เดือนสองเดือนที่ผ่านมา วุ่นวายกับเจ้า CR-V นี่แหละ .. เรื่องของเรื่องคือ เบรคหน้าขวา ติดอีกละ !!! ดีได้ 2 ปี ติดอีก อะไรกันฟะ

ด้วยความใจร้อน ก็ไลน์บอกศูนย์เลย "สั่งคาลิปเปอร์เบรค 4 ล้อ / ท่ออ่อนน้ำมันเบรค ทั้ง 4 เส้น ให้ด้วย" เปลี่ยนมันให้หมด แล้วก็พอดี เจอช่วงของขาด คาลิปเปอร์หลังซ้ายของหมด (ของที่มีในสต็อค อายุเกิน 2 ปี HONDA ไม่ปล่อยขายให้ลูกค้า ต้อง Air Freight มาใหม่ รอไปราวๆ 3 สัปดาห์

แล้วก็ นึกไงไม่รู้ เดินไปวัดความหนาจานเบรคหน้า - หลัง .. ผลก็คือ บางกว่าค่า Min เกือบๆ 5 มม ทุกล้อ !!! ... นี่แหละ สาเหตุที่เบรคติด เพราะ  ทำเบรครอบก่อน ผมเปลี่ยนผ้าเบรคมา 4 ล้อ มันก็ชดเชยความหนาจานไป จนปีใหม่ ผมลงเขา ใช้เบรคเยอะ มีกลิ่นไหม้บางๆ น้ำมันเบรคลด (แปลว่า ผ้าเบรคบางลง) และตอนสงกรานต์ ผมเบรคกระทันหัน abs ทำงาน หลังจากนั้นก็เริ่มเบรคแล้วดึง .. เพราะผ้าเบรค ถูกดันออกมาเยอะไป แล้วหดกลับไม่ได้ ไม่สุดครับ

จริงๆ เปลี่ยนจานเบรคใหม่ ถอดคาลิปเปอร์มาดันลูกสูบเข้า ก็จบละ ไม่กี่สตางค์ แต่ไหนๆก็ไหนๆ สั่งไปแล้ว ก็ลุยต่อละกัน

จานเบรค / ผ้าเบรค สั่ง Dixcel ไปเหมือนเดิม
จาน Dixcel Type SD หน้า 13,000 บาท
จาน Dixcel Type SD หลัง 11,000 บาท
ผ้าเบรค Dixcel Type ES หน้า 4,200 บาท
ผ้าเบรค Dixcel Type ES หลัง 3,800 บาท

พอคาลิปเปอร์มา จานเบรค ดันออกจากตู้ไม่ทันอีก ถ้าจะรอก็ยาวเลย (ผมติดธุระ) จะใส่จานเดิม เดี๋ยวก็ติดอีก งั้น หาจานถูกๆสำรองใส่ละกัน

จาน Brembo หน้า 2,400 บาท
จาน Brembo หลัง 1,950 บาท

จากนั้น ก็ให้พี่ที่ทำงาน ช่วยพาขึ้นยานแม่ จาก ปราจีน เข้า กทม. สักหน่อย แบบไม่เสียสตางค์


ส่วนผม ก็ขับ "นังสามสูบ" ตามไปรอรับที่ศูนย์ HONDA


เช้ารุ่งขึ้นค่อยมาติดต่อ เบ็ดเสร็จ จ่ายเฉพาะในส่วนของศูนย์ไป ..


ตอนไล่น้ำมันเบรค .. ผจก.ศูนย์ ขึ้นไปไล่เองบนรถ ส่วนผมก็ยืนให้กำลังใจช่างข้างๆนี่แหละ ทำเสร็จ ผจก ขับออกมา แล้วบอกให้ผมเอารถไปลองสักรอบ เห็นแปลกๆเลยถามว่า มีอะไร ? เค้าบอก เบรคมันไวมาก .. เลยบอกไม่เป็นไร เอาแค่ ไม่จม ถือว่า ไล่ไม่มีฟองอากาศก็ผ่านละ



