ผมอยากจะเล่าปัญหาของเด็กอายุ14ครับ

สวัสดีครับทุกๆคนที่เข้ามาเห็นกระทู้นี้ ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่อยากจะมาแชร์ชีวิตของผมให้ทุกคนฟัง ผมเป็นแค่เด็กอายุ14ที่พึ่งจะจบม.3ครับ ในแต่ละวันชีวิตของผมเนี่ยดูมืดมนไม่มีความสุขเลยถ้าให้เปรียบเทียบคงจะเหมือนกับอยู่ในโลกสีเทาที่ไร้ความหวังไปวันๆผมเป็นแบบนี้มานานแล้วครับตั้งแต่เด็กๆแล้ว ผมต้องเจอปัญหาต่างๆมากมายที่ทำให้คนในครอบครัวทเลาะกันตอนนั้นผมเป็นเด็กอายุราว5-6ขวบ ถึงจะจำไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผมจำได้ขึ้นใจเลยว่าครอบครัวของผมมีปัญหา ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรมากเพราะด้วยอะไรหลายๆอย่างซึ่งตอนนั้นเป็นวัยเด็กด้วยผมก็เลยมีความสุขกับชีวิตอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ทเลาะกันผมมักอึดอัดใจอยู่ตลอด พ่อที่ชอบสร้างปัญหาให้แม่อยู่เรื่อยๆ และแม่ที่ไม่ค่อยใจเย็นชอบบ่นนู้นนั่นนี่เรื่อยๆ เลยทำให้มีโอกาศน้อยมากที่พ่อแม่จะไม่ทเลาะกันในแต่ละวัน พอผมเรียนอยู่ช่วงประถมปลายแม่ชอบกีดกันผมในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเพราะว่าเป็นห่วงผมจนเกินไป พอช่วงม.1-ม.2 พ่อแม่ของผมเริ่มทเลาะกันหนักขึ้นจนผมเริ่มไม่โอเคกับการกระทำแบบนั้นนับตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มที่จะตั้งกำแพงในใจกั้นระหว่างผมกับครอบครัวซึ่งมันทำให้ผมเริ่มคิดต่างกับความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อแม่แย่ลง ตอนม.2ผมได้แอบชอบคนๆหนึ่งผมมีความสุขมากที่ได้รู้จักเขาจนวันที่เราเลิกคุยกันตอนนั้นผมเสียใจมาก ผมไม่รู้จะไปปรึกษาใครเพราะผมไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีเพื่อนที่ไว้ใจได้ ซึ่งตัวผมก็แปลกใจอยู่มากผมเข้าหาเพื่อนได้ทุกคนและจริงใจกับเพื่อนทุกคนแต่เพื่อนๆก็ให้ความสำคัญกับผมน้อยไปนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้จิตใจที่เคยแข็งแรงแปรผกผันมาเป็นแบบนี้ ซึ่งพอไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใครแต่จะมีเพื่อนผู้หญิงอยู่คนหนึ่งตอนนั้นเราไม่ได้สนิทกัน เขาเป็นคนที่ผมพอจะระบายความรู้สึกที่ไม่ดีออกไปได้บ้าง พอเวลาผ่านไปจิตใจผมก็กลับมาเป็นปกติแต่รู้สึกห่ดหู่เบื่อและแย่ในบางเวลา พอขึ้นม.3 ผมได้รู้เป้าหมายของตัวเองและพยายามทำมันมาตลอด ถึงพ่อแม่จะทเลาะกันตลอด ถึงจะมีปัญหาที่ทำให้ผมเครียด ไหนจะกดดันตัวเองอีก ชีวิตของผมช่วงนั้นไม่มีความสุขเลย จนเวลาผ่านไป ชีวิตผมรู้สึกมีความหวังขึ้นอีกครั้งที่มีโอกาศบังเอิญได้คุยกับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นแต่ก็คุยกันอยู่ได้สักพักเขาเริ่มอึดอัดและไม่สบายใจที่ผมนั้นคิดกับเขาเกินกว่าคำว่าเพื่อน การกระทำของผมมันดูแย่จริงๆ ผมไม่ชอบที่เขาสนิทกับเพื่อนร่วมชั้นของผม ทั้งๆที่ผมก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า2คนนี้รู้จักและสนิทกันมานานมากซึ่งเพื่อนร่วมห้องของผมนั้นแอบชอบเพื่อนผู้หญิงคนนี้และได้บอกชอบมาแล้วหลายครั้งแต่เพื่อนผู้หญิงก็ยังไม่อยากคบกับใครยังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่ซึ่งทั้ง2ก็หยอกล้อคุยกันปกติมาเรื่อยๆ มันทำให้ผมได้รู้จุดยืนของตัวเองและทำให้ผมเสียใจเป็นอย่างมาก ไหนจะปัญหา ความเครียด ความกดดัน จนผมตันทุกทางไม่มีทางออกแล้ว ชีวิตของผมไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว ซึ่งผมก็เข้าใจว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นไปตามที่เราคิดไว้ได้หรอก ซึ่งด้วยเรื่องทั้งหมดที่เล่ามาทำให้ผมได้รู้ว่า ตัวผมชอบด้อยค่าตัวเอง ชอบกดดันตัวเอง ชอบปล่อยให้ปัญหามากระทบจิตใจตัวเอง และ ชอบทำอะไรที่มันไม่มีเหตุผล ปล่อยให้อารมณ์ควบคุมตัวเอง ซึ่งผมได้เสียใจและร้องไห้หนักมาก สภาพจิตใจของผมมันไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ผมมัวแต่หมกมุ่นกับอนาคตจนลืมว่าผมมันก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ14ผมควรจะทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และผมได้รู้และได้เข้าใจแล้วว่าผมควรทำยังไงต่อ ผมเกือบลืมไปแล้วว่ายังมี พ่อที่ถึงแม้จะคอยสร้างปัญหาอยุ่ตลอดแต่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ผม และแม่ที่ถึงแม้จะชอบพูดอะไรทำร้ายจิตใจผมแต่แม่ก็ยังเป็นห่วงผมมาตลอด จนตอนนี้จิตใจของผมเริ่มกลับมาดีขึ้นทีละน้อยๆ ที่ผ่านมาผมไม่รู้หรอกว่าผมจะพยายามใช้ชีวิตไปทำไมและเพื่อใคร สำหรับผมตอนนี้ผมขอใช้ชีวิตให้มีความสุขและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำและพยายามเพื่อตัวเองจะได้มีความสุขในอนาคต ผมมัวแต่สนใจอนาคตของผมจนเกินไปจนลืมไปว่าผมควรให้เวลากับตัวเองบ้างไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องอื่นๆเยอะไป ส่วนเรื่องเพื่อนผู้หญิงคนนั้นผมคงต้องให้เวลากับตัวเองก่อนถึงในใจผมตอนนี้จะมีแค่เขาแต่ผมคงจะทำอะไรไม่ได้มากถึงจะเป็นได้แค่เพื่อนกันแค่ขอให้เขามีความสุขผมก็ไม่มีอะไรที่ติดค้างแล้ว ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ ผมได้ระบายปัญหาความเครียดต่างๆไว้หมดแล้ว ผมจะพยายามมีความสุขกับตัวเองให้มาก และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยก็มีคนเป็นแบบคุณอยู่เยอะแยะ สู้ไปด้วยกันนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่