ษัษฐรัมย์ ประกาศ ‘ปฏิรูปชีวิตคนทำงาน’ เปลี่ยนทุกบาทให้คุ้มศักดิ์ศรี เก็ตหัวอกคนธรรมดา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4326805
ษัษฐรัมย์ เก็ตหัวอกคนธรรมดา ประกาศ ‘ปฏิรูปชีวิตคนทำงาน’ ชวนเลือกทีมให้ถล่มทลาย ปักหมุดไต่สู่รัฐสวัสดิการ เปลี่ยนทุกบาทให้คุ้มศักดิ์ศรี
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ห้องประชุมประภาศน์ อวยชัย อาคารเอนกประสงค์ 1 ชั้น 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย สถาบันปรีดี พนมยงค์ สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ ไทยพีบีเอส สำนักข่าวชายขอบ สำนักข่าว The Reporters และ The Isaan Record จัดเวทีเสวนา“
เลือกตั้งคณะกรรมการ ประกันสังคม ปฏิรูปอะไร? อย่างไร?”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 11.00 น. ผู้สมัครรับเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมทั้ง 10 คน เริ่มแสดงวิสัยทัศน์ของทีมทีละราย ท่ามกลางผู้ร่วมงานคับคั่งร่วมฟังล้นห้องประชุม
ในตอนหนึ่ง ตัวแทน ทีมประกันสังคมก้าวหน้า รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ว่า ตนสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่หลังจากปี 2540 การออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ทำให้อาจารย์เป็นผู้ประกันตนภายใต้เงื่อนไขนี้ ซึ่งแม่และภรรยาของตนก็ใช้สิทธิบัตรสอง
“
เราเจ็บปวดและกลัวเหมือนกับพวกท่าน ในความเปราะบางในชีวิตของเรา ‘ทีมประกันสังคมก้าวหน้า’ เราคือตัวแทนของฝั่ง ประชาธิปไตย คือผู้คนจากปี 2563 ที่ไม่เคยคุกเข่า ค้อมหัวสังฆกรรมกับให้อำนาจเผด็จการ”
ประกันสังคม ได้มาด้วยอำนาจของฝั่งประชาธิปไตย เมื่อ 33 ปีก่อน แต่ในขณะเดียวกัน 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประกันสังคมตกต่ำลงด้วยการรัฐประหารถึง 3 ครั้ง ดังนั้น ตลอด 9 ปีมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่งตั้งบอร์ดประกันสังคม ให้บริหารกองทุนนี้มาตอลด ทำให้ไม่ยึดโยงกับผู้ประกันตน”
“
เมื่อ พ.ค.2566 ฝ่ายประชาธิปไตยเราชนะเลือกตั้งมาแล้ว ครั้งนี้ถ้าเราต้องการปฏิรูปชีวิตของคนทำงาน คนธรรมดาอย่างพวกเรา เราต้องให้ฝั่งประชาธิปไตยของเราชนะอีกครั้ง” รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าว
รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า รูปธรรมนโยบายของ ‘
ทีมประกันสังคมก้าวหน้า’ คือประกอบด้วยคนจากหลากหลายกลุ่มที่ไม่เคยคุกเข่า ค้อมหัว ด้ายซ้ายมือตนคือ คุณ
ไหม ธนพร วิจันทร์ ที่ต่อสู้เรียกร้องค่าชดเชยให้กับผู้ใช้แรงงาน เรามีคุณ
นลัทพร ไกรฤกษ์คนที่ใช้ชีวิตบนวีลแชร์ทั้งชีวิต เรามีคุณ
โดม ศิววงศ์ สุขทวี ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ คุณ
ธนพล เชื้อเมืองพาน คนที่มาจากสหภาพแรงงานย่านรังสิต สหาพแรงงานฝั่งประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยนี้
“
หลายท่ามมองว่าเราเป็นนักอุดมคติ แต่ตามชื่อที่ผมเอ่ยมา แม้กระทั่งตัวผมที่ทำงานวิจัย ศึกษาเรื่องประกันสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ผมยืนยันว่า เราคือนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ที่เราต้องการเปลี่ยนบาทแรกถึงบาทสุดท้ายของประกันสังคม ให้กลายเป็นสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและสมศักดิ์ศรี ของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน” รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์เผย
รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำมี 2 อย่าง คือการปรับโครงสร้างการบริหารประกันสังคม ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และเราสามารถตอบได้ว่า เราจะเอาเงินมาจากไหนในวันที่แม่ท้องแก่ ต้องกู้หนี้นอกระบบมาเป็นเงินค่าคลอด วันที่พ่อต้องทำโอทีมากมาย วันที่คนแก่ไม่สามารถที่จะเกษียณอายุได้ เพราะเงินบำนาญอันน้อยนิด
“
แต่บอร์ดประกันสังคมไปดูงานต่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำอีก ผลาญงบประมาณที่ไม่จำเป็นทั้งๆ ที่มีงบประมาณด้านการวิจัยมากมายมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยเพียงพอแล้ว แต่การใช้จ่ายหลายอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้รู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้เจ็บปวดกับเราเลย ซ้ำร้ายกว่านั้น ทุกท่านลองพิจารณา มีงบประมาณหลายอย่างที่เรารู้ว่าใช้เพียงแค่หลักร้อยล้าน พันล้าน ก็สามารถประคองชีวิตของคนที่เจ็บปวดในช่วงโควิด ให้ผ่านไปได้ แต่ประกันสังคมหมดเงินไปกับการพิมพ์ปฏิทินปีนึงเฉียดร้อยล้าน
ทุกท่าน นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ส.ส.อภิปรายในสภาซ้ำแล้วซ้ำอีก งบประมาณที่ไม่ได้มีความจำเป็นเหล่านี้ ยังไม่นับรวมช่วงที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าประกันสังคมลงทุนไปกับกองทุนพลัส ต่างๆ ขาดทุนครั้งละร้อยล้าน พันล้าน
ทุกท่าน ร้อยล้านพันล้านที่หายไป สามารถเพิ่มการลาคลอดได้ สามารถทำให้เรารักษามะเร็งให้หายได้ ไม่ใช่แคปไว้อยู่ที่ 50,000 ผมคุยกับพันธมิตรสหภาพแพทย์ของเรา มะเร็งในโลกนี้มีประมาณ 200 กว่าโรค แต่ประกันสังคมรักษาอยู่ 20 โรคมะเร็ง วันนี้ประกันสังคม 30 กว่าปี สิทธิในการรักษาพยาบาล ตอนนี้เริ่มจะต่ำเตี้ยกว่าสิทธิ สปสช.ไปเสียแล้ว ปัญหาใหญ่ตัวนี้เกิดขึ้นจากการที่ประกันสังคมไม่ยึดโยงกับคนธรรมดา ไปลงทุนกับบริษัทที่ขาดธรรมาภิบาล ไปลงทุนกับบริษัทที่กดขี่ผู้ใช้แรงงาน ทำลายสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนรัฐบาลอำนาจนิยม นี่คือสิ่งที่เราต้องแก้ไขทันที ให้การลงทุนต่างๆ ยึดโยงกับงานที่เราเรียกว่า Decent work ยึดโยงผลประโยชน์ของผู้ประกันตน มากกว่ายึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ของกลุ่มบางกลุ่มโดยเฉพาะ ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด” รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์ชี้
รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า หากทำเรื่องดังกล่าวได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ เราจะสามารถขยายสิทธิประโยชน์ได้ คนเกิดน้อย ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กมากมายมหาศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข เชื้อเชิญอย่างไรคนก็ยังไม่สามารถมีลูกได้ เราต้องการเพิ่มสิทธิ ‘
เบิกค่าคลอดบุตร’ จาก 15,000 เป็น 20,000 บาท เงินชดเชยการนเลี้ยงดูเด็ก ขยายถึง 12 ปี ไปให้ถึงวัยเรียน
“
