มีแม่แบบนี้รับมือยังไง? Narcissistic อาการแบบนี้ไม่ปกติใช่มั้ย?

อาการแบบนี้เรียกว่าอะไร? คนแบบนี้เรียกตัวเองว่าแม่ได้หรือไม่? แม่ควรเป็นแบบนี้มั้ย?

เรากำลังพูดถึงคนที่เรียกตัวเองว่าแม่ ที่คนอื่นไม่กล้าพูดกับเราอย่างตรงไปตรงมา แต่คนรอบตัวเราตั้งแต่เล็ก บอกว่าแม่เราไม่ปกติ พยายามควบคุมบงการมากกว่าคนทั่วไป เพื่อนๆเราในหลายช่วงอายุของชีวิต ข้อมูลพื้นหลังอีกนิด บ้านเราเป็นคนจีนที่มีสะใภ้หลายคนที่ไม่กินเส้นกัน แต่ดูแล้วแต่ละคนส่วนใหญ่ที่แต่งงานเข้ามาก็ Narcisstic หมด เราไม่เคยเห็นความน่าเกลียดของคนแแบบแท้จริง จนเราโตขึ้นและหลายๆอย่างทำให้เราอยากอาเจียน

จะรับมือและแก้เผ็ดกับคนนิสัยแบบนี้ได้อย่างไร การป้องกันตัวคือยังไง เอาตัวรอดยังไงไม่ให้ชีวิตโดนเอาเปรียบและพังไปมากกว่านี้ นี่คือเรื่องปกติมั้ย? ที่ต้องมาตั้งกระทู้เพราะคุยกับคนไกล้ตัวหรือรู้จักไม่ค่อยมีใครกล้าพูด 

มันรู้สึกแปลกดีที่มีคนรอบตัว ญาติเยอะ แต่ไม่ได้มีใครจริงใจหรือทำตัวเป็นครอบครัวจริงๆ หรือ ครอบครัวควรจะเป็นยังไง?

การวิจารณ์พ่อแม่เป็นเรื่องต้องห้ามไปแล้วหรอ? ถึงสิ่งที่ทำจะผิดจะถูกก็ตาม พอไปปรึกษาคนรอบตัว ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงการพูดประเด็นนี้ บอกให้ทำใจ บอกว่าไม่ควรพูด บอกให้มองด้านที่ดี เราต้องเพิกเฉยและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

แม่เคยวาดฝันไว้ตอนเราเด็กๆจำคำพูดได้เลย หวังว่าชีวิตจะไม่ต้องทำงานให้ลูกทำงานหาเงินให้ใช้ไปวันๆ พื้นหลังคือตัวเองเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชายสามคนที่ถูกแม่เราด่าจนถึงทุกวันนี้ทั้งๆที่พี่ชายช่วยเหลือตลอดแต่ถูกด่าเหมือนคนใช้ ถ้าทำไม่ถูกใจ บอกว่าตัวเองอยากประสบความสำเร็จแต่ไม่เคยขวนขวายอะไรเลย ไม่เคยเป็นแบบอย่างที่ดี เราพยายามมาทั้งชีวิตเพื่อมำให้ชีวิตตัวเองดีในสิ่งที่เราเรียนรู้และทำงานแต่ถูกเอาเปรียบจากคนในรั้วบ้านตัวเอง

