7.5 ตอนที่ 22 เรื่อง Meeting point นิยายดีที่อยากแนะนำ

กระทู้สนทนา
​ ตอนที่ 22 ปะการังรูปภาพ
 
สิ้นสุดอุบัติเหตุ กัปตันเรือตรวจสอบความเรียบร้อย รู้สึกดีใจที่ทุกคนรวมทั้งเจ้าไซแนปปลอดภัย แม้บางคนจะมีรอยถลอกบ้างเล็กน้อย นั้นถึอว่าอยู่ในระดับที่ไม่มีร้ายแรง อดัมและอาเมดกับเพื่อนๆ ช่วยกันเก็บของ
“ซาร่า มิสซู พวกเธอเห็นก้อนดำอะไร” อาเมดสงสัย
 
“ฉันไม่แน่ใจเป็นก้อนหินวางเรียงกันด้านนู่น” ซาร่ายืนยัน
 
“งั้นพวกเราไปกันเถอะ ถ้าไม่พบอะไรที่น่าสนใจ พวกเราต้องรีบกลับเข้าเมือง ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับคนมีสี”
 
“ใช่อาเมดพูดถูก อย่างน้อยเวลาใกล้ดึกแล้ว อย่าลืมช่วงมืดเพิ่มขึ้นด้วยเวลาน่าจะค่ำเร็วขึ้น” อดัมเห็นด้วยกับกัปตันฟุตบอล
 
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราต้องหาที่นอนก่อน” ซาร่าเสนอแนะ
 
“เรานอนตรงลานก้อนหินได้นะ” มิสซูพูดขึ้นบ้าง
 
“ไม่ได้นะครับ การนอนบนพื้นในป่าถือเป็นการฆ่าตัวตาย” จอร์นแทรกเข้ามา
 
“งั้นพวกเราต้องทำไง” ซาร่าถาม
 
“นอนเหนือพื้นครับ การก่อไฟช่วยได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ”
 
“ถ้าอย่างนั้นดูก้อนหินนั้นก่อนดีกว่า จะได้รู้ว่ามันคืออะไร” อดัมอยากออกจากป่า ตนรู้สึกไม่ดีที่เกิดอุบัติเหตุแม้ว่าทุกคนปลอดภัย
อาเมดและเพื่อนทั้งหมดอยากรู้เหมือนกัน ทั้งกลุ่มจึงเดินย้อนกลับ เพื่อดูรอยแหว่งที่อดัมเคยพูดถึง
 
จอร์นเดินกับพวกพี่ๆ แล้วพูดว่า “แถวนี้เคยมีคนอยู่ฮะ”
 
“นายรู้ได้ไง” อดัมสงสัย
 
“ต้นไม้และต้นหญ้าขึ้นช้ากว่าที่อื่นครับ มีการตัดต้นไม้” จอร์นเล่าอย่างภูมิใจ
 
“นายเก่งมากจอร์น” อาเมดกล่าวชม
 
“โตขึ้นผมเป็นกัปตันฟุตบอลเหมือนพี่ได้ไหมครับ”
 
“ได้สิ” อาเมดรับปาก
 
เมื่อทุกคนเดินตามทางอย่างไม่ลำบากมากนัก จริงอย่างที่เด็กป่าพูด เพราะทางเดินแม้จะไม่สะดวกแต่มีรอยของการถางทางเดินไว้แล้ว เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยทั้งกลุ่มเจอเนินไม่ใหญ่มากและช่วยกันจูงมือเพื่อข้ามโขดหินก้อนนั้น
 
 
จนกระทั้ง
 
 
ทั้งหมดพบก้อนหินดำที่วางอยู่ลานกว้างมันดูคล้ายโขดหินปะการังและสะท้อนแสงฟ้าในบางจุด 
เส้นขอบสีทองดูเหมือนตีกรอบระหว่างพื้นที่ของหินดังกล่าว
 
 ​

 
 
