รอมฎอน แฉ งบค่าตอบแทนพิเศษ กอ.รมน. หวั่นจ่ายให้บุคลากรผี ชง รื้อคดีตากใบ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8038034
ก้าวไกล ชงหั่นงบ กอ.รมน. หลังคุ้ยเจอซุกเงินค่าตอบแทนพิเศษ หวั่นจ่ายให้บุคลากรผี แนะ รื้อแผนงานแก้ไฟใต้ แนะรัฐบาล รื้อคดีตากใบ เป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วันที่สอง
นาย
รอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า นับจากเหตุการณ์ปล้นปืน เมื่อปี 2547 สถานการณ์ความไม่สงบจนถึงปัจจุบันพบว่าเกิดขึ้นแล้วกว่า 22,296 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บกว่า 2 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน
ทั้งนี้ พบว่ารัฐใช้งบประมาณเพื่อแก้ปัญหากว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยในงบประมาณ 2567 พบการเสนอของบรวม 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำหนดโครงการไว้ในแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6.5% ตนมองว่างบดังกล่าวสามารถปรับลดได้ถึง 1,032 ล้านบาท
“
เป้าหมายแผนบูรณาการดับไฟใต้เพื่อความสงบเรียบร้อยและราบคาบ แต่ผมมองว่าไม่พอ เพราะเป็นสันติภาพเชิงลบ ดังนั้น ต้องเพิ่มสันติภาพเชิงบวก ได้แก่ ความยุติธรรม ต้องคุ้มครองสันติภาพ แก้ไขกฎหมาย แต่การจัดงบของรัฐบาลทำให้เกิดสันติภาพเชิงลบและเชิงลดเท่านั้น” นาย
รอมฎอน กล่าว
นาย
รอมฎอน กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ดับไฟใต้ ซึ่งกำหนดไว้นอกแผนบูรณาการ 3 ใน 4 อยู่ใน กอ.รมน. รวมกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น งบการกำลังพลและการดำเนินงานของ กอ.รมน. วงเงิน 3,535 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวข้องกับบุคลากรผี ที่มีชื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่ได้ทำงานจริง ถือเป็นงบหล่อเลี้ยงกำลังพลที่ไม่ได้ทำงานในพื้นที่ ดังนั้น ขอ กอ.รมน. ชี้แจงว่ามีคนทำงานจริงเท่าไร หรือเป็นเพียงงบที่ใช้หากินเท่านั้น
“
ผมขอตั้งคำถามไปยัง กอ.รมน. รับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง ทำให้จำเป็นต้องมีภัยคุกคามเพื่อให้องค์กรเช่นนี้ดำรงอยู่ หากทิศทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง กอ.รมน. ก็จำเป็นต้องสกัดขัดขวาง เพื่อไม่ให้การแสวงหาทางออกทางการเมืองเป็นไปได้” นาย
รอมฎอน กล่าว
นาย
รอมฎอน กล่าวว่า นอกจากนั้น ในส่วนของ กอ.รมน. พบว่ามีค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 52 หน่วยงาน รวมงบประมาณ 1,527 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้คนในพื้นที่ดำเนินการในส่วนดังกล่าว ทั้งนี้ ตนมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลที่มีนโยบายด้านยุติธรรมให้ฟื้นคดีตากใบ ที่อีก 10 เดือนจะหมดอายุความ โดยให้ริเริ่มเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
“
รวมถึงให้นายกฯ กำชับไปยัง ภาค 4 ส่วนหน้า เพราะท่านแม่ทัพภาค 4 ท่านอาจจะไม่รู้ว่าการที่ท่านทำนั้นเป็นการสปอยล์สันติภาพ และบั่นทอนกระบวนการสันติภาพ บางทีก็เหมือนท่านเป็นไบโพลาร์ เดี๋ยวอยากจะคุยเดี๋ยวอยากจะปิดปาก
เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่ต้องไปกำชับให้ยุติการฟ้องปิดปาก เพื่อให้การเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงเปิดพื้นที่ทางการเมือง เจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างคนในพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมถึงปรับลดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนของ กอ.รมน.” นาย