ความเจ็บปวดด้านหนึ่ง คือเงินบำนาญ ที่เราไม่สามารถคาดหวัง คาดหมายให้เกิดความมั่นคงได้ บางคนส่งมา 50 กว่าปี ถูกเลิกจ้าง ไปส่งมาตรา 39 ด้วยตัวเองแทนที่จะได้เงินบำนาญ 5,000 – 6,000 บาท แต่ได้ 1,700 นั่นคือความเจ็บปวดของผู้คนธรรมดา เราสามารถปรับปรุงการรักษาพยาบาลได้ อย่างน้อย สิทธิทางประกันของเราต้องไม่น้อยกว่า สปสช. รักษารากฟัน 17,500 นี่คือสิทธิที่ 30 บาทใช้ได้ แต่ประกันสังคมต้องถอนอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะเก็บฟันตัวนี้ไว้ได้ นี่คือชีวิตของคนธรรมดา เราต้องการทำให้เห็นว่า เราจะสามาถรผลักดันให้เกิด ‘บัญชียาเดียวกัน’ ทั้งประเทศให้ได้ อุดมคิตของเราคือการ รวมกองทุน”
รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์ยกตัวอย่าง ยารักษาโรคหัวใจบางตัว สามารถลดอัตราการตายของคนไข้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ถูกมองว่าไม่คุ้ม เพราะใช้คณิตศาสตร์ประกันภัยนำ ทำให้ไม่เห็นคุณค่า ชีวิตมนุษย์ ซึ่ง งบประมาณส่วนเพิ่ม คำนวณแล้วยังเหลืออยู่กว่า 40,000 ล้าน ประกันสังคม คือตัวอย่างสวัสดิการของคนธรรรมดา ที่ไม่มีอภิสิทธิ์ ไม่มียศตำแหน่ง
“
คนธรรมดาที่ไม่สามารถซื้อประกันเอกชนราคาแพงได้ ฉะนั้น วันนี้เราต้องการให้ประกันสังคมเป็นหลังพิงของคนธรรมดา และด้วยความปราถนาของเรา คนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิผู้ใช้แรงงงาน คนพิการต่างๆ เราต้องการปักธงให้ประกันสังคม เป็นก้าวแรกของ ‘รัฐสวัสดิการ’ ประกันสังคม ต้องเป็นประชาธิปไตย สามารถตรวจสอบได้” รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าว และว่า
วันที่ 24 ธันวาคมนี้ ตนอยากบอกว่าในช่วงแรกมีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งน้อยมาก แต่การรณรงค์อย่างแข็งขัน เชื่อมโยงให้เห็นว่า เราต้องการเปลี่ยนประเทศนี้ เปลี่ยนสังคมเป็นประชาธิปไตย มีผู้คนลงทะเบียนก้าวกระโดดขึ้นมา 8-9 แสนคน
“
ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ ผมอยากชวนทุกท่านเบอร์ 27-33 ประกันสังคมก้าวหน้า พันธมิตรของคณะก้าวหน้า และเครือข่ายสหภาพแรงงาน ฝั่งประชาธิปไตยมากมาย ให้เป็นก้าวแรกสู่ ‘รัฐสวัสดิการ’ ให้เป็นชัยชนะของฝั่งประชาธิปไตยอีกครั้ง” รศ.ดร.
ษัษฐรัมย์กล่าว
ไอซ์ รักชนก เปิดใจลั่น พร้อมรับทุกคำตัดสิน ลุ้นขอเลื่อนศาลได้หรือไม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8005772
ไอซ์ รักชนก เปิดใจลั่น พร้อมรับทุกคำตัดสิน ลุ้นขอเลื่อนศาลได้หรือไม่ เผยหลุด ส.ส.หรือไม่ อยู่ที่คำพิพากษา เบื้องต้นมีหลายกรณี
วันที่ 12 ธ.ค.2566 น.ส.
รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีศาลนัดอ่านคำพิพากษา ว่า ตนทำหนังสือเพื่อขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ 683/2565 ที่โจทย์ยื่นฟ้อง ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในวันที่ 13 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เนื่องจากติดประชุมสภาฯ
ทั้งนี้ สอบถามไปยังศาลฯ เมื่อเวลา 13.00 น แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ คาดว่าจะได้ทราบผลในวันนี้ หากไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ จะไปรับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมดำเนินการอะไรต่อไปหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสินแล้ว น.ส.