ใช้ลูกเพื่อสร้างฝันให้ตัวเอง ทั้งๆที่ตัวเองไม่หาความรู้และไม่เคยทดลองหรือพยายามทำธุระกิจ แต่บอกว่าเก็บเงินไว้ให้ลูกทำธุระกิจ พอเราทุ่มเวลาและความรู้ให้สุดตัว เราบอกว่าทำคนเดียวไม่ไหว เขากลับไม่ยื่นมือเข้าช่วย บอกว่าหน้าที่ตัวเองหมดแล้ว เกษียณแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองพอแต่งงานเข้ามาก็ไม่เคยทำงาน ทำงานไม่เป็น ให้คำแนะนำการทำงานที่ถูกต้องไมไ่ด้แล้วยังอยากจะควบคุม พอเกิดความผิดพลาดก็ให้คนอื่นรับหน้าบอกตัวเองไม่เกี่ยว เราสังเกตุดูเพื่อนๆที่อยู่ในวัยสร้างตัว ครอบครัวเข้ามาช่วยเหลือเต็มที่ไม่ว่าจะเรื่องไหน มาช่วยดูมาช่วยกิน พอเปิดอะไรขึ้นมา วันที่เราเปิดร้าน พ่อดีใจมากจะชวนคนมากิน ไปห้ามพ่ออย่างไรก็ไม่รู้บอกไม่ต้องเอาคนมากินมาสนับสนุน และจะไม่ช่วยเราในงานอื่นๆ ถ้าไม่ให้ดูบัญชี รอตอนที่เราง่วงหรือเหนื่อย หลอกเราว่าจะชช่วยหานู่นหานี้ ให้บอกข้อมูลว่าอะไรใช้ของเสปคไหน และทำลืมๆไปโดยมีเจตนาว่าอยากเอาข้อมูลเพราะไม่ชอบ research เองหรือถามคนเอง แต่ตัวเองอยากเปิดร้านเลยใช้เราทำทั้งหมด มีแม่คนไหนเห็นลูกเปอดร้านแล้วตัวเองอยากเปิดร้านแข่ง? มันไม่ผิดที่เขาอยากเปิดร้าน อยากเปิดมาเป็นสิบกว่าปี ใส่ใองเรามาตั้งแต่ตอนเด็กว่าต้องทำๆ การไม่ทำคือการขี้เกียจ แต่ผ่านมาสิบปี ตัวเองดูยูทูปแล้วไม่หาอะไรต่อก็วางมือ บอกว่ายุ่งยากเกินไป จะทำทำไม แล้วพอเราหาข้อมูลหรือทำอะไรที่มันได้มากกว่าเพราะเราขวนขวายและเราหาเพื่อน เขาอยากมาเอาทุกอย่างที่เราทำมาไป และถ้าเราบอกว่าเราทำมากับเพื่อนและเขาไม่เกี่ยว เขาจะไม่ช่วยเราอะไรเลยและบอกให้พ่อและน้องแท้ๆของเราไม่ต้องช่วยเราด้วย

เป็นคนพูดไม่ซื่อ แม้แต่กับลูกตัวเอง ตอนแรกห้ามพ่อใช้เงินเพราะบอกเก็บไว้ให้ลูก พอพ่อจะให้เงินลูกบอกว่าไม่ให้ ตอนที่ตัวเองอายุเท่ากันไม่เคยได้ ตอนที่ไปขอคำแนะนำเรื่องการทำงาน บอกว่าบางอย่างสอนไม่ได้ ทั้งๆที่ความจริงคือตัวเองไม่มีความรู้ แต่ต้องเนียนว่ารู้ แต่ไม่สอนหรอกนะ พอลูกไปขอคำแนะนำเรื่องการวางแผนชีวิตก็ไม่ต้องนึกถึงอนาคตหรอก ปล่อนให้ลูกโง่ต่อไปทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่ดีที่สอนมาคือหาครอบครัวดีๆ หางานที่รัก เพราะรู้ว่าการที่ลูกติดอยู่ตรงนี้ก็สามารถเอาเปรียบต่อได้ เพราะเคยพูดออกจากปากว่า ถ้าแต่งงานไปแล้วยังใช้ไม่คุ้มเลย

วางแผนมานานแล้ว รอตอนที่แม่ของพ่อตาย ค่อยๆเข้ามาควบคุม พยายามพูดว่าตัวเองเหมือนแม่ของพ่อ เพราะรู้ว่าพ่อรักคุณย่า บอกว่าชอบกินของร้อนเหมือนกันหรือรู้สึกแก่แล้วทั้งๆที่จริงสุขภาพพ่อแย่กว่าแล้วเขาไม่เคยดูแลเลย ปล่อยพ่อไปโรงพยาบาลเอง แต่เวลาเขาป่วยพ่อพาไปหาหมอตลอด