รอมฎอน กล่าว
“เอกราช”แฉนายพัน ยึดบัตร ATM ทหารเกณฑ์ ตั้งรหัส 1111 เหมือนกันหมด “สุทิน”ทราบเรื่องไหม
https://www.matichon.co.th/clips/news_4359744
เอกราช อุดมอำนวย สส.กทม.พรรคก้าวไกล สอนการบ้าน “
สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม แนะจัดสรรงบกลาโหมให้มีประสิทธิภาพ ลดโครงการทับซ้อน จัดโครงสร้างใหม่ พัฒนาเทคโนโลยีกองทัพ เน้นสร้างไม่เน้นซื้อ และคืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาลรับผิดชอบ วันนี้ท่าน
สุทินได้เป็นรัฐบาลสมใจแล้ว ได้คุมกลาโหม ไฉนวันนี้ ท่านมีท่าทีเปลี่ยนไป ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
“ภัทรพงษ์” ชี้ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนต้องการ คืออากาศบริสุทธิ์ที่สามารถหายใจได้
https://www.matichon.co.th/clips/news_4359737
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ห่วงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ภาคเหนือ ชี้ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนต้องการ คืออากาศบริสุทธิ์ที่สามารถหายใจได้ เด็กๆ ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้ และไม่ต้องยิ้มให้กันภายใต้หน้ากากอนามัย ขอเพียงแค่นี้ รัฐบาลพอจะมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชนได้หรือไม่ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
นิติพล ชำแหละ กรมโลกร้อน ตั้งตัวชี้วัดต่ำจนไร้ประโยชน์ ชงเพิ่มงบพิทักษ์ป่า
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8038255
“นิติพล” แนะ เพิ่มงบ ‘พิทักษ์ป่า’ ชำแหละ ‘กรมโลกร้อน’ ตั้งใหม่ แต่วางตัวชี้วัดต่ำจนไร้ประโยชน์ ลั่น ก้าวไกล สัญญาจะตรวจสอบงบทุกบาททุกสตางค์
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา นาย
นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม ว่า ทั่วโลกทราบดีว่าประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ แต่รัฐบาลไหนจริงจังในเรื่องนี้จริง
ตัวชี้วัดหนึ่งคืองบประมาณ แต่แผนงานในร่างงบประมาณฉบับนี้ แทบไม่ต่างจากสมัยรัฐบาลพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เลย เช่น ให้งบกรมอุตุนิยมวิทยาไปซื้อเครื่องมือวัดลมเฉือนติดให้สนามบิน และอุปกรณ์ทางการบินเป็นพันล้าน อีกส่วนคือ งบอบรมสร้างเครือข่าย หรือสร้างแพลตฟอร์มเก็บข้อมูล ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้อย่างไร
เรื่องที่น่าประทับใจในปีนี้ คือ ในที่สุดประเทศไทยก็มีหน่วยงานระดับกรมที่ดูแลเรื่องโลกร้อนโดยเฉพาะ ชื่อว่า กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ขอเรียกง่ายๆ ว่า “
กรมโลกร้อน” โดยเปลี่ยนชื่อมาจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่สมัยรัฐบาล
ประยุทธ์ แต่เริ่มตั้งงบประมาณปีแรกในรัฐบาลเศรษฐา
ซึ่งเมื่อไปดูตัวชี้วัด กรมตั้งเป้าไว้ว่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก กรณีปกติ 4% หากเราดูสถิติในปีก่อนหน้านี้ ไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงจากกรณีปกติ ได้ปีละ 15% อยู่แล้ว ด้วยวิธีแบบเดิมๆ ดังนั้น การตั้งเป้าลดลง 4% ต่อให้ท่านไม่ทำอะไรเลยก็ได้ผลงานแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ งบมันเลยไปโผล่ที่งบอบรมสัมมนาสูงถึง 170 ล้านบาท และเอาไปทำโครงการแบบกรมเดิม เหมือนก๊อปวางมา ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะตัวชี้วัดต่ำมากจนแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ไม่ต้องทำอะไรเลย