รักชนก กล่าวว่า ตรงนี้มันมีหลายกรณี ถ้าศาลฯยกฟ้อง คือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากศาลฯสั่งลงโทษ แบ่งออกเป็น
1. รอลงอาญา คือ ตนสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
2. ถ้าลงโทษจำคุกและสั่งจำคุกเลยทันที ต้องไปดูว่าสามารถทำเรื่องขอประกันตัวได้หรือไม่ หากสามารถขอประกันตัวได้ ตนสามารถกลับมาทำงานและสู้คดีได้ตามปกติ แต่หากประกันไม่ได้และต้องจำคุก แม้แต่วันเดียวก็จะพ้นจากสภาพ ส.ส. ทันที
“
ก็เตรียมตัวไว้ทุกทาง ถ้าไม่ติดคุกก็ทำงานเหมือนเดิม ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ถ้าติดก็ติด” น.ส.
รักชนก กล่าว
เมื่อถามว่า หากพ้นสภาพส.ส.ไปแล้ว จะยังกลับมาทำงานในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่ น.ส.
รักชนก กล่าวว่า ตนคงช่วยพรรคทำงานอยู่เบื้องหลัง สถานะ ส.ส. มันอาจมี 1 เสียงที่สามารถนำมาโหวตในสภาฯได้ แต่มันก็จำกัดเราในหลายอย่าง ทั้งเสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการแสดงออก ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะเป็นชื่อเสียงของพรรคด้วย แต่ถ้ามาทำเบื้องหลังแล้วคงเป็นอิสระมากขึ้น และยืนยันว่ายังคงช่วยงานพรรคเหมือนเดิม
น.ส.
รักชนก กล่าวว่า มาถึงวันนี้ไม่ได้กังวลแล้ว ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมแล้ว และยืนยันพร้อมรับทุกคำตัดสินไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
กสิกรไทยหั่นจีดีพีปี’66 เหลือ 2.5% พิษเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
https://www.khaosod.co.th/economics/news_8005701
นาย
บุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 นี้ มีแนวโน้มโตต่ำกว่าคาด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 2.5% จาก 3.0% จากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจจีนที่พึ่งพาการส่งออกสูง แต่ส่งออกติดลบถึง 25% นอกจากนี้ จีนยังคงเผชิญกับปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลลบกับอุปสงค์ภายในประเทศ
ดังนั้นจึงส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทย ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มองว่าจะเข้ามาเพียง 27.6 ล้านคน และแม้ว่าการส่งออกสินค้าที่จะหดตัวน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ติดลบ 1.3% จากติดลบ 2.5% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวช่วง 1-2 เดือนสุดท้ายของปี
JJNY : 5in1 ษัษฐรัมย์ประกาศ│ไอซ์ รักชนกเปิดใจ│กสิกรไทยหั่นจีดีพีปี’66 เหลือ 2.5%│เวียตนามส่งออกจีนโตเร็ว│ฟิลิปปินส์กร้าว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4326805
ษัษฐรัมย์ เก็ตหัวอกคนธรรมดา ประกาศ ‘ปฏิรูปชีวิตคนทำงาน’ ชวนเลือกทีมให้ถล่มทลาย ปักหมุดไต่สู่รัฐสวัสดิการ เปลี่ยนทุกบาทให้คุ้มศักดิ์ศรี
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ห้องประชุมประภาศน์ อวยชัย อาคารเอนกประสงค์ 1 ชั้น 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย สถาบันปรีดี พนมยงค์ สำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ ไทยพีบีเอส สำนักข่าวชายขอบ สำนักข่าว The Reporters และ The Isaan Record จัดเวทีเสวนา“เลือกตั้งคณะกรรมการ ประกันสังคม ปฏิรูปอะไร? อย่างไร?”
