BYD จ่อแซง TESLA ขึ้นแท่นรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิยมมากที่สุดในโลก

BYD จ่อแซง Tesla ขึ้นแท่นรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิยมมากสุดในโลก หลังยอดขายไตรมาสล่าสุด ตามเพียง 3,456 คัน


สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน จ่อแซงหน้าเทสลา (Tesla) เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก หลังยอดขายไตรมาสล่าสุด ตามหลังเทสลาเพียง 3,456 คันเท่านั้น
.
ก่อนหน้านี้ นายอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา เคยกล่าวล้อเลียน BYD ว่า ไม่ใช่คู่แข่งที่แท้จริงและสามารถแข่งขันกับเทสลาได้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่า BYD ของมหาเศรษฐี หวัง ชวนฟู (Wang Chuanfu) พร้อมที่จะก้าวขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของโลก ภายหลัง BYD มีแนวโน้มที่จะแซงหน้าเทสลา ในฐานะผู้นำรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ของโลกอย่างเต็มรูปแบบ หนุนโดยยอดขายในไตรมาสปัจจุบัน และจะกลายเป็นทั้งจุดเปลี่ยนเชิงสัญลักษณ์สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นการยืนยันเพิ่มเติมถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก โดยไตรมาสที่ผ่านมา เทสลา สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า BYD เพียง 3,456 คันเท่านั้น
.
ปัจจุบัน แวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังคงมียักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า มอเตอร์ โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป (Volkswagen AG) และ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors Co.) เป็นผู้ครองตลาด ขณะที่ค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน อาทิ BYD และ SAIC Motor Corp. กำลังทำตลาดและครอบครองส่วนแบ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีนกำลังเป็นคู่แข่งกับค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการส่งออกรถยนต์ จากข้อมูลเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า จีนส่งออกรถยนต์ประมาณ 1.3 ล้านคันจากทั้งหมด 3.6 ล้านคัน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
.
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BYD จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันที่ 3 ในปีหน้า ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยเพิ่มมากขึ้น เช่น ความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติ 
.
ขณะเดียวกัน นายอีลอน มัสก์ เปิดเผยว่า เทสลา กำลังวางแผนการผลิตรถยนต์ Model Y รุ่นรีเฟรชใหม่ ซึ่งคาดว่ารถยนต์ล็อตแรก ๆ จะผลิตในโรงงาน Giga Shanghai เฟส 2 ของจีน โดยในช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้ เทสลาจะระงับการผลิตรถยนต์ทั้งหมดประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่ออัปเกรดโรงงานบางส่วน สำหรับการผลิตรถยนต์ Model Y รุ่นใหม่ และจะเริ่มการผลิตจำนวนมากในช่วงกลางปี 2568 
.
โดย Model Y รุ่นใหม่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในมากขึ้น มากกว่าการอัปเกรดเวอร์ชันล่าสุดในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา หลังเปิดตัวครั้งแรกในปี 2563 ก่อนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และติดอันดับ 1 ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขายดีที่สุดทั่วโลก โดยประเทศจีน ถือเป็นตลาดหลักของรถยนต์รุ่นนี้ มีการส่งมอบคิดเป็นเกือบ 75% ของยอดขายโดยรวมของเทสลา
.
ในปี 2566 ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน ต่างเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทำให้เทสลา ต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหม่ เช่น Xpeng และ BYD ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาด เทสลาต้องเริ่มวางแผนผลิตรถยนต์ Model Y รุ่นใหม่ และเร่งรีบให้เปิดตัวและวางขายในปีหน้า เพื่อให้ทันต่อการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น 

https://www.facebook.com/share/p/wBkt5x51oh7vNVex/?mibextid=qi2Omg
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่