ข่าวดีสำหรับผู้ขับขี่รับจ้างสาธารณะตามแนวรถไฟฟ้า วันนี้มีการเปิดตัว "รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า pinto" โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งบริษัทสมาร์ทอีวีไบค์จำกัด(มหาชน) บริษัทร่วมทุนของบริษัทวินโนหนี้จำกัด ที่เป็นบริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มบริษัทบางจาก และ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า pinto จะเปิดให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้า BTS เพื่อสร้างบริการขนส่งสาธารณะระบบรองหรือFeeder ที่สะดวกปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ


          นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อปี2563 ได้ทำวิจัยกับวินมอเตอร์ไซค์ พบว่า ในแต่ละวันจะมีค่าใช้จ่าย 300-400 บาท เช่น ผ่อนค่ารถ น้ำมัน ถ้ากู้หรือเช่าซื้อรถ Pinto จะเสียแค่ 4,000 บาทต่อเดือน ตกวันละ 100 กว่าบาท ประหยัดมากถึง 40,000-50,000 บาทต่อปี รวมถึงมีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ฟรีค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม 1 ปี (เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด) หากสนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ผ่านทาง เฟซบุ๊ค winnonie หรือ ไลน์ : winnonie หรือ เบอร์โทร023656700 มีทั้งแบบเช่า และแบบเช่าซื้อ ซึ่งแนะนำเพจเกจแบบเช่าซื้อ สามารถนำกลับบ้านได้เลย จึงเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทบางจากและเป็นการสร้าง Net Zero Ecosystem หรือระบบนิเวศ ที่บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทในปี 2593 

          สำหรับบริษัท วินโนหนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากวันเริ่มต้นดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1,000 ราย ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรื่อัตโนมัติจำนวน 120 สถานี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะสถานีที่ตั้งเพิ่มเติมตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อให้ผู้โดยสารมีประสบการณ์เดินทางแบบ First Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด ซึ่งถือเป็น Win-Win Solution ใน 3 ด้าน คือ 1.ช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเช่าใช้จักรยานยนต์ ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาทต่อคนต่อปี รวม 48 ล้านบาทต่อปี 2.โลกดีขึ้น จากการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด วินโนหนี้วิ่งใช้งานแล้วมากกว่า 42 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนใดออกไซด์ไปประมาณ 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศลดการเกิดฝุ่น PM 2.5 ลดมลภาวะเสียง 3.ประเทศดีขึ้นจากการที่พัฒนาของคนไทยด้วยกันเองทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาคนสร้างงานในประเทศ 

          นายชัยวัฒน์ หวังว่า จะได้รับการสนับสนุนและภาครัฐ เช่น การสนับสนุนค่าพลังงานไฟฟ้าในราคาพิเศษ การจัดตั้งหน่วยงานแบบ one stop service ในการขออนุมัติการติดตั้งมิเตอร์ หรือการพิจารณากฎหมาย เช่น กฎหมายการขนส่ง การจดทะเบียนป้ายเหลือง การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กฎหมายเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนและการทำ Carbon Credit Certificate และมาตรฐานสนับสนุนอื่นๆ เช่น การทำประกัน การให้ใช้พื้นที่ของภาครัฐติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยไม่คิดค่าเช่าหรือในอัตราพิเศษ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทุนวิจัยและพัฒนา ซึ่งวินโนหนี้มุ่งเป้าเพิ่มผู้ใช้งาน 60,000 ราย สถานี 3,000 แห่งในปี 2573 

          ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี มองว่า โครงการทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะมีทางเลือกมากขึ้น สามารถใช้รถจักรยานยนต์จากพลังงานไฟฟ้าแทนจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป นับว่าสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาคือการลดภาระค่าใช้จ่ายและสานต่อนโยบายลดคาร์บอน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะจักรยานยนต์รับจ้าง  ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ พาผู้โดยสารไปยังจุดเป้าหมายปลายทางในที่สุด  เชื่อว่า หากมีการเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากจะเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังช่วยลดค่าฝุ่นละออง และยังเป็นทางเลือกที่สำคัญที่สามารถลดภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ให้ผู้ขับขี่

ไอเดียดีดีของคุณคีรี เพื่อคนกรุง เพื่อคนไทย 

แหล่งข่าว: https://www.js100.com/en/site/news/view/136671