เกริ่นนำ
-- ตัวผมอายุ 34 ปีแล้วครับ เมื่อปีที่แล้วเพิ่งได้งานเป็นข้าราชการเป็นหลักเป็นแหล่ง และมีสวัสดิการเบิกจ่ายตรงของกรมบัญชีกลาง ก็เลยไปหาหมอเรื่องภูมิแพ้ที่เป็น หลังจากที่หมอเจาะเลือดแล้วก็พบว่าผมแพ้ไรฝุ่นบ้านครับ หมอก็เลยให้ยาอมใต้ลิ้นมาตัวนึง ต้องอมทุกวัน หลังจากใช้มาได้ประมาณเดือนนึง อาการก็ดีขึ้นเหมือนเปลี่ยนจมูกใหม่เลยครับ (แต่ค่ารักษาถ้าไม่มีสิทธิ์เบิกจ่าย ค่าเจาะเลือดประมาณ 15k และค่ายาเม็ดละ 150 บาท)
-- ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า ที่หน่วยงานผมมีคนใหญ่คนโตมากันเยอะมาก และที่หน่วยงานก็เป็นสถานที่ราชการ เขาก็เลยสูบบุหรี่กันบนตึกเลยนี่แหละ ซึ่งแต่ก่อนที่ผมจะรักษาภูมิแพ้ ผมไม่ค่อยได้กลิ่นอะไรหรอก แต่มาวันนี้ผมเพิ่งรู้จักว่า บุหรี่ มันเหม็นและฉุนแค่ไหน
-- ด้วยความที่ทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฏหมาย ผมก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าถ้าสามารถร่างกฏหมายขึ้นมาได้ แล้วเสนอเข้าสภา (ซึ่งผมทราบมาว่ามีช่องทางที่ประชาชนสามารถยื่นกฏหมายเข้าสภาได้ด้วยนะ เป็น พระราชบัญญัติต้องมีผู้ร่วมเสนอ 10,000 คน ซึ่งปัจจุบันเคยมีการเสนอแล้วนะ แต่...... จำนวนกฏหมายที่ร่างโดยประชาชนและผ่านเข้าไปได้ถึงสภามีทั้งหมด 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งถูกแก้ซะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ส่วนอีกฉบับไม่ผ่าน เพราะงั้นถ้านับจริง ๆ คือยังไม่เคยมีกฏหมายจากประชาชนเคยผ่านไปถึงบังคับใช้จริงเลยสักฉบับ) ผมก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าอยากร่างกฏหมายโดยมีหลักการดังนี้ครับ
------------------------------------------------------------------
ส่วนของกฏหมาย
พระราชบัญญัติ การควบคุมยาสูบ
พศ. ......
สมเด็จ............
ให้ไว้ ณ. วันที่ ............
เป็นปีที่ ... ในรัชกาลปัจจุบัน
สมเด็จ..... มีพระราช....... ให้ประกาศว่า
ตามที่รัฐธรรมนูญได้มีบัญญัติตามมาตรที่ 25 เกี่ยวกับ สิทธิเสรีภาพ ตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น และตามมาตราที่ 26 ซึ่งระบุว่ากฏหมายที่มีการจำกัดสิทธิ์เสรีภาพของบุคคลต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิ์บุคคลเกินสมควรแก่เหตุ จึงสมควรให้มีการ นิยามความหมาย จำกัดการใช้งานยาสูบเพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และจัดระเบียบควบคุมการสูบยาสูบดังนี้
มาตราที่ 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติ การควบคุมยาสูบ พ.ศ. ......
มาตราที่ 2 พระราชบัญญัตินี้ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตราที่ 3 ให้ยกเลิก ........................
มาตราที่ 4 ในพระราชบัญญัตินี้
ยาสูบ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อการสูดดม ซึ่งมีกลิ่น หรือทำให้ระบบประสาทของตนเองหรือผู้อื่นระคายเคือง
.......
..........