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 11.00 น. ผู้สมัครรับเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมทั้ง 10 คน เริ่มแสดงวิสัยทัศน์ของทีมทีละราย ท่ามกลางผู้ร่วมงานคับคั่งร่วมฟังล้นห้องประชุม
ในตอนหนึ่ง ตัวแทน ทีมประกันสังคมก้าวหน้า รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ว่า ตนสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่หลังจากปี 2540 การออกนอกระบบของมหาวิทยาลัย ทำให้อาจารย์เป็นผู้ประกันตนภายใต้เงื่อนไขนี้ ซึ่งแม่และภรรยาของตนก็ใช้สิทธิบัตรสอง
“เราเจ็บปวดและกลัวเหมือนกับพวกท่าน ในความเปราะบางในชีวิตของเรา ‘ทีมประกันสังคมก้าวหน้า’ เราคือตัวแทนของฝั่ง ประชาธิปไตย คือผู้คนจากปี 2563 ที่ไม่เคยคุกเข่า ค้อมหัวสังฆกรรมกับให้อำนาจเผด็จการ”
ประกันสังคม ได้มาด้วยอำนาจของฝั่งประชาธิปไตย เมื่อ 33 ปีก่อน แต่ในขณะเดียวกัน 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประกันสังคมตกต่ำลงด้วยการรัฐประหารถึง 3 ครั้ง ดังนั้น ตลอด 9 ปีมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่งตั้งบอร์ดประกันสังคม ให้บริหารกองทุนนี้มาตอลด ทำให้ไม่ยึดโยงกับผู้ประกันตน”
“เมื่อ พ.ค.2566 ฝ่ายประชาธิปไตยเราชนะเลือกตั้งมาแล้ว ครั้งนี้ถ้าเราต้องการปฏิรูปชีวิตของคนทำงาน คนธรรมดาอย่างพวกเรา เราต้องให้ฝั่งประชาธิปไตยของเราชนะอีกครั้ง” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าว
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า รูปธรรมนโยบายของ ‘ทีมประกันสังคมก้าวหน้า’ คือประกอบด้วยคนจากหลากหลายกลุ่มที่ไม่เคยคุกเข่า ค้อมหัว ด้ายซ้ายมือตนคือ คุณไหม ธนพร วิจันทร์ ที่ต่อสู้เรียกร้องค่าชดเชยให้กับผู้ใช้แรงงาน เรามีคุณนลัทพร ไกรฤกษ์คนที่ใช้ชีวิตบนวีลแชร์ทั้งชีวิต เรามีคุณโดม ศิววงศ์ สุขทวี ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ คุณธนพล เชื้อเมืองพาน คนที่มาจากสหภาพแรงงานย่านรังสิต สหาพแรงงานฝั่งประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยนี้
“หลายท่ามมองว่าเราเป็นนักอุดมคติ แต่ตามชื่อที่ผมเอ่ยมา แม้กระทั่งตัวผมที่ทำงานวิจัย ศึกษาเรื่องประกันสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ผมยืนยันว่า เราคือนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ที่เราต้องการเปลี่ยนบาทแรกถึงบาทสุดท้ายของประกันสังคม ให้กลายเป็นสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและสมศักดิ์ศรี ของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์เผย
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำมี 2 อย่าง คือการปรับโครงสร้างการบริหารประกันสังคม ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และเราสามารถตอบได้ว่า เราจะเอาเงินมาจากไหนในวันที่แม่ท้องแก่ ต้องกู้หนี้นอกระบบมาเป็นเงินค่าคลอด วันที่พ่อต้องทำโอทีมากมาย วันที่คนแก่ไม่สามารถที่จะเกษียณอายุได้ เพราะเงินบำนาญอันน้อยนิด
“แต่บอร์ดประกันสังคมไปดูงานต่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำอีก ผลาญงบประมาณที่ไม่จำเป็นทั้งๆ ที่มีงบประมาณด้านการวิจัยมากมายมหาศาลในช่วงที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยเพียงพอแล้ว แต่การใช้จ่ายหลายอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้รู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้เจ็บปวดกับเราเลย ซ้ำร้ายกว่านั้น ทุกท่านลองพิจารณา มีงบประมาณหลายอย่างที่เรารู้ว่าใช้เพียงแค่หลักร้อยล้าน พันล้าน ก็สามารถประคองชีวิตของคนที่เจ็บปวดในช่วงโควิด ให้ผ่านไปได้ แต่ประกันสังคมหมดเงินไปกับการพิมพ์ปฏิทินปีนึงเฉียดร้อยล้าน