ฟิลลิ่ง Dixcel Type ES + จาน Brembo OEM
- อันที่จริง ผมเคยใช้ ES มาแล้ว ตอน Mazda 2 นะ แต่คันนั้นหลังดรัม ใช้แค่ข้างหน้า กับ จานติดรถ แต่ตอนนั้น CRV มันใช้ผ้า Type X อยู่ ไวมาก ไวสุดๆ เลยมาขับ 2 แล้ว เฉยๆ แอบบ่นว่า มันไหลด้วยซ้ำ (แต่คนอื่นที่ขับ 2 เค้าบอกว่า เบรคไวมากนะ)

- ทีแรก ตอนสั่ง ผมจะเอา M เหมือนเดิมแหละ แต่ของไม่มี ต้องรอสั่งรอบใหม่ แต่ถ้าเอา ES มีของเลย นั่งดูสเปค 
ES ทนร้อน 600 องศา / M ทนร้อน 500 องศา
ES ค่าความฝืดต่ำกว่า (0.35) / M ค่าความฝืดสูงกว่า (0.4)

- คือ เห็นสเปคแค่นี้ ก็ต้องบอกว่า M ดีกว่าแหงๆ แต่เอาเข้าจริง ผิดคาดแฮะ

เบรคมันไวมาก สะกิดปุ๊บ พวกจับหัวทิ่มทันที อะไรฟะเนี่ย !! ในขณะที่ตอนเป็น M จะจับนุ่มๆ ขับธรรมดา แทบจะเหมือนเบรคติดรถด้วย จนต้องเบรคกระทันหัน มันจะเหมือนมีก๊อกสอง พอก๊อกสองทำงาน คราวนี้ล่ะ Dixcel มาแล้ว จับแน่น จับตามน้ำหนักเท้า เน้นแรงๆทีเดียวอยู่ (M น่าจะเหมาะกับพวกรถใหญ่ขับนุ่มๆ เบรคนิ่มๆ เจ้าของรถไม่ผงกหัวเวลาเบรค น่ะครับ)

ไม่เป็นไร ใช้ไปก่อน ... แต่จริงๆก็ไม่ได้ใช้หรอก เอากลับมาปราจีน ก็จอดแหละ

ฟิลลิ่ง Dixcel Type ES + จาน Dixcel Type SD
- และแล้ว จาน Dixcel Type SD ก็ออกจากท่าเรือมาได้ แต่ชักกลัวแล้วสิ จานเรียบๆ พวกยังจับหัวทิ่ม มาเจอจานเซาะร่อง ที่ผู้ผลิตบอกว่า มันจะสร้าง friction ได้เพิ่มขึ้น 15% ไม่แย่เหรอเนี่ย ... แต่สั่งไปแล้วไง ยังไงก็ต้องใส่

- ยอมขับรถมาเข้าศูนย์ที่ กทม นะ เจอเคส city แล้ว ไม่คิดจะเข้าปราจีนอีกเลย ทั้งที่งานง่ายๆนี่แหละ


- ใส่เสร็จ ขับออกมา .. เฮ้ยยย ผิดคาด อาการเบรคไว สะกิดเป็นจับ ชวนเวียนหัว หายหมดละ กลายเป็นนิสัยเดิมที่ผมคุ้นเคย ช่วงแรก มีระยะฟรีนิดนึง หลังจากนั้นก็จับ พอจับแล้วก็ตามเท้าเลย จะหนัก จะเบา สั่งได้หมด เอาว่า นิสัยคล้าย Type X ที่เคยประทับใจ แต่รายนั้น ค่าความฝืดสูงกว่า ดึงหนักกว่าครับ 

- กลายเป็น ES ขับสนุกกว่า M เยอะเลย เบรคไวในระดับกำลังดี สำหรับคนชอบมุด ไม่ต้องกดลึก .. ที่สำคัญ ขับ CR-V แล้ว มาขับ Pulsar ที่ใส่ M กับ City ที่ใส่ Premium ... แม่มเอ้ยยย ทำไมเบรคไม่อยู่ฟะ !!!

หมดเคราะห์ หมดโศก สักที เรื่องเบรค

ส่วน จาน Brembo ที่ใส่วิ่งแค่ 500 กม. กับ ผ้า Dixcel Type M ที่ถอดออกมา (เหลือเกิน 80%) เดี๋ยวเอาไปใส่ CRV ของน้องสาวครับ รายนั้น 2 แสนกม. จานยังเดิม ไม่งั้นเดี๋ยวมันงานเข้าแบบผม