นาย
นิติพล กล่าวต่อว่า ในส่วนงบพิทักษ์ป่า ทั้งที่เป็นผู้เสี่ยงภัยอยู่หน้างาน อันตรายต่อชีวิตทุกนาที ต้องดูแลเขาให้ดี จึงอยากเสนอให้เพิ่มเงินและสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่ใช่เสี่ยงแล้วยังต้องลุ้นว่าจะได้รับการต่อสัญญาหรือไม่ และทุกวันนี้เขาได้เงินเดือนแค่ 9,000-10,000 ต้นๆ เท่านั้น
ที่สำคัญพอคณะกรรมาธิการงบฯ ขอตัดงบประมาณของกรมป่าไม้ แทนที่จะไปตัดงบประมาณปลูกป่า เพาะกล้าไม้ ซึ่งใช้กันปีละเป็นพันล้านบาท แต่ไม่สัมฤทธิ์ผล เช่น เอาไปปลูกต้นสีเสียดแก่น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าเพราะมีหนามเต็มไปหมด สัตว์กินก็ไม่ได้และช้างป่ากลับเข้าป่าก็ไม่ได้ ดังกรณีที่เกิดขึ้นกับช้างป่าตะวันออก
แต่พอให้ตัดงบกลับไปตัดของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เหมือนในปี 2565 แล้วไปโยนบาปให้กรรมาธิการและสภาฯ ว่ารังแกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่เห็นใจคนทำงาน ทั้งที่จริงๆ แล้ว กรมฯ คือผู้เลือกตัดเงินเขาเอง และเมื่อของบประมาณซื้อรถยนต์ก็ต้องให้เงินเติมน้ำมันด้วย ปีนี้ทำงบมาแบบงงมาก ซื้อรถให้ แต่ไม่มีเงินค่าน้ำมันให้ แล้วเขาจะเอารถไปใช้งานได้อย่างไร
“
การทำงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ ท่านบอกวิกฤตโลกร้อน แต่ทำไมทำงบแบบนี้ ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ทำโครงการมา แต่ไม่มีแผนให้สามารถแก้ปัญหาได้จริง ขอให้รัฐบาลตั้งใจทำงบมาใหม่ เพราะถ้ายังจัดงบแบบนี้เจอกันในการอภิปรายไม้ไว้วางใจแน่ และผมสัญญากับพี่น้องประชาชนว่า พรรคก้าวไกลทุกคนจะตรวจสอบงบประมาณทุกบาทในชั้นกรรมาธิการอย่างเข้มงวดแน่นอน” นาย
นิติพล กล่าว
JJNY : 5in1 รอมฎอนแฉงบกอ.รมน.│“เอกราช”แฉนายพัน│“ภัทรพงษ์”ชี้ของขวัญปีใหม่│นิติพลชำแหละกรมโลกร้อน│ค่าระวางพุ่งรับตรุษจีน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8038034
ก้าวไกล ชงหั่นงบ กอ.รมน. หลังคุ้ยเจอซุกเงินค่าตอบแทนพิเศษ หวั่นจ่ายให้บุคลากรผี แนะ รื้อแผนงานแก้ไฟใต้ แนะรัฐบาล รื้อคดีตากใบ เป็นคดีพิเศษ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วันที่สอง
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า นับจากเหตุการณ์ปล้นปืน เมื่อปี 2547 สถานการณ์ความไม่สงบจนถึงปัจจุบันพบว่าเกิดขึ้นแล้วกว่า 22,296 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บกว่า 2 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน
ทั้งนี้ พบว่ารัฐใช้งบประมาณเพื่อแก้ปัญหากว่า 5.4 แสนล้านบาท โดยในงบประมาณ 2567 พบการเสนอของบรวม 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำหนดโครงการไว้ในแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ ถือว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6.5% ตนมองว่างบดังกล่าวสามารถปรับลดได้ถึง 1,032 ล้านบาท
“เป้าหมายแผนบูรณาการดับไฟใต้เพื่อความสงบเรียบร้อยและราบคาบ แต่ผมมองว่าไม่พอ เพราะเป็นสันติภาพเชิงลบ ดังนั้น ต้องเพิ่มสันติภาพเชิงบวก ได้แก่ ความยุติธรรม ต้องคุ้มครองสันติภาพ แก้ไขกฎหมาย แต่การจัดงบของรัฐบาลทำให้เกิดสันติภาพเชิงลบและเชิงลดเท่านั้น” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่ใช้ดับไฟใต้ ซึ่งกำหนดไว้นอกแผนบูรณาการ 3 ใน 4 อยู่ใน กอ.รมน. รวมกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น งบการกำลังพลและการดำเนินงานของ กอ.รมน. วงเงิน 3,535 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวข้องกับบุคลากรผี ที่มีชื่อปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่ได้ทำงานจริง ถือเป็นงบหล่อเลี้ยงกำลังพลที่ไม่ได้ทำงานในพื้นที่ ดังนั้น ขอ กอ.รมน. ชี้แจงว่ามีคนทำงานจริงเท่าไร หรือเป็นเพียงงบที่ใช้หากินเท่านั้น
“ผมขอตั้งคำถามไปยัง กอ.รมน. รับมือกับภัยคุกคามความมั่นคง ทำให้จำเป็นต้องมีภัยคุกคามเพื่อให้องค์กรเช่นนี้ดำรงอยู่ หากทิศทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง กอ.รมน. ก็จำเป็นต้องสกัดขัดขวาง เพื่อไม่ให้การแสวงหาทางออกทางการเมืองเป็นไปได้” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวว่า นอกจากนั้น ในส่วนของ กอ.รมน. พบว่ามีค่าตอบแทนพิเศษสำหรับผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน 52 หน่วยงาน รวมงบประมาณ 1,527 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้คนในพื้นที่ดำเนินการในส่วนดังกล่าว ทั้งนี้ ตนมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลที่มีนโยบายด้านยุติธรรมให้ฟื้นคดีตากใบ ที่อีก 10 เดือนจะหมดอายุความ โดยให้ริเริ่มเป็นคดีพิเศษ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
“รวมถึงให้นายกฯ กำชับไปยัง ภาค 4 ส่วนหน้า เพราะท่านแม่ทัพภาค 4 ท่านอาจจะไม่รู้ว่าการที่ท่านทำนั้นเป็นการสปอยล์สันติภาพ และบั่นทอนกระบวนการสันติภาพ บางทีก็เหมือนท่านเป็นไบโพลาร์ เดี๋ยวอยากจะคุยเดี๋ยวอยากจะปิดปาก
เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่ต้องไปกำชับให้ยุติการฟ้องปิดปาก เพื่อให้การเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงเปิดพื้นที่ทางการเมือง เจรจาหาทางออกร่วมกันระหว่างคนในพื้นที่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมถึงปรับลดงบประมาณที่ซ้ำซ้อนของ กอ.รมน.” นายรอมฎอน กล่าว
“เอกราช”แฉนายพัน ยึดบัตร ATM ทหารเกณฑ์ ตั้งรหัส 1111 เหมือนกันหมด “สุทิน”ทราบเรื่องไหม
https://www.matichon.co.th/clips/news_4359744
เอกราช อุดมอำนวย สส.กทม.พรรคก้าวไกล สอนการบ้าน “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม แนะจัดสรรงบกลาโหมให้มีประสิทธิภาพ ลดโครงการทับซ้อน จัดโครงสร้างใหม่ พัฒนาเทคโนโลยีกองทัพ เน้นสร้างไม่เน้นซื้อ และคืนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาลรับผิดชอบ วันนี้ท่านสุทินได้เป็นรัฐบาลสมใจแล้ว ได้คุมกลาโหม ไฉนวันนี้ ท่านมีท่าทีเปลี่ยนไป ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
“ภัทรพงษ์” ชี้ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนต้องการ คืออากาศบริสุทธิ์ที่สามารถหายใจได้
https://www.matichon.co.th/clips/news_4359737
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ห่วงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ภาคเหนือ ชี้ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนต้องการ คืออากาศบริสุทธิ์ที่สามารถหายใจได้ เด็กๆ ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านได้ และไม่ต้องยิ้มให้กันภายใต้หน้ากากอนามัย ขอเพียงแค่นี้ รัฐบาลพอจะมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชนได้หรือไม่ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
นิติพล ชำแหละ กรมโลกร้อน ตั้งตัวชี้วัดต่ำจนไร้ประโยชน์ ชงเพิ่มงบพิทักษ์ป่า
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8038255
