ตอนนี้ Wonka เพิ่งเข้าโรง อดไม่ได้ที่จะหยิบหนังของ "ทิโมธี ชาลาเมต์" มาแนะนำกัน เป็นเรื่องที่ส่วนตัวประทับใจ และภาพสวยด้วยเลยอยากมาป้ายยากัน
🔖
A Rainy Day in New York🔖
ความสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัวของคู่รักมหาลัยที่มีความฝันแตกต่าง
ตัวหนังดำเนินไปในช่วงยุคปัญญาชนที่มาตามฝันในนิวยอร์ค
เกิดเหตุการณ์สลับกันไปมาจนวุ่นวาย
เรื่องราวของ แกสบี้ และ แอชลีย์ (ทิโมธี ชาลาเมต์ และ แอลแฟนนิ่ง)
คู่รักนักศึกษาที่เข้ามาทำธุระในนิวยอร์ค 1 วัน
แต่มีเหตุต้องแยกกันไปทำความรู้จักกับบุคคลหลากหลายในนครนิวยอร์ค
แกสบี้ได้เจอกันสาวปริศนา (เซเลน่า โกเมซ) ที่จะทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป
รีวิว ส่วนตัวชอบหนังของวูดดี้ อัลเลน อยู่แล้ว เลยรอดูเรื่องนี้เลน แต่แอบผิดหวังนิดหน่อย กับความราบเรียบของเรื่อง จำได้ว่าประทับใจ midnight in paris และ cafe society มากๆ เรื่องนี้มีกลิ่นคล้ายๆกัน แต่เมจิกโมเม้นสไตล์ปู่วูดดี้ ไม่มากเท่าไหร่ รสจืดลงไปมาก สงสัยมือตกไปมากตั้งแต่เจอกระแส #Metoo
🔖
Don’t Look Up🔖
หนังตลกร้าย เสียดสีจิกกัดสังคม ว่าด้วยนักดาราศาสตร์สองคนที่ค้นพบว่า
กำลังจะมีอุกกาบาตพุ่งชนโลกในไม่ช้า พวกเขาต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แต่ก็ต้องเจออุปสรรคมากมาย จากผู้นำที่เห็นแก่ตัวและเอาหน้า (เสียดสีสัมคมการเมืองได้ดีมากๆ)
เรื่องนี้เต็มไปด้วยนักแสดงชื่อดังมากมาย ทั้งลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ เจนนิเฟอร์ ลอว์เลน
มีอริอาน่า เกรนเดมาแจมด้วย ส่วนทิมมี่ของเรามาในพาร์ทของเจนนิเฟอร์
เรื่องนี้เป็นออิรจินัลเน็ตฟลิก มีพากย์ไทยด้วยค่ะ
รีวิว เต็มอิ่มกับนักแสดงเบอร์ใหญ่ในเรื่องจริงๆ บทพูดก็ดีมาก เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับใจและสมจริงกับเหตุการณ์บ้านเมืองสุดๆ มีมุกตลกจิกกัดแบบเจ็บๆ และแบ่งพาร์ทเล่าเรื่องได้ไหลลื่นมากๆ เดอะ เบส ของออริจินัลเน็ตฟลิกเรื่องนึงเลยแหละ
🔖
The French Dispatch🔖
ผลงานจากผู้กำกัสุดแนว เวส แอนเดอร์สัน กับหนังที่เล่าเรื่องของนิตยสารที่กำลังจะปิดตัวลง
และนี่เป็นฉบับสุดท้ายที่มีคอลัมน์พิเศษทั้งเล่น ตัวหนังแบ่งพาร์ทการเล่าเรื่อง เป็นคอลัมน์ต่างๆ
อัดแน่นไปด้วยนักแสดงที่เคยร่วมงานกับ ผู้กำกับสุดแนวคนนี้ ทั้ง บิล เมอร์เรย์, ทิลดา สวินตัน,
โอเวน วิลสัน และอีกมากมาย รวมเป็นเรื่องเล่าในนิตยสาร 1 เล่ม
ส่วนพาร์ทของทิมมี่ เป็นเรื่องราวของนักศึกษา แกนนำประท้วงในฝรั่งเศส
ที่มีความสัมพันธ์กับคนข่าวผู้เขียนคอลัมน์นึงในนิตยสารเล่มนี้
