"จิตนี้ไมมีสูญ"
" .. ทีนี้จิตดวงนี้เมื่อหลุดพ้นออกไปแล้วก็ไม่สูญ "คือไม่สูญมาตั้งแต่ต้นจนถึงจุดสุดท้าย" ที่ตามตัวของจิตตามร่องรอยของจิตทัน "กลายเป็นจิตที่บริสุทธิ์ขึ้นมาก็ไม่สูญ" จิตที่บริสุทธิ์นี้แลยิ่งชัดเจนว่า "เป็นจิตที่เที่ยงตรง ที่ท่านให้นามว่านิพพานเที่ยง" เที่ยงที่จิตบริสุทธิ์เต็มส่วนแล้ว "ไม่มีกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไปครอบได้เลย" เป็นจิตที่เที่ยง ไม่ใช่จิตที่สูญ
นี่ละพระพุทธเจ้าตรัสรู้แต่ละพระองค์ พระสาวกทั้งหลายตรัสรู้แต่ละองค์ ๆ ถึงธรรมประเภทที่ว่า "อมตธรรม อมตจิต คือจิตไม่ตาย ธรรมไม่ตาย กลายเป็นธรรมธาตุครอบโลกธาตุ" ที่ท่านแสดงว่าธรรมมีอยู่ ๆ "คือธรรมธาตุนี้แล" มีครอบโลกธาตุตลอดมากี่กัปกี่กัลป์ .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
“จิตนี้ไมมีสูญ”
" .. ทีนี้จิตดวงนี้เมื่อหลุดพ้นออกไปแล้วก็ไม่สูญ "คือไม่สูญมาตั้งแต่ต้นจนถึงจุดสุดท้าย" ที่ตามตัวของจิตตามร่องรอยของจิตทัน "กลายเป็นจิตที่บริสุทธิ์ขึ้นมาก็ไม่สูญ" จิตที่บริสุทธิ์นี้แลยิ่งชัดเจนว่า "เป็นจิตที่เที่ยงตรง ที่ท่านให้นามว่านิพพานเที่ยง" เที่ยงที่จิตบริสุทธิ์เต็มส่วนแล้ว "ไม่มีกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไปครอบได้เลย" เป็นจิตที่เที่ยง ไม่ใช่จิตที่สูญ
นี่ละพระพุทธเจ้าตรัสรู้แต่ละพระองค์ พระสาวกทั้งหลายตรัสรู้แต่ละองค์ ๆ ถึงธรรมประเภทที่ว่า "อมตธรรม อมตจิต คือจิตไม่ตาย ธรรมไม่ตาย กลายเป็นธรรมธาตุครอบโลกธาตุ" ที่ท่านแสดงว่าธรรมมีอยู่ ๆ "คือธรรมธาตุนี้แล" มีครอบโลกธาตุตลอดมากี่กัปกี่กัลป์ .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน