พอดีเคยเก็บบทความของหนังสือ thaidriver ถามตอบกับ อาจารย์ศิริบูรณ์ ไว้ ก่อนจะทำเบรคซิ่งราคาแพงๆ ลองๆอ่านกันดูก่อนครับได้ความรู้ดีครับ
THAIDRIVER • ที่บอกว่าแรงเบรก 750 NEGATIVE HORSEPOWER ยางมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแค่ไหน เพราะยางต้องสัมผัสพื้น
อ. ศิริบูรณ์ • สมมุติรถมีแรงเบรก 750 NEGATIVE HORSEPOWER แต่ยางแคบนิดเดียว เบรกออกแรงไปแค่ 800 ยางก็ไถลล็อกซะแล้ว แบบนี้แสดงว่ายางเป็นลิมิต ถ้าเบรกเต็มเท้าแล้วล้อล็อก แสดงว่าเบรกดีกว่ายาง ถ้าอยากให้เบรกดีขึ้นก็ต้องเปลี่ยนยางถ้าถอดฟิวส์เอบีเอสออกแล้วกระทืบเบรกเต็มเหยียด ล้อก็ไม่เคยล็อก ยางก็ไม่เคยไถ แสดงว่ายางดีกว่าเบรก แบบนี้ลิมิตอยู่ที่ระบบเบรก ปรับปรุงระบบเบรกเพิ่มเติมแล้วจะได้ประโยชน์ เช่น เบรกด้วยระยะทางสั้นลง ถ้าระบบเบรกเดิมจากโรงงาน เบรกแรงๆ ทีไรล้อก็ล็อกทุกทีอยู่แล้ว หรือเบรกแล้วเอบีเอสทำงานเขย่าลูกหมากจนแทบจะหลุด แล้วยังทะลึ่งไปเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นจากเดิม 12 นิ้ว เป็น 14 หรือ 15 นิ้ว จะเปลี่ยนไปทำไมให้เสียเงิน จานเบรกใหญ่มีข้อดีคือ สามารถเบรกหนักๆ ‘ซ้ำแล้วซ้ำอีก’ได้โดยไม่ OVERHEAT เพราะจานเบรกใหญ่มีเนื้อให้อมความร้อนได้มากกว่า และถ่ายเทความร้อนออกได้เร็วกว่าจานเบรกเล็ก ทำให้เบรกซ้ำๆ ได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพการเบรก แต่ถ้าจานเบรกเดิม 12 นิ้ว เบรกเต็มแรงทีไรเอบีเอสก็ทำงานทุกที แสดงว่าเหลือเฟือแล้วในเรื่องการเก็บความร้อน แต่ในเรื่องการระบายความร้อน เนื่องจากมีเนื้อที่ของจานแค่ 12 นิ้ว ย่อมระบายความร้อนได้ช้ากว่า 15 นิ้ว แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะถ้าจานเบรกใหญ่เต็มล้อ แถมใส่ล้อลายทึบอีกด้วย จานเบรกใหญ่ อมความร้อนไว้จนแก้มตุ่ย แต่ระบายออกไม่ได้ เบรกหนักๆ ถี่ๆ ก็จะเริ่ม FADE เหมือนกัน การเบรกจากรถคันเดียวกันและใช้ความเร็วเท่ากัน จานเบรกเล็กจะร้อนเร็วกว่าและอุณหภูมิสูงกว่าจานเบรกใหญ่ แต่ถ้าจานเบรกเล็กแล้วลองเบรกแรงๆ ทุก 5 วินาที ถ้าไม่มีปัญหาเบรก FADE ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นจานเบรกใหญ่ให้รถหนักและกระเป๋าเบา นอกจากอยากอวดเพื่อนว่าใส่จานเบรกใหญ่ 15 นิ้ว ถ้าอย่างนั้นต้องเปลี่ยนล้อแม็กลายโปร่งๆ ด้วย ไม่ใช่ให้ระบายความร้อนดีแต่เพื่อนจะได้เห็นจานเบรกและคาลิเปอร์ชัดๆ
THAIDRIVER • แล้วถ้าเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นจาก 12 นิ้ว เป็น 15 นิ้ว เบรกเต็มที่แล้วล้อไม่ล็อก จะช่วยลดระยะการเบรกจากทุกความเร็วหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • ช่วยได้ เปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นช่วยให้เบรกดีขึ้นแน่ แต่ต้องแน่ใจว่าลิมิตไม่ได้อยู่ที่ยาง ไม่ใช่เปลี่ยนจานเบรกจาก1,000 เป็น 1,500 NEGATIVE HORSEPOWER แต่ยางรับได้แค่ 1,200ก็จะได้ประโยชน์เรื่องการอมและคายความร้อนเป็นสำคัญ แต่ลดระยะเบรกได้บ้างเล็กน้อย