หมวดที่ x การควบคุมการสูบ
มาตราที่ y ให้มีการจัดสถานที่ให้สูบยาสูบ โดยจะต้องมีท่อน้ำพร้อมสาย สำหรับการดับเพลิง พร้อมทั้งมีถังทรายหรือสิ่งอื่นเพื่อป้องกันเพลิงใหม้ ทั้งนี้จะต้องอยู่ห่างจากตัวอาคารอย่างน้อย 15 เมตร และหากเป็นสถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล หรือที่พักอาศัยที่เป็นที่อยู่ของเด็ก และคนชรา สถานที่ที่จัดให้สูบบุหรี่จะต้องอยู่ห่างจากตัวอาคารอย่างน้อย 35 เมตร
มาตราที่ a ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีสิทธิ์ ปรับ ผู้ฝ่าฝืนสูบยาสูบนอกสถานที่ให้สูบ ตั้งแต่ 500 - 50,000 บาท ตามดุลพินิจว่ามีผลกับส่วนรวมเพียงใด
มาตราที่ yy ให้มีการจัดสถานที่ตามมาตราที่ y โดยคำนึงถึงจำนวนประชากรในอาคาร หรือสถานประกอบการ โดยหากมีจำนวน เกิน 50 คนให้จัดสถานที่อย่างน้อย 1 จุด
มาตราที่ z ให้เจ้าของอาคาร บุคคล หรือนิตบุคคลที่มีอำนาจครอบครองอาคาร มีหน้าที่ควบคุมการใช้ยาสูบในบริเวณ เพื่อตักเตือน ขับไล่ ออกประกาศ แก่ผู้ที่สูบยาสูบภายในอาคาร
มาตราที่ zz ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีอำนาจดำเนินการ ควบคุมและส่งฟ้องเจ้าของอาคารที่ไม่ดำเนินการตามมาตรา z จนเป็นที่ร้องเรียน มีโทษปรับ ตั้งแต่ 100,000 - 500,000 บาท หรือจำคุก 15 วัน และหากเกิดเพลิงไหม้ให้มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทและหรือจำคุก 1 - 5 ปี
----------------------------------------------------
-- Outtro
ตอนคิดอ่ะ ผมคิดเอาสนุก ๆ นะ แต่พอมานึกว่าพวกเขาทำร้ายชีวิตประจำวันของคนอื่นยังไง แล้วก็ไม่ได้มีกฏหมายควบคุมจริงจัง ผมเคยแจ้งผู้บริหารมหาวิทยาลัยเขาก็บอกให้ปล่อยก็มี เลยสงสัยว่าไม่คิดจะมีกฏหมายแบบนี้บ้างเหรอ มีแค่กฏหมายที่ห้ามสูบอ่ะนะ ตลกอ่ะ ในความเป็นจริงคือคนไม่สูบถูกละเมิดสิทธิ์อยู่หรือเปล่า กฏหมายมันไม่ควรเป็นกำหนดที่ห้ามสูบแต่ควรเป็นกำหนดที่ให้สูบ แล้วกำหนดให้สถานที่นอกจากที่ให้สูบเป็นที่ห้ามสูบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นท้องถนนหรือที่ใดก็ตาม เพื่อสุขภาพ และเพื่อลดการเกิดไฟไหม้ด้วย คิดเห็นกันยังไงบ้าง แลกเปลี่ยนกัน
คุยกันเล่น ๆ เรื่องกฏหมายบุหรี่ มาออกความเห็นกันหน่อย
-- ตัวผมอายุ 34 ปีแล้วครับ เมื่อปีที่แล้วเพิ่งได้งานเป็นข้าราชการเป็นหลักเป็นแหล่ง และมีสวัสดิการเบิกจ่ายตรงของกรมบัญชีกลาง ก็เลยไปหาหมอเรื่องภูมิแพ้ที่เป็น หลังจากที่หมอเจาะเลือดแล้วก็พบว่าผมแพ้ไรฝุ่นบ้านครับ หมอก็เลยให้ยาอมใต้ลิ้นมาตัวนึง ต้องอมทุกวัน หลังจากใช้มาได้ประมาณเดือนนึง อาการก็ดีขึ้นเหมือนเปลี่ยนจมูกใหม่เลยครับ (แต่ค่ารักษาถ้าไม่มีสิทธิ์เบิกจ่าย ค่าเจาะเลือดประมาณ 15k และค่ายาเม็ดละ 150 บาท)
-- ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า ที่หน่วยงานผมมีคนใหญ่คนโตมากันเยอะมาก และที่หน่วยงานก็เป็นสถานที่ราชการ เขาก็เลยสูบบุหรี่กันบนตึกเลยนี่แหละ ซึ่งแต่ก่อนที่ผมจะรักษาภูมิแพ้ ผมไม่ค่อยได้กลิ่นอะไรหรอก แต่มาวันนี้ผมเพิ่งรู้จักว่า บุหรี่ มันเหม็นและฉุนแค่ไหน
-- ด้วยความที่ทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกฏหมาย ผมก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าถ้าสามารถร่างกฏหมายขึ้นมาได้ แล้วเสนอเข้าสภา (ซึ่งผมทราบมาว่ามีช่องทางที่ประชาชนสามารถยื่นกฏหมายเข้าสภาได้ด้วยนะ เป็น พระราชบัญญัติต้องมีผู้ร่วมเสนอ 10,000 คน ซึ่งปัจจุบันเคยมีการเสนอแล้วนะ แต่...... จำนวนกฏหมายที่ร่างโดยประชาชนและผ่านเข้าไปได้ถึงสภามีทั้งหมด 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งถูกแก้ซะจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ส่วนอีกฉบับไม่ผ่าน เพราะงั้นถ้านับจริง ๆ คือยังไม่เคยมีกฏหมายจากประชาชนเคยผ่านไปถึงบังคับใช้จริงเลยสักฉบับ) ผมก็เลยคิดเล่น ๆ ว่าอยากร่างกฏหมายโดยมีหลักการดังนี้ครับ
------------------------------------------------------------------
ส่วนของกฏหมาย
พระราชบัญญัติ การควบคุมยาสูบ
พศ. ......
