นาทีนี้คนรักเนื้อและชอบกินชาบูต้องแวะมาลองให้ได้ ‘Shoutaian shabu’ เป็นร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเนื้อเกรดพรีเมียมให้ลอง ที่ร้านใช้เนื้อซากะวากิวเกรดประมูลจากตลาดประมูลเนื้อกลางกรุงโตเกียวเสิร์ฟให้เลย

.

ใครที่ยังไม่เคยลองเนื้อประมูลก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่นี่เป็นร้านแรกและร้านเดียวในตอนนี้ที่มีเนื้อเกรดนี้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่เซ็ตละ 790.- เป็นเนื้อซากะวากิว A3 ค่ะ

เนื้อวัวและเนื้อหมูของร้านจะส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด มีให้เลือกทั้งเนื้อซากะวากิว เนื้อคุโรเกะ เนื้อฟูจิฮิเมะ ส่วนหมูจะเสิร์ฟเป็นหมูโคจิบูตะค่ะ

.

ใครชอบทานอาหารทะเลก็มีทั้งล็อบสเตอร์ ปลามาได ปูหิมะ และหอยเชลล์ฮอกไกโด

.

น้ำซุปที่นี่จะเลือกได้ 3 แบบคือซุปปลาแห้ง ซุปสาหร่ายคอมบุ และซุปกระดูกหมู เป็นสไตล์ญี่ปุ่นทั้งหมด แนะนำว่าถ้าใครสายเนื้อแบบเราให้เลือกเป็นซุปสาหร่ายคอมบุ ซุปใส รสชาติไลท์ๆ เค็มนิดๆ หอมหน่อยๆ พอเอาเนื้อไปจุ่มจะช่วยชูรสชาติและกลิ่นของเนื้อได้ดี แล้วยิ่งตอนเรากินไปสักพักน้ำซุปก็จะเริ่มมีรสชาติขึ้นจากเนื้อที่เอาลงไปจุ่มด้วย

เซ็ตแนะนำที่เราลองวันนี้เป็นตัว ‘Saga wagyu A4 Set’ 

.

เสิร์ฟมาให้ในหีบที่มีดรายไอซ์ด้านล่าง น่าจะสื่อถึงการใช้เนื้อที่ประมูลมา มีทั้งส่วนสะโพกและสันคอ

เนื้อสไลด์มาได้ความหนาพอดี แผ่ออกมาแล้วชิ้นใหญ่มากกกกก~ เนื้อนุ่ม ตัวสันคอจะมีความหอมมัน ไขมันและเนื้อมาแบบลายหินอ่อน รสชาติชัดเจน อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มเลย

ต่อด้วยเมนูเนื้ออีกหนึ่งที่ประทับใจมาก ‘ลิ้นเนื้อ’

.

เสิร์ฟมาหรูหราบนจานสีทอง ลิ้นเนื้อเด้งกรุบ ไม่มีจุดเหนียว สัมผัสดีมาก

สำหรับเมนูเนื้อจะมีซอสเสิร์ฟมาให้กินคู่กัน 2 แบบ คือซอสโชยุ และซอสถั่ว

.

ความพิเศษของร้านคือตัวซอสถั่วจะเป็นสูตรทำเองที่มีความหอมมัน เปรี้ยวเล็กๆ ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่น ข้อดีคือทำให้ไม่เลี่ยน เติมน้ำมันพริกของร้านเพิ่มความหอมยิ่งอร่อย~

ปิดจบเมนูเนื้อที่ได้ลองด้วยเมนู ‘Hamburg Demi-Glace’ (390.-)

.

เนื้อแฮมเบิร์กราดซอสเดมิกลาสมาให้ฉ่ำๆ เสิร์ฟบนกระทะร้อนพร้อมกับถั่วงอกผัดด้านข้างให้กินคู่กัน เนื้อมาแบบนุ่มไม่พอนะ ด้านในคือฉ่ำสุดๆ มีความ Juicy กลิ่นหอม

สายอาหารทะเลอยากให้ลอง ‘Madai fish’ (660.-)

.

เป็นปลากระพงแดงญี่ปุ่นเนื้อสีขาว ไม่ติดมัน เป็นที่นิยมมากในร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง

.

เนื้อปลาสด แน่น สัมผัสแบบเด้งๆ รสชาติหวานเล็กน้อย กินได้ทั้งแบบสด และแบบชาบู

สุดท้าย ! มาแล้วก็ต้องห้ามพลาด ‘Lobster’ 

.

เสิร์ฟมาให้ยิ่งใหญ่อลังการ เนื้อล็อบสเตอร์ใสๆ รสชาติหวาน และเด้งกรอบ ทานได้ทั้งแบบดิบและสุกเหมือนกัน

.

ส่วนตัวเราชอบแบบที่เอาเนื้อไปสะดุ้งน้ำหน่อยให้ด้านนอกสุก ส่วนด้านในยังมีความใสๆ เล็กน้อย จะได้ทั้งความฉ่ำและความหวานหอมจากเนื้อเลย

แล้วใครที่สั่งเมนูล็อบสเตอร์ สามารถแบ่งทานแบบชาบูและให้พนักงานช่วยทำข้าวต้มล็อบสเตอร์ตอนท้ายได้ด้วยนะ หอมอร่อยมาก ที่ร้านใช้เป็นข้าวญี่ปุ่นทำ เวลากินก็จะมีความหนึบมากกว่าข้าวไทย

อันนี้เราเหลือส่วนหัว ส่วนขา และเนื้อไว้เล็กน้อย แบ่งทำออกมาได้ประมาณ 2 ถ้วย

ปิดจบมื้อก็มีเมนูไอศกรีมเสิร์ฟให้แบบสดชื่น รสชาติเปรี้ยวนำหวานนิด

ใครชอบกินชาบูสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเนื้อเกรดดี พนักงานเอาใจใส่ บรรยากาศสงบๆ ต้องแวะมานะ มีให้เลือกนั่งทั้งโต๊ะเดี่ยว โต๊ะบาร์ และโซนส่วนตัวที่มีฉากกั้นให้เลย~