มองลูกเป็นเครื่องมือ มองว่าหน้าที่ตัวเองคือแต่งงานเข้ามาและเก็บเงินทุกอย่างที่เป็นของพ่อที่ตัวเอง ทั้งๆที่ครอบครัวพ่อไม่ได้จะให้ แต่ตั้งใจจะให้ลูกหลาน แต่ใช้การดุด่า ประชดประชัน ทำให้พ่อไม่สามารถมีชีวิตปกติได้ เพื่อกดดันให้เอาเงินไว้ที่ตัวเอง ห้ามใครในบ้านใช้เงินถ้าไม่ผ่านการอนุมัติจากตัวเองแม้ในเรื่องเล็กๆเช่น ซื้อเสื้อผ้า ทั้งๆที่บ้านมีเงิน แต่มองว่า อำนาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง เป็นคนที่มาจากครอบครัวไม่ดีแต่มาหลอกคนดีให้แต่งงานด้วยแล้วนอกจากจะโกยทุกอย่างไปที่ตัวเอง ยังพังอนาคตชีวิตคนอื่น

ด่าลูกว่าแรด ทั้งๆที่แค่อยากออกไปคอนเสริต หรือ เที่ยวห้างกับเพื่อน พูดให้รู้สึกผิดที่ไม่ทำงานอย่างหนัก พูดให้รู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่จะออกไปเจอเพื่อนๆ ไม่ได้เที่ยยวกลางคืนด้วยซ้ำ ทำให้ชีวิตสังคมพัง เพราะร้องไห้เกือบทุกครั้งที่จะออกไปเจอเพื่อน ห้ามมีแฟน แต่ตัวแม่เองเองรีบแต่งงานเข้ามาเพื่อที่จะไม่ต้องทำงานอีกตลอดชีวิต

มีความขี้อิจฉาในทุกเรื่อง เพราะชีวิตตอนเด็กของตัวเองไม่ดีเท่า แต่ที่เราเข้าใจ พ่อแม่ที่ปกติดี จะรู้สึกยินดีกับลูกเมื่อลูกมีชีวิตที่ดี แทนที่จะอิจฉา และไม่พยายามกดลูกให้ต่ำลงจากโอกาสที่ลูกได้รับเพียงเพราะตัวเองไม่ได้รับมันตอนเด็ก พ่อจะซื้อกระเป๋าให้ มีการต่อว่าบอกว่าทำไมต้องซื้อให้ ตอนเด็กๆเขาไม่เคยเห็นได้เลยตอนอายุเท่ากัน และเดินหนีออกไปเพื่อประชดทำให้ทริปครอบครัวที่มีมูลค่ามากกว่าพัง แฟนเราซื้อนาฬิกาให้เป็นของขวัญวันเกิด ปกติเขาไม่เคยอยากได้นาฬิกาแต่ปีนั้นวันเกิดบอกให้พ่อซื้อนาฬิกาให้ เราอยากไปเรียน เราอยากทำธุระกิจ ครอบครัวพ่อพร้อมสนับสนุน แต่เค้าอิจฉาที่ตัวเองไม่มีโอกาสแบบนั้นบ้าง เลยไม่อนุญาติให้พ่อให้ ซึ่งจริงๆพ่อไม่ต้องขออนุญาติ แต่เมื่อไม่พอใจและไม่เห็นด้วย จะทำทุกๆอย่างในครอบครัวพัง พร้อมที่จะไม่คุยกับทุกคนและทำลายครอบครัวตลอด พ่อของเราเป็น family man แม่ใช้โอกาสจากตรงนี้บงการ ตอนเด็กๆพ่อและน้องของเรารักเรามาก แต่แม่พยายามพูดให้เราผิดหรือไม่ดีในสายตาพ่อและน้องเราเพื่อที่ตัวเองจะได้เข้ามาอยู่เป็นจุดศูนย์กลาง เพราะกลัวตัวเองไม่มีหน้าที่จริงในครอบครัว เพราะเอาจริงๆก็ไม่มี เพราะไม่เคยทำหน้าที่แม่ที่ดูแลใครเลย เราเสียดายเรื่องนี้มากเรารักครอบครัวคนอื่นๆของเรา แต่ตอนนี้เหมือนโดนล้างสมองจากคนที่ toxic กว่า