รีวิว เป็นอีกเรื่องโปรดจาก เวส แอนเดอร์สัน สำหรับเรา ทั้งลำดับภาพ และ วิธีการเล่าเรื่องที่เหมือนเปิดหน้ากระดาษนิตยสารแล้วอ่านคอลัมน์มันส์ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวพิลึก และอารมณ์ส่วนตัวของเหล่าคอลัมนิสต์แต่ละท่านในหนังเรื่องนี้ ประหนึ่งกำลังฟังเดี่ยวจากโน๊ต อุดม ที่ได้แชร์ประสบการณ์แปลกๆในชีวิต แต่เห็นภาพตัวบุคคลในเรื่องราวนั้นๆไปด้วย
🔖
Call Me By Your Name🔖
หนังแจ้งเกิดทิมมี่ ที่มีงานภาพ เพลง และ บรรยากาศสวยสบายตา
ในฤดูร้อนปี 1983 ทางตอนเหนือของอิตาลี กับการมาพบกันในช่วงเวลาสั้นๆ
ของเด็กหนุ่ม เอลิโอ และ นักศึกษาโบราณคดี โอลิเวอร์ กับช่วงเวลา
ที่ทำให้ทั้งคู่ผูกสัมพันธ์แนบชิด แม้จะยังไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์
แต่ก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของทั้งกันและกัน
เคมีนักแสดงทั้งทิมมี่และอาร์มี่ เข้ากันมากๆ บวกกับบรรยากาศโรแมนติก
และความรู้สึกอบอุ่นแบบหน่วงๆ
ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังโรแมนติกในดวงใจของใครหลายๆคน
รีวิว ว่ากันตามจริง เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ดังมากๆ สำหรับวัยรุ่นจัดว่าอินดี้ ใครชอบคือวัยรุ่นเทสดี ก็จริงนะกับเรื่องของงานภาพและเพลงประกอบ นักแสดงต่างก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ส่วนตัวเรากลับรู้สึกว่าเรื่องราวมันยังขาดบางอย่าง ที่ถ้าเสริมเข้าไป อาจทำให้อินกับความรู้สึกวูบวาบในรักฤดูร้อนได้มากกว่านี้...แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังของธิมมี่ที่เราชอบอยู่ดี เพราะน้องแสดงไว้ได้อารมณ์มากๆ
🔖
Little Women🔖
หนังพีเรียดย้อนยุคจากวรรณกรรมคลาสสิค 4 ดรุณี ที่ภาพสวย บรรยากาศละมุน
เรื่องราวของ 4 สาวพี่น้องที่บุคลิกแตกต่าง กับเด็กหนุ่มข้างบ้านฐานะดี ที่เข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับสาวๆ
กับความสัมพันแบบเพื่อน และคนรัก ที่เปลี่ยนไปตามวัยของแต่ละคน
เรื่องนี้ได้นักแสดงขวัญใจใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น ฟลอเรนซ์ พิว เซอร์ชา โรนัน และ เอ็มม่า วัตสัน
ส่วนทิมมี่ ของเราก็บทเด่นไม่แพ้สาวๆทั้ง4คน
รีวิว เรื่องนี้เป็นงานกำกับของสาวเกรต้า เกอร์วิค ก่อนเรื่องบาร์บี้ บอกได้เลยว่านักแสดงกับบทนั่น ทำให้วรรณกรรมเรื่องนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ พีเรียสเราชอบอยู่แล้ว ยิ่งบวกเคมี เซอร์ช่า กับ ทิมมี่ เข้าไปดู น่ารักน่าเอ็นดู แบบ สิบเต็มสิบไปเลย
ยังมีหนังดีๆของทิมมี่อีกทั้ง Dune และ Bones and All ใครชอบน้องจากเรื่องไหนคอมดม้นมาเล่าสู่กันฟังได้เลยนะคะ