THAIDRIVER • ถ้าเบรกไม่ถึงลิมิตของยาง แค่แตะเบรกด้วยแรงดันหนึ่ง ซึ่งเท่ากันทั้งตอนใส่จานเบรก 12 นิ้วและ 15 นิ้ว ระยะเบรกจะสั้นลงหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • ถ้าแตะเบรกด้วยแรงเท่ากัน เปลี่ยนเฉพาะจานเบรกใหญ่ขึ้น ใช้กับคาลิเปอร์เดิม (แต่แก้ขายึดใหม่) จานที่ใหญ่กว่าจะให้ RADIUS ของ TORQUE ARM ยาวขึ้น ฉะนั้นด้วยแรงกดที่เท่ากัน ระยะเบรกจะสั้นลงถ้าชอบ TRACK DAY โดยไม่เป็นนักแข่ง การเปลี่ยนจานเบรกใหญ่จะให้ประโยชน์ รถคันใหญ่ใส่ล้อ 20 นิ้ว จานเบรก 15 นิ้วเบรกที่ความเร็วสูงบ่อยๆ ก็ไม่ FADE แต่ถ้าใส่จานเบรก 12 นิ้วเหยียบเบรกทุก 5 วินาที ขับไป 2 รอบคนขับจะหัวใจวายเพาะเบรกหายจมพื้น แต่ถ้าใช้จานเบรก 12 นิ้วในชีวิตประจำวัน ขับไปทำงานขับไปเรียนหนังสือ นานๆ จะเหยียบเบรกสักครั้ง ร้องเพลงจบ 1เพลงเพิ่งเหยียบเบรกไป 2 ครั้ง แต่ละครั้งที่เหยียบก็ไม่ได้แช่นานความเร็วก็ไม่สูง จานเบรกเดิมก็พอแล้ว
THAIDRIVER • ยางดี เบรกดี แต่ถนนไม่ดี เพราะมีเศษขยะอยู่บนถนนจะมีผลอย่างไร?
อ. ศิริบูรณ์ • หน้ายางก็สัมผัสถนนไม่เต็มที่ เพราะขยะมาแทรกตัวระหว่างหน้าสัมผัส จานเบรกใหญ่ คาลิเปอร์หลายพอตก็ช่วยอะไรไม่ได้ในเรื่องระยะเบรก ช่วยแค่การระบายความร้อน แต่ล้อแม็กต้องอำนวยความสะดวกในการระบายความร้อนด้วยนะรถเดิมระบบเบรกเดิมจากโรงงาน ใส่ผ้าเบรกเกรด LOWSPEED ทนความร้อนสูงสุดได้สัก 250 องศาเซลเซียส เพราะอยากให้เบรกที่ความเร็วต่ำแล้วหยุดได้ดี เบรกนุ่มนวล และเสียงไม่ดังเจ้าของซื้อรถไปขับลงเขา แตะเบรกไปเรื่อย อุณหภูมิที่ผ้าเบรก และจานเบรกก็สูงขึ้นเรื่อยๆ พอร้อนเกิน 250 องศาเซลเซียสก็เลยเบรกไม่อยู่ คนขับเข้าใจผิดว่าเบรกเดิมติดรถไม่เพียงพอ ต้องเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้น คาลิเปอร์ตัวใหญ่หลายพอต จะได้หนีบจานเบรกแน่นๆ แบบนี้ถ้าหลงเข้าไปที่สำนักแต่งสักแห่ง พอบอกเฮียเจ้าของร้านว่าต้องการเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นและคาลิเปอร์หลายพอตเฮียก็ชักชวนให้เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ด้วย โดยเลือกผ้าเบรกแข็งขึ้นทนความร้อนสูงขึ้นเป็น 350 องศาเซลเซียสเจ้าของรถจ่ายเงินก้อนโตแล้วไปลองขับลงเขาคราวนี้ผ้าเบรกไม่ FADE ก็เลยเข้าใจว่าเป็นเพราะเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ กับคาลิเปอร์ที่ยาวเกือบศอก ทั้งที่ความจริงเปลี่ยนแค่ผ้าเบรกก็พอแล้วเลือกเกรดที่ทนความร้อนได้สูง แต่เวลาเบรกจะมีเสียงดังหน่อยหลายครั้งที่ปัญหาไม่ได้เกิดจากจานเบรกเล็กเกินไป หรือคาลิเปอร์มีพอตน้อยเกินไป แต่เป็นเพราะเกรดของผ้าเบรกไม่ตรงกับการใช้งานบางประเภท เช่น ขับลงเขาบ่อยๆ ต้องใช้ผ้าเบรกแข็งขึ้นแน่ต้องทนความร้อนและถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าของเดิม แค่เปลี่ยนผ้าเบรกก็จบ แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปภายในความเร็วตามกฎหมาย ผ้าเบรกติดรถก็อาจจะเพียงพอแล้ว
THAIDRIVER • รถบรรทุกขับลงเขา ระหว่างเบรก-ปล่อยสลับกันไปเรื่อยๆ กับปล่อยไหลแล้วนานๆ กดเบรกแรงๆ สักครั้ง แบบไหนจะทำให้ความร้อนสะสมในระบบเบรกน้อยกว่ากัน
อ. ศิริบูรณ์ • ที่ว่าเบรกหนักๆ ผมเข้าใจว่าไม่ได้เว้นช่วงนาน แต่เบรกลึกแล้วถอนเพื่อให้ระบบเบรกคลายความร้อน จากนั้นก็เบรกหนักๆ ลงไปใหม่ในการเบรกหนัก ต้องแน่ใจว่าเบรกแล้วความร้อนสะสมไม่เกินความร้อนสูงสุดที่ผ้าเบรกรับได้ เช่น ผ้าเบรกทนความร้อนได้ 300องศาเซลเซียส ก็เบรกหนักถึง 300 องศาเซลเซียสแล้วถอนขับรถบรรทุกลงเขาด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เบรกหนักจนความร้อนของผ้าเบรกขึ้นไปถึง 300 องศาเซลเซียส ความเร็วลดลงเหลือ 80 กม./ชม. แล้วถอนเท้าออกจากแป้นเบรก ความเร็วของรถก็เพิ่มขึ้นไปอีกเพราะลงเนิน ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคนขับและคนนั่งขนหัวลุก จากนั้นก็เบรกหนักๆ อีกครั้งอีกกรณีย้ำเบรกบ่อยๆ ขับมา 100 กม./ชม. แล้วเบรกไปแค่200 องศาเซลเซียส ความร้อนสะสมที่ผ้าเบรกไม่สูง แต่เวลาในการคายความร้อนออกก็มีไม่มากเพราะย้ำเบรกบ่อยๆถ้าเวลาในการคายความร้อนมีน้อยเกินไป คนขับก็ย้ำเบรกเป็นจังหวะ ความร้อนที่ผ้าเบรกก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยจนกระทั่งอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่ผ้าเบรกจะรับไหว เพราะฉะนั้นการย้ำเบรกบ่อยๆ ผ้าเบรก__ผ้าเบรกอาจจะร้อนกว่าการเบรกหนักๆ แล้วถอน ผมใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะไม่รู้ว่าผ้าเบรกทนความร้อนสูงสุดได้เท่าไร และไม่รู้ว่าการระบายความร้อนของซุ้มล้อและดรัมเบรกของรถ 10 ล้อนั้นเป็นอย่างไรถ้าจะให้ตอบเรื่องนี้ได้ก็ต้องดูว่า ความร้อนที่ฝากเข้าไป กับความร้อนที่ระบายออกมานั้น มีสัดส่วนเป็นอย่างไร ฝากมากกว่าก็FADE ถ้าระบายได้มากกว่าก็ไม่ FADE
THAIDRIVER • ความร้อนเกิดขึ้นในระบบเบรกที่ส่วนไหน ผ้าเบรก จานเบรก หรือน้ำมันเบรก
อ. ศิริบูรณ์ • เมื่อระบบเบรก OVERHEAT จะเกิดความเสียหายได้ 2 อย่าง อย่างหนึ่งก็คือ ความฝืด เมื่อร้อนเกินไปความฝืดจะลดลง เมื่อความร้อนที่หน้าสัมผัสมีมากขึ้น ก็จะถ่ายเทไปที่ผ้าเบรกและส่งต่อไปยังลูกสูบ ซึ่งจะส่งต่อไปที่น้ำมันเบรก เมื่อน้ำมันเบรกเดือดก็จะกลายเป็นของเหลวที่ยุบตัวได้ (COMPRESSABLE LIQUID)เหยียบเบรกแล้วไม่มีแรงกดส่งไปที่ผ้าเบรก ที่มักเรียกกันว่าเบรกแตกทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรแตก
THAIDRIVER • น้ำมันเบรกที่ OVERHEAT ไปแล้ว เมื่อกลับสู่อุณหภูมิปกติจะใช้งานได้อีกหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • OVERHEAT แล้วเสื่อมสภาพไปเลย ใช้งานอีกไม่ได้ เรียกว่าปลุกไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ถ้าคนขับรอดชีวิตกลับมาได้ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกใหม่ทั้งระบบ
THAIDRIVER • คาลิเปอร์ฝักใหญ่หลายพอต มันดีตรงไหน?