“นิติพล” แนะ เพิ่มงบ ‘พิทักษ์ป่า’ ชำแหละ ‘กรมโลกร้อน’ ตั้งใหม่ แต่วางตัวชี้วัดต่ำจนไร้ประโยชน์ ลั่น ก้าวไกล สัญญาจะตรวจสอบงบทุกบาททุกสตางค์
เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม ว่า ทั่วโลกทราบดีว่าประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ แต่รัฐบาลไหนจริงจังในเรื่องนี้จริง
ตัวชี้วัดหนึ่งคืองบประมาณ แต่แผนงานในร่างงบประมาณฉบับนี้ แทบไม่ต่างจากสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เลย เช่น ให้งบกรมอุตุนิยมวิทยาไปซื้อเครื่องมือวัดลมเฉือนติดให้สนามบิน และอุปกรณ์ทางการบินเป็นพันล้าน อีกส่วนคือ งบอบรมสร้างเครือข่าย หรือสร้างแพลตฟอร์มเก็บข้อมูล ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้อย่างไร
เรื่องที่น่าประทับใจในปีนี้ คือ ในที่สุดประเทศไทยก็มีหน่วยงานระดับกรมที่ดูแลเรื่องโลกร้อนโดยเฉพาะ ชื่อว่า กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ขอเรียกง่ายๆ ว่า “กรมโลกร้อน” โดยเปลี่ยนชื่อมาจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์ แต่เริ่มตั้งงบประมาณปีแรกในรัฐบาลเศรษฐา
ซึ่งเมื่อไปดูตัวชี้วัด กรมตั้งเป้าไว้ว่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก กรณีปกติ 4% หากเราดูสถิติในปีก่อนหน้านี้ ไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงจากกรณีปกติ ได้ปีละ 15% อยู่แล้ว ด้วยวิธีแบบเดิมๆ ดังนั้น การตั้งเป้าลดลง 4% ต่อให้ท่านไม่ทำอะไรเลยก็ได้ผลงานแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ งบมันเลยไปโผล่ที่งบอบรมสัมมนาสูงถึง 170 ล้านบาท และเอาไปทำโครงการแบบกรมเดิม เหมือนก๊อปวางมา ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะตัวชี้วัดต่ำมากจนแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ไม่ต้องทำอะไรเลย
นายนิติพล กล่าวต่อว่า ในส่วนงบพิทักษ์ป่า ทั้งที่เป็นผู้เสี่ยงภัยอยู่หน้างาน อันตรายต่อชีวิตทุกนาที ต้องดูแลเขาให้ดี จึงอยากเสนอให้เพิ่มเงินและสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่ใช่เสี่ยงแล้วยังต้องลุ้นว่าจะได้รับการต่อสัญญาหรือไม่ และทุกวันนี้เขาได้เงินเดือนแค่ 9,000-10,000 ต้นๆ เท่านั้น
ที่สำคัญพอคณะกรรมาธิการงบฯ ขอตัดงบประมาณของกรมป่าไม้ แทนที่จะไปตัดงบประมาณปลูกป่า เพาะกล้าไม้ ซึ่งใช้กันปีละเป็นพันล้านบาท แต่ไม่สัมฤทธิ์ผล เช่น เอาไปปลูกต้นสีเสียดแก่น ซึ่งเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าเพราะมีหนามเต็มไปหมด สัตว์กินก็ไม่ได้และช้างป่ากลับเข้าป่าก็ไม่ได้ ดังกรณีที่เกิดขึ้นกับช้างป่าตะวันออก
แต่พอให้ตัดงบกลับไปตัดของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เหมือนในปี 2565 แล้วไปโยนบาปให้กรรมาธิการและสภาฯ ว่ารังแกเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไม่เห็นใจคนทำงาน ทั้งที่จริงๆ แล้ว กรมฯ คือผู้เลือกตัดเงินเขาเอง และเมื่อของบประมาณซื้อรถยนต์ก็ต้องให้เงินเติมน้ำมันด้วย ปีนี้ทำงบมาแบบงงมาก ซื้อรถให้ แต่ไม่มีเงินค่าน้ำมันให้ แล้วเขาจะเอารถไปใช้งานได้อย่างไร
“การทำงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ ท่านบอกวิกฤตโลกร้อน แต่ทำไมทำงบแบบนี้ ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ทำโครงการมา แต่ไม่มีแผนให้สามารถแก้ปัญหาได้จริง ขอให้รัฐบาลตั้งใจทำงบมาใหม่ เพราะถ้ายังจัดงบแบบนี้เจอกันในการอภิปรายไม้ไว้วางใจแน่ และผมสัญญากับพี่น้องประชาชนว่า พรรคก้าวไกลทุกคนจะตรวจสอบงบประมาณทุกบาทในชั้นกรรมาธิการอย่างเข้มงวดแน่นอน” นายนิติพล กล่าว