 
ภาพจากอินเทอร์เน็ต


 
ทั้งหมดรีบเดินเข้าไปดู แล้วพวกว่าเป็นภาพขาวดำที่เคลือบเงา จากจุดแรกที่พบพวกเขาพบประวัติอธิการบดีคนมีสี พบประวัติอาจารย์วิลเดอร์ เพนฟิลท์และคนที่มีชื่อเสียงของคนมีสี
 
“ไม่น่าเชื่อคนไร้สีจดประวัติคนมีสี”  อาเมดประหลาดใจกับหุบเหวแห่งความทรงจำ “นั้นฉันจำได้กัปตันทีมฟุตบอลรุ่นแรก หมอนั้นถูกบันทึกด้วยหรือเนี้ย”
 
เมื่อเดินผ่านเข้าไปอีก นักเดินทางจะพบคนรุ่นเก่าก่อนหน้าทั้งคนมีสีและไม่มีสี ทั้งพวกคนรุ่นใหม่ที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ละก้อนของหินปะการังจะมีภาพมากมายซึ่งแต่ละภาพจะแสดงประวัติของบุคคลนั้น
 
 
“ว้ายยย...” 
ซาร่าตกใจคนในภาพโขดหินปะการังเคลื่อนไหวได้ เธอหันรอบตัวเห็นจอร์นกำลังเอามือหมุนปะการังไปด้านข้าง “ความซนของเธอทำให้เราพบสิ่งใหม่นะจอร์น”
 
จอร์นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
 
ซาร่าลองหมุนบ้างพบภาพเคลื่อนไหวตามประวัติของแต่ละคน เธอลองเอามือหมุนภาพจากล่างขึ้นไปด้านบน เธอพบใบหน้าของแม่เฒ่าคนไร้สีตั้งแต่ใบหน้าปัจจุบันล่าสุด ย้อนกลับจนกระทั้งเป็นภาพใบหน้าทารก 
“มหัศจรรย์มาก” ซาร่าทึ่งกับหุบเหวแห่งความทรงจำ
 
“คิดแล้วมันแปลกนะ ทำไมไม่มีคนเฝ้าสักคน” อดัมพูดตะโกนจากอีกฝั่ง
 
สิ่งที่อดัมเปล่งเสียงไม่อาจสะกิตให้คนด้านในสนใจ เพราะพวกเขาอยากรู้ประวัติคนมีชื่อเสียงที่พวกเขารู้จัก ดังนั้นอดัมจึงวิ่งตะโกนหาทีละคน
“พวกเราไม่ควรแยกเดินเดี่ยวอย่างน้อยต้องเดินเป็นคู่”
 
อดัมเจออาเมดเป็นคนแรกและวิ่งหาแต่ละคน จนเหลือซาร่า “ซาร่าอยู่ไหน”
 
“ฉันไม่แน่ใจ” มิสซูก็อยากรู้พร้อมจูงมือจอร์น
 
“ไซแนป...ยู้ฮู” จอร์นตะโกนหาไซแนป
 
“โฮ่ง โฮ่ง” 

 
“อยู่ทางโน้นฮะ”
 
ขณะเพื่อนทั้งกลุ่มขาดซาร่าและเจ้าไซแนป พวกทั้งหมดจึงเดินตามเสียงซึ่งอยู่ด้านในสุดและคาดว่าน่าจะเจอไซแนปอยู่กับเธอ
“เธอมองดูอะไร” อาเมดถามซาร่าหลังจากที่พวกเขาเดินวนไปมาเพื่อเข้ามาด้านในสุด

 
“ประวัติเจ้าบ้าน” 

 
“อืมมม...หน้าตาเจ้าของบ้านเป็นไง” อาเมดอยากรู้เหมือนกัน
 
“ไม่มีใครรู้ เธอลองดูสิ”
 
ทั้งหมดเดินเข้ามาและพบภาพที่วาดเป็นตัวแทนมนุษย์ที่ถูกจินตนาการขึ้น เป็นภาพสเก็ตขาวดำ ซาร่าลองหมุนจากขวาไปทางซ้ายพบภาพเคลื่อนไหวย้อนกลับไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพ่อและแม่ของมาร์คอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