อ. ศิริบูรณ์ • คาลิเปอร์หลายพอต ต้องดูด้วยว่าพอตใหญ่หรือเล็ก ถ้ามี 8 พอต แต่ละพอตขนาดเท่าหัวแม่มือเด็ก ประสิทธิภาพการเบรกจะสู้ 4 พอตที่แต่ละพอตมีขนาดหน้าตัดใหญ่กว่าเกินสองเท่าไม่ได้สาเหตุที่ที่ต้องทำคาลิเปอร์ 8 พอตหรือหลายพอต เพราะคาลิเปอร์ตัวยาว ผ้าเบรกแผ่นยาว ก็เลยต้องเปลี่ยนคาลิเปอร์ให้มีหลายพอต ถ้าใช้ผ้าเบรกแผ่นสั้นๆ ใช้คาลิเปอร์พอตเดียวใหญ่ๆ ก็ได้ผลบางคนเข้าใจผิดว่าผ้าเบรกที่ใหญ่และหนาจะช่วยให้เบรกได้ดีกว่า คำตอบ คือ ไม่ใช่ ถ้าผ้าเบรกเนื้อเดียวกัน ชิ้นที่เล็กกว่าจะสร้างTORQUE ต่อพื้นที่ได้สูงกว่า แต่ผ้าเบรกแผ่นเล็กก็มีข้อเสียคือ ร้อนเร็วกว่า ผ้าเบรกใหญ่ OVERHEAT ยากกว่า เพราะอมความร้อนได้มากกว่าเนื่องจากมีเนื้อมากกว่า แต่แรงกดต่อพื้นที่น้อยกว่าสาเหตุที่รถแข่งบางประเภทใช้ผ้าเบรกแผ่นใหญ่ เพราะลดโอกาส OVERHEAT เนื่องจากต้องเบรกหนักๆ ที่ความเร็วสูงบ่อยๆแต่คนขับก็ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าเดิมด้วยนะ ถ้าลูกสูบที่ปลายเท้ายังเป็นของเดิมขนาดเท่าเดิม เปลี่ยนคาลิเปอร์เป็น 8 พอต ซึ่งมีขนาดลูกสูบโตเท่ากับลูกสูบ 4 พอตในคาลิเปอร์เดิม แสดงว่ามีเนื้อที่เท่ากัน แต่เนื่องจากหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น ก็ต้องสร้างแรงดันต่อพื้นที่ (หน่วยเป็นตารางมิลลิเมตร) ให้เท่ากับของเดิมด้วยการออกแรงเหยียบเบรกมากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนลูกสูบ 8พอตที่คาลิเปอร์ให้มีพื้นที่มากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนลูกสูบตัวบน(MASTER CYLINDER) ให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้เบรกลึกกว่าเดิมเรื่องนี้อย่านับแค่จำนวนพอต ต้องนับพื้นที่ แล้วดูว่าผ้าเบรกมีพื้นที่หน้าตัดมากกว่าเดิมหรือไม่ เอาพื้นที่หน้าตัดของผ้าเบรก หารกับพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ ว่าอยู่ในอัตราเดียวกับของเดิม (ก่อนเปลี่ยนคาลิเปอร์) หรือไม่ ถ้ามากกว่าเดิมก็ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากขึ้น
ระบบเบรครถยนต์
THAIDRIVER • ที่บอกว่าแรงเบรก 750 NEGATIVE HORSEPOWER ยางมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแค่ไหน เพราะยางต้องสัมผัสพื้น
อ. ศิริบูรณ์ • สมมุติรถมีแรงเบรก 750 NEGATIVE HORSEPOWER แต่ยางแคบนิดเดียว เบรกออกแรงไปแค่ 800 ยางก็ไถลล็อกซะแล้ว แบบนี้แสดงว่ายางเป็นลิมิต ถ้าเบรกเต็มเท้าแล้วล้อล็อก แสดงว่าเบรกดีกว่ายาง ถ้าอยากให้เบรกดีขึ้นก็ต้องเปลี่ยนยางถ้าถอดฟิวส์เอบีเอสออกแล้วกระทืบเบรกเต็มเหยียด ล้อก็ไม่เคยล็อก ยางก็ไม่เคยไถ แสดงว่ายางดีกว่าเบรก แบบนี้ลิมิตอยู่ที่ระบบเบรก