาค่ะพ่อแม่เราค่อนข้างที่จะทะเยอทะยานเพราะด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆทั้งญาติพี่น้องก็ต่างได้สามีเป็นคนต่างชาติและได้ไปใช้ชีวิตอย่างดีพ่อแม่เราเป็นคนที่ขยันค่ะท่านทั้งสองเป็นคนดีมากๆและเราก็รักท่านมากๆแต่ท่านคงอยากให้เราสบายเหมือนญาติพี่น้องคนอื่น ท่านจึงปลูกฝังให้เรามีความคิดว่าถ้าโตไปจะต้องเป็นคนรวยนะถึงจะสุขสบายตอนเด็กเราเป็นคนเรียนเก่งมากค่ะแต่เราต้องแข่งขันกับคนอื่นการที่เราเกิดมาเราไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะต้องแพ้หรืออยู่ปานกลางได้แต่เราต้องชนะเท่านั้นเพราะไม่งั้นครอบครัวเราจะอายเราจะไม่ได้ได้รับคำชมจากพ่อแม่ของเราเรามักจะถูกเปรียบเทียบเสมอเรารู้สึกน้อยใจมันก็ยิ่งทำให้เราทะเยอทะยานว่าถ้าโต ขึ้นมาก็ต้องได้ดีเราก็ปากกัดตีนถีบมาตลอดค่ะหาเลี้ยงตัวเองหาเลี้ยงครอบครัวเราพยายามทำทุกอย่างที่สุจริตทำงานเสริมบ้างทำงานพีอาร์ในบางครั้งและขายของออนไลน์ด้วยเราทำแบบนี้จนส่งตัวเองเรียนจบจนถึง ม. 6 เราก็ได้ย้ายมาที่ในกทมเราได้ ตอนนั้นเราคิดว่าเราจะทำยังไงก็ได้ให้ได้เงินเพื่อความอยู่รอดทั้งเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงครอบครัวด้วยทุกคนเหมือนรอเราอยู่ตลอดรอว่าเราจะประสบความสำเร็จวันไหนรอว่าเราจะดีขึ้นเมื่อไหร่… แล้วจนเราได้รู้วิธีหาเงินคือการมีคนเลี้ยงดูนั่นคือ “การเป็นเด็กเสี่ย”
ในตอนนั้นชีวิตไม่มีความสุขแต่ก็ไม่ได้ความทุกข์รู้สึกว่าตัวเองลดภาระลงหลายอย่างเพราะมีคนช่วยซัพพอร์ตแต่คนที่ รับเลี้ยงเราเค้าไม่ได้ดูดีเราไม่ได้ชอบเขาเราไม่ได้คิดจะจริงจังเราไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยสักนิดและเรารู้สึกขยะแขยงตัวเองเวลาที่จะต้องมีอะไรกับเขาเราเลยรู้สึกว่าเราอยากมีใครสักคนที่จะซัพพอร์ตหัวใจเราได้ทั้งความรักและการเงิน จากนั้นเราก็เลยได้เลิกกับเสียคนนั้นและเลือกคบกับผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกัน
ฐานะของบ้านเขาค่อนข้างดีค่ะเค้าทำอาชีพส่วนตัวตั้งแต่เด็กเค้าเป็นคนที่ขยันขยันและเขาก็รักเรามากแต่ครอบครัวของเขามีความคิดที่แปลกคล้ายๆเหมือนรวยแบบจอมปลอม  ท้ายที่สุดเราเหมือนเกิดไม่เข้าขายไม่ออกเพราะเราสงสารแฟนเรามากเค้าเหมือนคนขาดความอบอุ่นทั้งนั้นเราก็เลยเลือกที่จะอยู่กับเขาส่วนนึงเรารักเขาด้วยและเราเห็นใจเขา ตอนนั้นเขาเรียนไปด้วยและทำธุรกิจไปด้วยแต่พ่อแม่เค้าไม่ได้ชอบเราดังนั้นเค้าก็ออกมาจากบ้านเพื่อมาอยู่หอพักกับเรา เค้าเรียนไม่เก่งค่ะดังนั้นเราก็เลยช่วยเขาจนเขาเรียน หลังจากนั้นเราก็มีปัญหากันเรื่องหึงห่วงเพราะเขาเป็นคนที่ห่วงเรามากแม้กระทั่งออกไปหาเพื่อนก็ไปไม่ได้เค้าเปลี่ยนชีวิตเราไปทั้งหมดจากเราเป็นคนที่มีอิสระเรากลับกลายเป็นเราต้องอยู่ในกฎและระเบียบเราต้องเชื่อฟังเขาเขาเคยทำร้ายร่างกายหลายครั้งแต่เราก็อดทนมาตลอดเพราะเราคิดว่าเราก็ไม่อยากไปเป็นเด็กเสี่ยหรือไม่อยากไปขายตัวไม่อยากทำผิด
ผ่านไป 3 ปีตอนนั้นเราทั้งคู่ได้รู้จักกับเช็คเงินสด  เราเพิ่งรู้ว่าเช็คก็สามารถค้ำประกันธุรกิจได้ดังนั้นเราทั้งคู่เลยเลือกที่จะตัดสินใจนำเช็คเข้าไปค้ำประกันแต่ตัวเราไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจทั้งหมดเพราะแฟนเราเค้าก็ค่อนข้างมีอารมณ์รุนแรงคือเค้าจะต้องได้อย่างที่เขาต้องการเท่านั้นดังนั้นทุกๆอย่างเค้าจะเป็นคนจัดสรรแต่เราจะมารู้อีกครั้งก็คือตอนที่เขาทำไปแล้ว ตอนนั้นเค้าหลงละเลิงกับการใช้เงินเมื่อได้ของมาและได้เครดิต เขาก็ใช้จ่ายโดยไม่รู้ทุนและกำไร เราไม่ได้โทษเขาฝ่ายเดียว แต่เราก็โทษตัวเราด้วยที่เราไม่หนักแน่นพอ หรือเราไม่ช่วยเค้าจัดการเรื่องบัญชี
แต่เป็นเพราะเราพูดอะไรกับเขาไม่ได้เลย และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ทุกคนคิดคือเราล้มค่ะจากที่เคยหาได้ก็หาไม่ได้ก็ต้องติดหนี้ ตอนนั้นอายุยังไม่ข้าม 20 เลยด้วยซ้ำเราต้องถูกดำเนินคดี ติดคุกเพราะไม่มีเงินใช้หนี้แต่พ่อแม่ของเค้าประกันออกมาเพื่อให้หาเงินไปจ่ายจนเราได้โอกาสกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้ง
ตอนนั้นเราอยากเลิกค่ะเพราะเรารู้สึกว่าเค้ารับผิดชอบเราไม่ได้โอเคเรารักกันเราอยู่ด้วยกันเราได้กินอยู่ด้วยกันกินอิ่มด้วยกันแต่เรามีพ่อแม่ที่ต้องดูแล ในตอนนั้นเราเชื่อว่า เราอยู่กันแบบนี้มีแต่พากันลงเหว

และความสงสารครั้งที่ 1 ก็เกิดขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่