รีวิว 5 หนังจาก ทิโมธี ชาลาเมต์
ตอนนี้ Wonka เพิ่งเข้าโรง อดไม่ได้ที่จะหยิบหนังของ "ทิโมธี ชาลาเมต์" มาแนะนำกัน เป็นเรื่องที่ส่วนตัวประทับใจ และภาพสวยด้วยเลยอยากมาป้ายยากัน
🔖A Rainy Day in New York🔖
ความสัมพันธ์ที่ไม่ลงตัวของคู่รักมหาลัยที่มีความฝันแตกต่าง
ตัวหนังดำเนินไปในช่วงยุคปัญญาชนที่มาตามฝันในนิวยอร์ค
เกิดเหตุการณ์สลับกันไปมาจนวุ่นวาย
เรื่องราวของ แกสบี้ และ แอชลีย์ (ทิโมธี ชาลาเมต์ และ แอลแฟนนิ่ง)
คู่รักนักศึกษาที่เข้ามาทำธุระในนิวยอร์ค 1 วัน
แต่มีเหตุต้องแยกกันไปทำความรู้จักกับบุคคลหลากหลายในนครนิวยอร์ค
แกสบี้ได้เจอกันสาวปริศนา (เซเลน่า โกเมซ) ที่จะทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป
รีวิว ส่วนตัวชอบหนังของวูดดี้ อัลเลน อยู่แล้ว เลยรอดูเรื่องนี้เลน แต่แอบผิดหวังนิดหน่อย กับความราบเรียบของเรื่อง จำได้ว่าประทับใจ midnight in paris และ cafe society มากๆ เรื่องนี้มีกลิ่นคล้ายๆกัน แต่เมจิกโมเม้นสไตล์ปู่วูดดี้ ไม่มากเท่าไหร่ รสจืดลงไปมาก สงสัยมือตกไปมากตั้งแต่เจอกระแส #Metoo
🔖Don’t Look Up🔖
หนังตลกร้าย เสียดสีจิกกัดสังคม ว่าด้วยนักดาราศาสตร์สองคนที่ค้นพบว่า
กำลังจะมีอุกกาบาตพุ่งชนโลกในไม่ช้า พวกเขาต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แต่ก็ต้องเจออุปสรรคมากมาย จากผู้นำที่เห็นแก่ตัวและเอาหน้า (เสียดสีสัมคมการเมืองได้ดีมากๆ)
เรื่องนี้เต็มไปด้วยนักแสดงชื่อดังมากมาย ทั้งลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ เจนนิเฟอร์ ลอว์เลน
มีอริอาน่า เกรนเดมาแจมด้วย ส่วนทิมมี่ของเรามาในพาร์ทของเจนนิเฟอร์
เรื่องนี้เป็นออิรจินัลเน็ตฟลิก มีพากย์ไทยด้วยค่ะ
รีวิว เต็มอิ่มกับนักแสดงเบอร์ใหญ่ในเรื่องจริงๆ บทพูดก็ดีมาก เป็นอีกเรื่องที่น่าประทับใจและสมจริงกับเหตุการณ์บ้านเมืองสุดๆ มีมุกตลกจิกกัดแบบเจ็บๆ และแบ่งพาร์ทเล่าเรื่องได้ไหลลื่นมากๆ เดอะ เบส ของออริจินัลเน็ตฟลิกเรื่องนึงเลยแหละ
🔖The French Dispatch🔖
ผลงานจากผู้กำกัสุดแนว เวส แอนเดอร์สัน กับหนังที่เล่าเรื่องของนิตยสารที่กำลังจะปิดตัวลง
และนี่เป็นฉบับสุดท้ายที่มีคอลัมน์พิเศษทั้งเล่น ตัวหนังแบ่งพาร์ทการเล่าเรื่อง เป็นคอลัมน์ต่างๆ
อัดแน่นไปด้วยนักแสดงที่เคยร่วมงานกับ ผู้กำกับสุดแนวคนนี้ ทั้ง บิล เมอร์เรย์, ทิลดา สวินตัน,
โอเวน วิลสัน และอีกมากมาย รวมเป็นเรื่องเล่าในนิตยสาร 1 เล่ม
ส่วนพาร์ทของทิมมี่ เป็นเรื่องราวของนักศึกษา แกนนำประท้วงในฝรั่งเศส
ที่มีความสัมพันธ์กับคนข่าวผู้เขียนคอลัมน์นึงในนิตยสารเล่มนี้