ปรับปรุงระบบเบรกเพิ่มเติมแล้วจะได้ประโยชน์ เช่น เบรกด้วยระยะทางสั้นลง ถ้าระบบเบรกเดิมจากโรงงาน เบรกแรงๆ ทีไรล้อก็ล็อกทุกทีอยู่แล้ว หรือเบรกแล้วเอบีเอสทำงานเขย่าลูกหมากจนแทบจะหลุด แล้วยังทะลึ่งไปเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นจากเดิม 12 นิ้ว เป็น 14 หรือ 15 นิ้ว จะเปลี่ยนไปทำไมให้เสียเงิน จานเบรกใหญ่มีข้อดีคือ สามารถเบรกหนักๆ ‘ซ้ำแล้วซ้ำอีก’ได้โดยไม่ OVERHEAT เพราะจานเบรกใหญ่มีเนื้อให้อมความร้อนได้มากกว่า และถ่ายเทความร้อนออกได้เร็วกว่าจานเบรกเล็ก ทำให้เบรกซ้ำๆ ได้โดยไม่เสียประสิทธิภาพการเบรก แต่ถ้าจานเบรกเดิม 12 นิ้ว เบรกเต็มแรงทีไรเอบีเอสก็ทำงานทุกที แสดงว่าเหลือเฟือแล้วในเรื่องการเก็บความร้อน แต่ในเรื่องการระบายความร้อน เนื่องจากมีเนื้อที่ของจานแค่ 12 นิ้ว ย่อมระบายความร้อนได้ช้ากว่า 15 นิ้ว แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะถ้าจานเบรกใหญ่เต็มล้อ แถมใส่ล้อลายทึบอีกด้วย จานเบรกใหญ่ อมความร้อนไว้จนแก้มตุ่ย แต่ระบายออกไม่ได้ เบรกหนักๆ ถี่ๆ ก็จะเริ่ม FADE เหมือนกัน การเบรกจากรถคันเดียวกันและใช้ความเร็วเท่ากัน จานเบรกเล็กจะร้อนเร็วกว่าและอุณหภูมิสูงกว่าจานเบรกใหญ่ แต่ถ้าจานเบรกเล็กแล้วลองเบรกแรงๆ ทุก 5 วินาที ถ้าไม่มีปัญหาเบรก FADE ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นจานเบรกใหญ่ให้รถหนักและกระเป๋าเบา นอกจากอยากอวดเพื่อนว่าใส่จานเบรกใหญ่ 15 นิ้ว ถ้าอย่างนั้นต้องเปลี่ยนล้อแม็กลายโปร่งๆ ด้วย ไม่ใช่ให้ระบายความร้อนดีแต่เพื่อนจะได้เห็นจานเบรกและคาลิเปอร์ชัดๆ
THAIDRIVER • แล้วถ้าเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นจาก 12 นิ้ว เป็น 15 นิ้ว เบรกเต็มที่แล้วล้อไม่ล็อก จะช่วยลดระยะการเบรกจากทุกความเร็วหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • ช่วยได้ เปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นช่วยให้เบรกดีขึ้นแน่ แต่ต้องแน่ใจว่าลิมิตไม่ได้อยู่ที่ยาง ไม่ใช่เปลี่ยนจานเบรกจาก1,000 เป็น 1,500 NEGATIVE HORSEPOWER แต่ยางรับได้แค่ 1,200ก็จะได้ประโยชน์เรื่องการอมและคายความร้อนเป็นสำคัญ แต่ลดระยะเบรกได้บ้างเล็กน้อย
THAIDRIVER • ถ้าเบรกไม่ถึงลิมิตของยาง แค่แตะเบรกด้วยแรงดันหนึ่ง ซึ่งเท่ากันทั้งตอนใส่จานเบรก 12 นิ้วและ 15 นิ้ว ระยะเบรกจะสั้นลงหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • ถ้าแตะเบรกด้วยแรงเท่ากัน เปลี่ยนเฉพาะจานเบรกใหญ่ขึ้น ใช้กับคาลิเปอร์เดิม (แต่แก้ขายึดใหม่) จานที่ใหญ่กว่าจะให้ RADIUS ของ TORQUE ARM ยาวขึ้น ฉะนั้นด้วยแรงกดที่เท่ากัน ระยะเบรกจะสั้นลงถ้าชอบ TRACK DAY โดยไม่เป็นนักแข่ง การเปลี่ยนจานเบรกใหญ่จะให้ประโยชน์ รถคันใหญ่ใส่ล้อ 20 นิ้ว จานเบรก 15 นิ้วเบรกที่ความเร็วสูงบ่อยๆ ก็ไม่ FADE แต่ถ้าใส่จานเบรก 12 นิ้วเหยียบเบรกทุก 5 วินาที ขับไป 2 รอบคนขับจะหัวใจวายเพาะเบรกหายจมพื้น แต่ถ้าใช้จานเบรก 12 นิ้วในชีวิตประจำวัน ขับไปทำงานขับไปเรียนหนังสือ นานๆ จะเหยียบเบรกสักครั้ง ร้องเพลงจบ 1เพลงเพิ่งเหยียบเบรกไป 2 ครั้ง แต่ละครั้งที่เหยียบก็ไม่ได้แช่นานความเร็วก็ไม่สูง จานเบรกเดิมก็พอแล้ว
THAIDRIVER • ยางดี เบรกดี แต่ถนนไม่ดี เพราะมีเศษขยะอยู่บนถนนจะมีผลอย่างไร?
อ. ศิริบูรณ์ • หน้ายางก็สัมผัสถนนไม่เต็มที่ เพราะขยะมาแทรกตัวระหว่างหน้าสัมผัส จานเบรกใหญ่ คาลิเปอร์หลายพอตก็ช่วยอะไรไม่ได้ในเรื่องระยะเบรก ช่วยแค่การระบายความร้อน แต่ล้อแม็กต้องอำนวยความสะดวกในการระบายความร้อนด้วยนะรถเดิมระบบเบรกเดิมจากโรงงาน ใส่ผ้าเบรกเกรด LOWSPEED ทนความร้อนสูงสุดได้สัก 250 องศาเซลเซียส เพราะอยากให้เบรกที่ความเร็วต่ำแล้วหยุดได้ดี เบรกนุ่มนวล และเสียงไม่ดังเจ้าของซื้อรถไปขับลงเขา แตะเบรกไปเรื่อย อุณหภูมิที่ผ้าเบรก และจานเบรกก็สูงขึ้นเรื่อยๆ พอร้อนเกิน 250 องศาเซลเซียสก็เลยเบรกไม่อยู่ คนขับเข้าใจผิดว่าเบรกเดิมติดรถไม่เพียงพอ ต้องเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้น คาลิเปอร์ตัวใหญ่หลายพอต จะได้หนีบจานเบรกแน่นๆ แบบนี้ถ้าหลงเข้าไปที่สำนักแต่งสักแห่ง พอบอกเฮียเจ้าของร้านว่าต้องการเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ขึ้นและคาลิเปอร์หลายพอตเฮียก็ชักชวนให้เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ด้วย โดยเลือกผ้าเบรกแข็งขึ้นทนความร้อนสูงขึ้นเป็น 350 องศาเซลเซียสเจ้าของรถจ่ายเงินก้อนโตแล้วไปลองขับลงเขาคราวนี้ผ้าเบรกไม่ FADE ก็เลยเข้าใจว่าเป็นเพราะเปลี่ยนจานเบรกใหญ่ กับคาลิเปอร์ที่ยาวเกือบศอก ทั้งที่ความจริงเปลี่ยนแค่ผ้าเบรกก็พอแล้วเลือกเกรดที่ทนความร้อนได้สูง แต่เวลาเบรกจะมีเสียงดังหน่อยหลายครั้งที่ปัญหาไม่ได้เกิดจากจานเบรกเล็กเกินไป หรือคาลิเปอร์มีพอตน้อยเกินไป แต่เป็นเพราะเกรดของผ้าเบรกไม่ตรงกับการใช้งานบางประเภท เช่น ขับลงเขาบ่อยๆ ต้องใช้ผ้าเบรกแข็งขึ้นแน่ต้องทนความร้อนและถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าของเดิม แค่เปลี่ยนผ้าเบรกก็จบ แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปภายในความเร็วตามกฎหมาย ผ้าเบรกติดรถก็อาจจะเพียงพอแล้ว
THAIDRIVER • รถบรรทุกขับลงเขา ระหว่างเบรก-ปล่อยสลับกันไปเรื่อยๆ กับปล่อยไหลแล้วนานๆ กดเบรกแรงๆ สักครั้ง แบบไหนจะทำให้ความร้อนสะสมในระบบเบรกน้อยกว่ากัน