ทุกท่าน นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น ส.ส.อภิปรายในสภาซ้ำแล้วซ้ำอีก งบประมาณที่ไม่ได้มีความจำเป็นเหล่านี้ ยังไม่นับรวมช่วงที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าประกันสังคมลงทุนไปกับกองทุนพลัส ต่างๆ ขาดทุนครั้งละร้อยล้าน พันล้าน
ทุกท่าน ร้อยล้านพันล้านที่หายไป สามารถเพิ่มการลาคลอดได้ สามารถทำให้เรารักษามะเร็งให้หายได้ ไม่ใช่แคปไว้อยู่ที่ 50,000 ผมคุยกับพันธมิตรสหภาพแพทย์ของเรา มะเร็งในโลกนี้มีประมาณ 200 กว่าโรค แต่ประกันสังคมรักษาอยู่ 20 โรคมะเร็ง วันนี้ประกันสังคม 30 กว่าปี สิทธิในการรักษาพยาบาล ตอนนี้เริ่มจะต่ำเตี้ยกว่าสิทธิ สปสช.ไปเสียแล้ว ปัญหาใหญ่ตัวนี้เกิดขึ้นจากการที่ประกันสังคมไม่ยึดโยงกับคนธรรมดา ไปลงทุนกับบริษัทที่ขาดธรรมาภิบาล ไปลงทุนกับบริษัทที่กดขี่ผู้ใช้แรงงาน ทำลายสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนรัฐบาลอำนาจนิยม นี่คือสิ่งที่เราต้องแก้ไขทันที ให้การลงทุนต่างๆ ยึดโยงกับงานที่เราเรียกว่า Decent work ยึดโยงผลประโยชน์ของผู้ประกันตน มากกว่ายึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ของกลุ่มบางกลุ่มโดยเฉพาะ ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ชี้
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าวต่อว่า หากทำเรื่องดังกล่าวได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ เราจะสามารถขยายสิทธิประโยชน์ได้ คนเกิดน้อย ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กมากมายมหาศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข เชื้อเชิญอย่างไรคนก็ยังไม่สามารถมีลูกได้ เราต้องการเพิ่มสิทธิ ‘เบิกค่าคลอดบุตร’ จาก 15,000 เป็น 20,000 บาท เงินชดเชยการนเลี้ยงดูเด็ก ขยายถึง 12 ปี ไปให้ถึงวัยเรียน
“ความเจ็บปวดด้านหนึ่ง คือเงินบำนาญ ที่เราไม่สามารถคาดหวัง คาดหมายให้เกิดความมั่นคงได้ บางคนส่งมา 50 กว่าปี ถูกเลิกจ้าง ไปส่งมาตรา 39 ด้วยตัวเองแทนที่จะได้เงินบำนาญ 5,000 – 6,000 บาท แต่ได้ 1,700 นั่นคือความเจ็บปวดของผู้คนธรรมดา เราสามารถปรับปรุงการรักษาพยาบาลได้ อย่างน้อย สิทธิทางประกันของเราต้องไม่น้อยกว่า สปสช. รักษารากฟัน 17,500 นี่คือสิทธิที่ 30 บาทใช้ได้ แต่ประกันสังคมต้องถอนอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะเก็บฟันตัวนี้ไว้ได้ นี่คือชีวิตของคนธรรมดา เราต้องการทำให้เห็นว่า เราจะสามาถรผลักดันให้เกิด ‘บัญชียาเดียวกัน’ ทั้งประเทศให้ได้ อุดมคิตของเราคือการ รวมกองทุน”
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ยกตัวอย่าง ยารักษาโรคหัวใจบางตัว สามารถลดอัตราการตายของคนไข้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ถูกมองว่าไม่คุ้ม เพราะใช้คณิตศาสตร์ประกันภัยนำ ทำให้ไม่เห็นคุณค่า ชีวิตมนุษย์ ซึ่ง งบประมาณส่วนเพิ่ม คำนวณแล้วยังเหลืออยู่กว่า 40,000 ล้าน ประกันสังคม คือตัวอย่างสวัสดิการของคนธรรรมดา ที่ไม่มีอภิสิทธิ์ ไม่มียศตำแหน่ง
“คนธรรมดาที่ไม่สามารถซื้อประกันเอกชนราคาแพงได้ ฉะนั้น วันนี้เราต้องการให้ประกันสังคมเป็นหลังพิงของคนธรรมดา และด้วยความปราถนาของเรา คนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิผู้ใช้แรงงงาน คนพิการต่างๆ เราต้องการปักธงให้ประกันสังคม เป็นก้าวแรกของ ‘รัฐสวัสดิการ’ ประกันสังคม ต้องเป็นประชาธิปไตย สามารถตรวจสอบได้” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าว และว่า