สมเด็จ............
ให้ไว้ ณ. วันที่ ............
เป็นปีที่ ... ในรัชกาลปัจจุบัน
สมเด็จ..... มีพระราช....... ให้ประกาศว่า
ตามที่รัฐธรรมนูญได้มีบัญญัติตามมาตรที่ 25 เกี่ยวกับ สิทธิเสรีภาพ ตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น และตามมาตราที่ 26 ซึ่งระบุว่ากฏหมายที่มีการจำกัดสิทธิ์เสรีภาพของบุคคลต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิ์บุคคลเกินสมควรแก่เหตุ จึงสมควรให้มีการ นิยามความหมาย จำกัดการใช้งานยาสูบเพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และจัดระเบียบควบคุมการสูบยาสูบดังนี้
มาตราที่ 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติ การควบคุมยาสูบ พ.ศ. ......
มาตราที่ 2 พระราชบัญญัตินี้ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตราที่ 3 ให้ยกเลิก ........................
มาตราที่ 4 ในพระราชบัญญัตินี้
ยาสูบ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อการสูดดม ซึ่งมีกลิ่น หรือทำให้ระบบประสาทของตนเองหรือผู้อื่นระคายเคือง
.......
..........
หมวดที่ x การควบคุมการสูบ
มาตราที่ y ให้มีการจัดสถานที่ให้สูบยาสูบ โดยจะต้องมีท่อน้ำพร้อมสาย สำหรับการดับเพลิง พร้อมทั้งมีถังทรายหรือสิ่งอื่นเพื่อป้องกันเพลิงใหม้ ทั้งนี้จะต้องอยู่ห่างจากตัวอาคารอย่างน้อย 15 เมตร และหากเป็นสถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล หรือที่พักอาศัยที่เป็นที่อยู่ของเด็ก และคนชรา สถานที่ที่จัดให้สูบบุหรี่จะต้องอยู่ห่างจากตัวอาคารอย่างน้อย 35 เมตร
มาตราที่ a ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีสิทธิ์ ปรับ ผู้ฝ่าฝืนสูบยาสูบนอกสถานที่ให้สูบ ตั้งแต่ 500 - 50,000 บาท ตามดุลพินิจว่ามีผลกับส่วนรวมเพียงใด
มาตราที่ yy ให้มีการจัดสถานที่ตามมาตราที่ y โดยคำนึงถึงจำนวนประชากรในอาคาร หรือสถานประกอบการ โดยหากมีจำนวน เกิน 50 คนให้จัดสถานที่อย่างน้อย 1 จุด
มาตราที่ z ให้เจ้าของอาคาร บุคคล หรือนิตบุคคลที่มีอำนาจครอบครองอาคาร มีหน้าที่ควบคุมการใช้ยาสูบในบริเวณ เพื่อตักเตือน ขับไล่ ออกประกาศ แก่ผู้ที่สูบยาสูบภายในอาคาร
มาตราที่ zz ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีอำนาจดำเนินการ ควบคุมและส่งฟ้องเจ้าของอาคารที่ไม่ดำเนินการตามมาตรา z จนเป็นที่ร้องเรียน มีโทษปรับ ตั้งแต่ 100,000 - 500,000 บาท หรือจำคุก 15 วัน และหากเกิดเพลิงไหม้ให้มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทและหรือจำคุก 1 - 5 ปี
----------------------------------------------------
-- Outtro
ตอนคิดอ่ะ ผมคิดเอาสนุก ๆ นะ แต่พอมานึกว่าพวกเขาทำร้ายชีวิตประจำวันของคนอื่นยังไง แล้วก็ไม่ได้มีกฏหมายควบคุมจริงจัง ผมเคยแจ้งผู้บริหารมหาวิทยาลัยเขาก็บอกให้ปล่อยก็มี เลยสงสัยว่าไม่คิดจะมีกฏหมายแบบนี้บ้างเหรอ มีแค่กฏหมายที่ห้ามสูบอ่ะนะ ตลกอ่ะ ในความเป็นจริงคือคนไม่สูบถูกละเมิดสิทธิ์อยู่หรือเปล่า กฏหมายมันไม่ควรเป็นกำหนดที่ห้ามสูบแต่ควรเป็นกำหนดที่ให้สูบ แล้วกำหนดให้สถานที่นอกจากที่ให้สูบเป็นที่ห้ามสูบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นท้องถนนหรือที่ใดก็ตาม เพื่อสุขภาพ และเพื่อลดการเกิดไฟไหม้ด้วย คิดเห็นกันยังไงบ้าง แลกเปลี่ยนกัน