ตามหัวข้อเลยครับ ว่าผิดไหม อยู่คนเดียวมีความสุขมากกว่าอยู่ที่บ้าน
ตั้งแต่ผมมาเรียนที่กรุงเทพ ได้ใช้ชีวิตคนเดียว รู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่ที่บ้าน ถึงที่บ้านบอกว่าไม่ได้กดดันเรื่องเรียน เรื่องงาน แต่การกระทำของครอบครัวมันตรงกันข้าม ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว ด้วยความที่ผมเป็นพี่คนโต ก็จะถูกสอนให้ทำตัวเป็นเด็กดี ผมก็เป็นเด็กดีมาตลอด เชื่อฟัง อยู่ในโอวาทตลอด แต่น้องผมก็ไม่เห็นจะทำตาม แถมได้ใช้ชีวิตวัยรุ่น ไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุด ตอนผมเรียนมัธยมกลับโดนบังคับให้อ่านหนังสือวันละ 1 ชม. ไม่ทำตามนั้นก็โดนตี ให้ช่วยงานที่บ้านตั้งแต่ผมอยู่ประถมจนถึงม.6 ทำทุกอย่างที่ดีมาตลอด ตอนมัธยมไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อย แต่เรื่องเที่ยวผมไม่ค่อยสนใจหรอกครับ อาจจะเพราะถูกปลูกฝังแบบนี้มานาน เลยทำให้ไม่ชอบเที่ยว
เวลาอยู่บ้านผมไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเท่าไหร่ครับ แม้แต่ทำกิจกรรมที่ชอบก็ไม่ได้ทำ พอมีเวลาว่างที่บ้านให้ช่วยทำงานตลอด จนมาถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไรทำอะไรได้ นึกได้แต่เรื่องที่ช่วยทำงานที่บ้านแหละครับ
เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อชอบเก็บตัว หรือไปเที่ยว ทิ้งให้แม่ทำงานคนเดียว ผมในฐานะลูกคนโตก็ต้องช่วย จนถึงตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว ที่บ้านยังให้ผมทำอะไรแบบนี้อยู่เลยครับ เขาให้ผมช่วยงานแต่ก็ถามเรื่องสมัครงานตลอด ทำอะไร ทำที่ไหน ทำไมไม่มาอยู่บ้านเรา ผมบอกเขาว่า อยากเรียนทักษะอะไรสักหน่อยเก็บผลงานค่อยสมัคร แต่เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด ส่งงานราชการมาให้ผมสมัครตลอด ผมก็บอกตลอดว่าผมไม่อยากทำงานราชการ ไม่ได้ดูถูกงานราชการนะครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะกับงานราชการมากกว่า อีกอย่างวิชาที่ผมเรียนมามันไม่ได้เกี่ยวกับราชการแม้แต่น้อย
ดังนั้นการที่ผมอยู่คนเดียว ผมมีอิสระทางความคิดมากกว่า ไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อยให้คนที่บ้านสบายใจ อยากให้การกลับบ้านเป็นการพักผ่อนที่กลับมาแล้วมีความสุข ไม่ใช่แบกรับทุกอย่างไว้ ทุกคนคิดว่าผมเป็นเด็กดีเลยคาดหวังกับผมว่าต้องเป็นลูกกตัญญู เชื่อฟังทุกอย่าง แต่ผมกลับรู้สึกกดดัน แต่บางความคิดก็รู้สึกผิด ผมไม่ได้ทิ้งครอบครัวเพื่อความสุขตัวเองนะครับ ผมรักครอบครัวผมมากๆ แต่อยู่ไปก็เครียด อยากจะร้องไห้ตลอด มันเก็บกดดันทุกครั้งที่กลับบ้าน พอกลับไปอยู่คนเดียวไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากมาย
ใครเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ อยากถามว่า ผิดไหมที่ผมคิดแบบนี้
ผิดไหมที่อยู่คนเดียวมีความสุขมากกว่าอยู่กับครอบครัว??
ตั้งแต่ผมมาเรียนที่กรุงเทพ ได้ใช้ชีวิตคนเดียว รู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่ที่บ้าน ถึงที่บ้านบอกว่าไม่ได้กดดันเรื่องเรียน เรื่องงาน แต่การกระทำของครอบครัวมันตรงกันข้าม ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว ด้วยความที่ผมเป็นพี่คนโต ก็จะถูกสอนให้ทำตัวเป็นเด็กดี ผมก็เป็นเด็กดีมาตลอด เชื่อฟัง อยู่ในโอวาทตลอด แต่น้องผมก็ไม่เห็นจะทำตาม แถมได้ใช้ชีวิตวัยรุ่น ไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุด ตอนผมเรียนมัธยมกลับโดนบังคับให้อ่านหนังสือวันละ 1 ชม. ไม่ทำตามนั้นก็โดนตี ให้ช่วยงานที่บ้านตั้งแต่ผมอยู่ประถมจนถึงม.6 ทำทุกอย่างที่ดีมาตลอด ตอนมัธยมไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อย แต่เรื่องเที่ยวผมไม่ค่อยสนใจหรอกครับ อาจจะเพราะถูกปลูกฝังแบบนี้มานาน เลยทำให้ไม่ชอบเที่ยว
เวลาอยู่บ้านผมไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเท่าไหร่ครับ แม้แต่ทำกิจกรรมที่ชอบก็ไม่ได้ทำ พอมีเวลาว่างที่บ้านให้ช่วยทำงานตลอด จนมาถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไรทำอะไรได้ นึกได้แต่เรื่องที่ช่วยทำงานที่บ้านแหละครับ
เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อชอบเก็บตัว หรือไปเที่ยว ทิ้งให้แม่ทำงานคนเดียว ผมในฐานะลูกคนโตก็ต้องช่วย จนถึงตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว ที่บ้านยังให้ผมทำอะไรแบบนี้อยู่เลยครับ เขาให้ผมช่วยงานแต่ก็ถามเรื่องสมัครงานตลอด ทำอะไร ทำที่ไหน ทำไมไม่มาอยู่บ้านเรา ผมบอกเขาว่า อยากเรียนทักษะอะไรสักหน่อยเก็บผลงานค่อยสมัคร แต่เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด ส่งงานราชการมาให้ผมสมัครตลอด ผมก็บอกตลอดว่าผมไม่อยากทำงานราชการ ไม่ได้ดูถูกงานราชการนะครับ ผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะกับงานราชการมากกว่า อีกอย่างวิชาที่ผมเรียนมามันไม่ได้เกี่ยวกับราชการแม้แต่น้อย
ดังนั้นการที่ผมอยู่คนเดียว ผมมีอิสระทางความคิดมากกว่า ไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อยให้คนที่บ้านสบายใจ อยากให้การกลับบ้านเป็นการพักผ่อนที่กลับมาแล้วมีความสุข ไม่ใช่แบกรับทุกอย่างไว้ ทุกคนคิดว่าผมเป็นเด็กดีเลยคาดหวังกับผมว่าต้องเป็นลูกกตัญญู เชื่อฟังทุกอย่าง แต่ผมกลับรู้สึกกดดัน แต่บางความคิดก็รู้สึกผิด ผมไม่ได้ทิ้งครอบครัวเพื่อความสุขตัวเองนะครับ ผมรักครอบครัวผมมากๆ แต่อยู่ไปก็เครียด อยากจะร้องไห้ตลอด มันเก็บกดดันทุกครั้งที่กลับบ้าน พอกลับไปอยู่คนเดียวไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากมาย
ใครเคยเป็นแบบนี้ไหมครับ อยากถามว่า ผิดไหมที่ผมคิดแบบนี้