แนะนำสิ่งผิดๆให้หลายอย่าง ทำให้การงานเราเสีย เป็นคำแนะนำกึ่งบังคับ เพราะไม่ทำตามก็จะมีปัญหากับแม่ แม่ไม่คุยด้วย และพูดประชดประชันใส่ตลอด ไม่เคยคุยกับคนในบ้านแบบดี ด่าตลอดทั้งๆที่เหตุการณ์ไม่มีอะไร

จะไม่ให้คำแนะนำ ถ้าไม่ทำตามคำบังคับ จะไม่ให้คำปรึกษา ไม่สามารถถกด้วยเหตุผลว่าอะไร ทำไมถึงคิดอย่างงี้หรือเห็นต่างได้ โดนด่าทันที นี่แม่หรือคุก?

เมื่อไรที่เรามีปัญหา ไปปรึกษาแม่จะได้ปัญหาที่ใหญ่กว่ากลับมาเช่นแม่บอกว่าสมน้ำหน้า หรือ ให้คำแนะนำที่เราอาจไม่ได้เห็นด้วย พอไม่ทำตามก็ด่า แต่ความเป็นจริงคือเขาไม่ได้ถูกเสมอไป แม่ไม่ทำงานมานานแล้วจนกรอบความคิด ความตัดสินใจไม่อยู่บนมาตรฐานสังคมไปนานแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว เราแปลกใจมากที่เรา แม่พยายามบอกว่าไม่ต้องไปสนเพื่อน มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้นที่ต้องทำธุรกิจด้วยกันหรือพึ่งพาได้ แต่สิ่งที่เราได้สัมผัส บางที่เพื่อน หรือ แม่ของเพื่อน หรือ ป้า ยังช่วยเหลือเราแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน จนเราแปลกใจ ในช่วงที่เราลำบากโดนคนเอาเปรียบสิ่งที่แม่ทำคือเรียกเราไปด่า แต่ไม่เคยสอนเราว่ารับมือยังไง ควรคิดยังไง และถ้าเราแก้ต่างให้ตัวเอง จะขู่ว่าเถียงก็ไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือ ใช้เวลาที่เราต้องการมากที่สุดในการขู่

เป็นเม่ที่รักเงินมากกว่าลูกและครอบครัว หิวหระหายเงิน ถ้าเป็นเรื่องได้เสียผลประโยชน์จะวิ่งเข้ามาก่อนคนแรก

ไม่สอนให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน เพราะรู้สึกว่าอำนาจการควบคุมในบ้านจะไม่อยู่ที่ตัวเอง ไม่สอนลูกว่าควรมีสิทธิหรือระยะห่างอะไรทั้งสิ้น บอกว่าการไม่บอกว่าคิดอะไรอยู่หรือไปรู้อะไรมาแล้วไม่บอกแม่คือสิ่งที่ผิดอย่างมาก เปิดอ่านเอกสาร หรือแม้แต่จดหมายจากธนาคารที่จ่าหน้าถึงเราแบบตามใจชอบ ถึงแม้จะอยู่ในบ้านเดียวกันก็ควรเคารพสิทธิส่วนตัว เราทำธุรกิจกับเพื่อน ยังพยายามเข้ามายุ่ง
 
เรารู้สึกว่าความผิดพลาดมันเกิดจากตอนที่พ่อเราเป็นคนดีและโดนหลอก แต่งงานเข้ามาแล้วเผยตัวเป็นอีกอย่างและทำลายทั้งชีวิตพ่อ ความสัมพันธ์พ่อกับครอบครัวตัวเอง และโอกาสของลูกในทุกๆจังหวะชีวิตเพราะความอิจฉา สนใจแต่เงินและอำนาจตัวเองในบ้าน สิ่งที่คนคนนี้ทำ ทำลายคนดีๆรอบตัวทุกคน และไม่ควรได้รับสิ่งดีๆจากใครอีกแล้ว สงสารพ่อและตัวเองและลุงที่เป็นพี่ชายของเขา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่