 
ภาพทารกพึ่งคลอด
ภาพคุณพ่อแม่แนบตัวทารกเหมือนทำท่าถ่ายภาพ

 
“คนบนฟ้าคงดูอัลบัมรูปแล้วคุยกัน แล้วคนไร้สีจินตนาการตาม” อาเมดบอกกับซาร่า
 
“เราต้องรีบออกแล้วเพราะเวลาใกล้มืดจะหาที่พักลำบาก” อดัมเตือนและพยายามจูงมือซาร่าให้ออกจากพื้นที่นี้
 
เธอดึงมืออดัมกลับแล้วบอก “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน” ซาร่าดันภาพอีกครั้ง ครั้งนี้จากซ้ายไปขวาเพื่อดูอดีตจนถึงปัจจุบันล่าสุด เธอพบว่ามาร์คพูดถูก สมัยเป็นเด็กมาร์คโดนพ่อตบหน้าบ้างตีบ้าง มันเป็นความทรงจำที่โหดร้ายสำหรับมาร์ค ซาร่าหมุนไปหมุนมาหลายรอบจนมิสซูรอไม่ไหว
 
“ซาร่าเราต้องรีบออก ใกล้ค่ำแล้วนะ”
 
“อีกนิดเดียว”
 
“เฮอออ” มิสซูถอนหายใจกับความดื้อของเพื่อน
 
 
 
“แฮก….” 
 
ความนี้มีเสียงแฮกที่น่ากลัวดังขึ้นมา  “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”  ไซแนปเห่าด้วยการสัมผัสเสียงนั้นได้
 
“พวกเธอเล่นไม้เดิมกับฉันไม่ได้หรอก ฉันดูจะจบแล้ว”
 
“เปล่านะ ฉันไมไ่ด้ทำเสียงนี้ อาเมด...นายหรือเปล่า” มิสซูเริ่มกังวล
 
“ไม่ใช่ฉันแน่นอน” อาเมดหันไปทางจอร์น
 
จอร์นยิ้มอย่างมีเลศนัย “เปล่าครับ”
 
“เฮ...เพื่อนยาด อย่าเล่นแบบนี้” อาเมดสอนจอร์น
 
 

“แฮก” 
 
เกิดเสียงแฮกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ปากของจอร์นไม่ได้อ่าเลยสักนิด 
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” ไซแนปวิ่งวนไปมาในบริเวณดังกล่าว


 
“ต้องมีอะไรแน่” อดัมสังเกตุไซแนปมันมีท่าทีที่เปลี่ยนไปและทำท่าขู่ใครสักคน อดัมชักปืนออกมาจากเอวแล้วยิงกระสุนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด 
 
 

“ปัง” 
(เสียงปืน)
 
เสียงปืนดึงความสนใจจากซาร่า “เกิดอะไรขึ้น” ซาร่าถามอดัม
“ฉันกำลังทดสอบ”
 
 

“แฮก” 
เสียงแฮกยังคงดังขึ้นอีกและดังขึ้นกว่าเดิม 

 
 
“มันไม่กลัวเสียงปืน ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่สัตว์เล็ก” อดัมบอกเพื่อนในกลุ่มและมองที่ไซแนปพร้อมทั้งโยนมีดให้อาเมด
 
ไซแนปยืนเห่าตรงจุดหนึ่งซึ่งเป็นปะการังรูปภาพอธิปการบดี พ่อของจีน่า ทั้งกลุ่มยืนหันหน้าเข้ากำแพงรูปภาพดังกล่าว  

“โฮ่งๆๆ” เสียงเห่าของไซแนปไม่หยุดและทำท่าขู่ด้วย สักพักการขู่ของมันได้ผล ด้านหลังกำแพงเงียบสนิท ทั้งกลุ่มตั้งสติยืนจังก้า บางคนไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นที่มาพร้อมกับความกลัวได้

 
อาเมดและอดัมเดินเข้ามาใกล้กำแพง เพื่อลองเอาหูแนบกำแพง แต่ทันใดนั้น
 
 

 
 
ปึง 
[เสียงหนึ่งเหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งชนกำแพง] 
 
 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่