รีวิว เป็นอีกเรื่องโปรดจาก เวส แอนเดอร์สัน สำหรับเรา ทั้งลำดับภาพ และ วิธีการเล่าเรื่องที่เหมือนเปิดหน้ากระดาษนิตยสารแล้วอ่านคอลัมน์มันส์ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวพิลึก และอารมณ์ส่วนตัวของเหล่าคอลัมนิสต์แต่ละท่านในหนังเรื่องนี้ ประหนึ่งกำลังฟังเดี่ยวจากโน๊ต อุดม ที่ได้แชร์ประสบการณ์แปลกๆในชีวิต แต่เห็นภาพตัวบุคคลในเรื่องราวนั้นๆไปด้วย
🔖Call Me By Your Name🔖
หนังแจ้งเกิดทิมมี่ ที่มีงานภาพ เพลง และ บรรยากาศสวยสบายตา
ในฤดูร้อนปี 1983 ทางตอนเหนือของอิตาลี กับการมาพบกันในช่วงเวลาสั้นๆ
ของเด็กหนุ่ม เอลิโอ และ นักศึกษาโบราณคดี โอลิเวอร์ กับช่วงเวลา
ที่ทำให้ทั้งคู่ผูกสัมพันธ์แนบชิด แม้จะยังไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์
แต่ก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของทั้งกันและกัน
เคมีนักแสดงทั้งทิมมี่และอาร์มี่ เข้ากันมากๆ บวกกับบรรยากาศโรแมนติก
และความรู้สึกอบอุ่นแบบหน่วงๆ
ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังโรแมนติกในดวงใจของใครหลายๆคน
รีวิว ว่ากันตามจริง เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ดังมากๆ สำหรับวัยรุ่นจัดว่าอินดี้ ใครชอบคือวัยรุ่นเทสดี ก็จริงนะกับเรื่องของงานภาพและเพลงประกอบ นักแสดงต่างก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ส่วนตัวเรากลับรู้สึกว่าเรื่องราวมันยังขาดบางอย่าง ที่ถ้าเสริมเข้าไป อาจทำให้อินกับความรู้สึกวูบวาบในรักฤดูร้อนได้มากกว่านี้...แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังของธิมมี่ที่เราชอบอยู่ดี เพราะน้องแสดงไว้ได้อารมณ์มากๆ
🔖Little Women🔖
หนังพีเรียดย้อนยุคจากวรรณกรรมคลาสสิค 4 ดรุณี ที่ภาพสวย บรรยากาศละมุน
เรื่องราวของ 4 สาวพี่น้องที่บุคลิกแตกต่าง กับเด็กหนุ่มข้างบ้านฐานะดี ที่เข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับสาวๆ
กับความสัมพันแบบเพื่อน และคนรัก ที่เปลี่ยนไปตามวัยของแต่ละคน
เรื่องนี้ได้นักแสดงขวัญใจใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น ฟลอเรนซ์ พิว เซอร์ชา โรนัน และ เอ็มม่า วัตสัน
ส่วนทิมมี่ ของเราก็บทเด่นไม่แพ้สาวๆทั้ง4คน
รีวิว เรื่องนี้เป็นงานกำกับของสาวเกรต้า เกอร์วิค ก่อนเรื่องบาร์บี้ บอกได้เลยว่านักแสดงกับบทนั่น ทำให้วรรณกรรมเรื่องนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ พีเรียสเราชอบอยู่แล้ว ยิ่งบวกเคมี เซอร์ช่า กับ ทิมมี่ เข้าไปดู น่ารักน่าเอ็นดู แบบ สิบเต็มสิบไปเลย
ยังมีหนังดีๆของทิมมี่อีกทั้ง Dune และ Bones and All ใครชอบน้องจากเรื่องไหนคอมดม้นมาเล่าสู่กันฟังได้เลยนะคะ