อ. ศิริบูรณ์ • ที่ว่าเบรกหนักๆ ผมเข้าใจว่าไม่ได้เว้นช่วงนาน แต่เบรกลึกแล้วถอนเพื่อให้ระบบเบรกคลายความร้อน จากนั้นก็เบรกหนักๆ ลงไปใหม่ในการเบรกหนัก ต้องแน่ใจว่าเบรกแล้วความร้อนสะสมไม่เกินความร้อนสูงสุดที่ผ้าเบรกรับได้ เช่น ผ้าเบรกทนความร้อนได้ 300องศาเซลเซียส ก็เบรกหนักถึง 300 องศาเซลเซียสแล้วถอนขับรถบรรทุกลงเขาด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เบรกหนักจนความร้อนของผ้าเบรกขึ้นไปถึง 300 องศาเซลเซียส ความเร็วลดลงเหลือ 80 กม./ชม. แล้วถอนเท้าออกจากแป้นเบรก ความเร็วของรถก็เพิ่มขึ้นไปอีกเพราะลงเนิน ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคนขับและคนนั่งขนหัวลุก จากนั้นก็เบรกหนักๆ อีกครั้งอีกกรณีย้ำเบรกบ่อยๆ ขับมา 100 กม./ชม. แล้วเบรกไปแค่200 องศาเซลเซียส ความร้อนสะสมที่ผ้าเบรกไม่สูง แต่เวลาในการคายความร้อนออกก็มีไม่มากเพราะย้ำเบรกบ่อยๆถ้าเวลาในการคายความร้อนมีน้อยเกินไป คนขับก็ย้ำเบรกเป็นจังหวะ ความร้อนที่ผ้าเบรกก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยจนกระทั่งอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่ผ้าเบรกจะรับไหว เพราะฉะนั้นการย้ำเบรกบ่อยๆ ผ้าเบรก__ผ้าเบรกอาจจะร้อนกว่าการเบรกหนักๆ แล้วถอน ผมใช้คำว่า ‘อาจจะ’ เพราะไม่รู้ว่าผ้าเบรกทนความร้อนสูงสุดได้เท่าไร และไม่รู้ว่าการระบายความร้อนของซุ้มล้อและดรัมเบรกของรถ 10 ล้อนั้นเป็นอย่างไรถ้าจะให้ตอบเรื่องนี้ได้ก็ต้องดูว่า ความร้อนที่ฝากเข้าไป กับความร้อนที่ระบายออกมานั้น มีสัดส่วนเป็นอย่างไร ฝากมากกว่าก็FADE ถ้าระบายได้มากกว่าก็ไม่ FADE
THAIDRIVER • ความร้อนเกิดขึ้นในระบบเบรกที่ส่วนไหน ผ้าเบรก จานเบรก หรือน้ำมันเบรก
อ. ศิริบูรณ์ • เมื่อระบบเบรก OVERHEAT จะเกิดความเสียหายได้ 2 อย่าง อย่างหนึ่งก็คือ ความฝืด เมื่อร้อนเกินไปความฝืดจะลดลง เมื่อความร้อนที่หน้าสัมผัสมีมากขึ้น ก็จะถ่ายเทไปที่ผ้าเบรกและส่งต่อไปยังลูกสูบ ซึ่งจะส่งต่อไปที่น้ำมันเบรก เมื่อน้ำมันเบรกเดือดก็จะกลายเป็นของเหลวที่ยุบตัวได้ (COMPRESSABLE LIQUID)เหยียบเบรกแล้วไม่มีแรงกดส่งไปที่ผ้าเบรก ที่มักเรียกกันว่าเบรกแตกทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรแตก
THAIDRIVER • น้ำมันเบรกที่ OVERHEAT ไปแล้ว เมื่อกลับสู่อุณหภูมิปกติจะใช้งานได้อีกหรือไม่
อ. ศิริบูรณ์ • OVERHEAT แล้วเสื่อมสภาพไปเลย ใช้งานอีกไม่ได้ เรียกว่าปลุกไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ถ้าคนขับรอดชีวิตกลับมาได้ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกใหม่ทั้งระบบ
THAIDRIVER • คาลิเปอร์ฝักใหญ่หลายพอต มันดีตรงไหน?
อ. ศิริบูรณ์ • คาลิเปอร์หลายพอต ต้องดูด้วยว่าพอตใหญ่หรือเล็ก ถ้ามี 8 พอต แต่ละพอตขนาดเท่าหัวแม่มือเด็ก ประสิทธิภาพการเบรกจะสู้ 4 พอตที่แต่ละพอตมีขนาดหน้าตัดใหญ่กว่าเกินสองเท่าไม่ได้สาเหตุที่ที่ต้องทำคาลิเปอร์ 8 พอตหรือหลายพอต เพราะคาลิเปอร์ตัวยาว ผ้าเบรกแผ่นยาว ก็เลยต้องเปลี่ยนคาลิเปอร์ให้มีหลายพอต ถ้าใช้ผ้าเบรกแผ่นสั้นๆ ใช้คาลิเปอร์พอตเดียวใหญ่ๆ ก็ได้ผลบางคนเข้าใจผิดว่าผ้าเบรกที่ใหญ่และหนาจะช่วยให้เบรกได้ดีกว่า คำตอบ คือ ไม่ใช่ ถ้าผ้าเบรกเนื้อเดียวกัน ชิ้นที่เล็กกว่าจะสร้างTORQUE ต่อพื้นที่ได้สูงกว่า แต่ผ้าเบรกแผ่นเล็กก็มีข้อเสียคือ ร้อนเร็วกว่า ผ้าเบรกใหญ่ OVERHEAT ยากกว่า เพราะอมความร้อนได้มากกว่าเนื่องจากมีเนื้อมากกว่า แต่แรงกดต่อพื้นที่น้อยกว่าสาเหตุที่รถแข่งบางประเภทใช้ผ้าเบรกแผ่นใหญ่ เพราะลดโอกาส OVERHEAT เนื่องจากต้องเบรกหนักๆ ที่ความเร็วสูงบ่อยๆแต่คนขับก็ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าเดิมด้วยนะ ถ้าลูกสูบที่ปลายเท้ายังเป็นของเดิมขนาดเท่าเดิม เปลี่ยนคาลิเปอร์เป็น 8 พอต ซึ่งมีขนาดลูกสูบโตเท่ากับลูกสูบ 4 พอตในคาลิเปอร์เดิม แสดงว่ามีเนื้อที่เท่ากัน แต่เนื่องจากหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น ก็ต้องสร้างแรงดันต่อพื้นที่ (หน่วยเป็นตารางมิลลิเมตร) ให้เท่ากับของเดิมด้วยการออกแรงเหยียบเบรกมากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนลูกสูบ 8พอตที่คาลิเปอร์ให้มีพื้นที่มากขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนลูกสูบตัวบน(MASTER CYLINDER) ให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้เบรกลึกกว่าเดิมเรื่องนี้อย่านับแค่จำนวนพอต ต้องนับพื้นที่ แล้วดูว่าผ้าเบรกมีพื้นที่หน้าตัดมากกว่าเดิมหรือไม่ เอาพื้นที่หน้าตัดของผ้าเบรก หารกับพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบ ว่าอยู่ในอัตราเดียวกับของเดิม (ก่อนเปลี่ยนคาลิเปอร์) หรือไม่ ถ้ามากกว่าเดิมก็ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากขึ้น