วันที่ 24 ธันวาคมนี้ ตนอยากบอกว่าในช่วงแรกมีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งน้อยมาก แต่การรณรงค์อย่างแข็งขัน เชื่อมโยงให้เห็นว่า เราต้องการเปลี่ยนประเทศนี้ เปลี่ยนสังคมเป็นประชาธิปไตย มีผู้คนลงทะเบียนก้าวกระโดดขึ้นมา 8-9 แสนคน
“ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ ผมอยากชวนทุกท่านเบอร์ 27-33 ประกันสังคมก้าวหน้า พันธมิตรของคณะก้าวหน้า และเครือข่ายสหภาพแรงงาน ฝั่งประชาธิปไตยมากมาย ให้เป็นก้าวแรกสู่ ‘รัฐสวัสดิการ’ ให้เป็นชัยชนะของฝั่งประชาธิปไตยอีกครั้ง” รศ.ดร.ษัษฐรัมย์กล่าว
ไอซ์ รักชนก เปิดใจลั่น พร้อมรับทุกคำตัดสิน ลุ้นขอเลื่อนศาลได้หรือไม่
https://www.khaosod.co.th/politics/news_8005772
ไอซ์ รักชนก เปิดใจลั่น พร้อมรับทุกคำตัดสิน ลุ้นขอเลื่อนศาลได้หรือไม่ เผยหลุด ส.ส.หรือไม่ อยู่ที่คำพิพากษา เบื้องต้นมีหลายกรณี
วันที่ 12 ธ.ค.2566 น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีศาลนัดอ่านคำพิพากษา ว่า ตนทำหนังสือเพื่อขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ 683/2565 ที่โจทย์ยื่นฟ้อง ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในวันที่ 13 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เนื่องจากติดประชุมสภาฯ
ทั้งนี้ สอบถามไปยังศาลฯ เมื่อเวลา 13.00 น แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ คาดว่าจะได้ทราบผลในวันนี้ หากไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ จะไปรับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมดำเนินการอะไรต่อไปหลังจากที่ได้รับฟังคำตัดสินแล้ว น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตรงนี้มันมีหลายกรณี ถ้าศาลฯยกฟ้อง คือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากศาลฯสั่งลงโทษ แบ่งออกเป็น
1. รอลงอาญา คือ ตนสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ
2. ถ้าลงโทษจำคุกและสั่งจำคุกเลยทันที ต้องไปดูว่าสามารถทำเรื่องขอประกันตัวได้หรือไม่ หากสามารถขอประกันตัวได้ ตนสามารถกลับมาทำงานและสู้คดีได้ตามปกติ แต่หากประกันไม่ได้และต้องจำคุก แม้แต่วันเดียวก็จะพ้นจากสภาพ ส.ส. ทันที
“ก็เตรียมตัวไว้ทุกทาง ถ้าไม่ติดคุกก็ทำงานเหมือนเดิม ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ถ้าติดก็ติด” น.ส.รักชนก กล่าว
เมื่อถามว่า หากพ้นสภาพส.ส.ไปแล้ว จะยังกลับมาทำงานในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนคงช่วยพรรคทำงานอยู่เบื้องหลัง สถานะ ส.ส. มันอาจมี 1 เสียงที่สามารถนำมาโหวตในสภาฯได้ แต่มันก็จำกัดเราในหลายอย่าง ทั้งเสรีภาพในการพูด เสรีภาพในการแสดงออก ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะเป็นชื่อเสียงของพรรคด้วย แต่ถ้ามาทำเบื้องหลังแล้วคงเป็นอิสระมากขึ้น และยืนยันว่ายังคงช่วยงานพรรคเหมือนเดิม
น.ส.รักชนก กล่าวว่า มาถึงวันนี้ไม่ได้กังวลแล้ว ทุกอย่างต้องเตรียมพร้อมแล้ว และยืนยันพร้อมรับทุกคำตัดสินไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
กสิกรไทยหั่นจีดีพีปี’66 เหลือ 2.5% พิษเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
https://www.khaosod.co.th/economics/news_8005701
นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 นี้ มีแนวโน้มโตต่ำกว่าคาด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 2.5% จาก 3.0% จากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจจีนที่พึ่งพาการส่งออกสูง แต่ส่งออกติดลบถึง 25% นอกจากนี้ จีนยังคงเผชิญกับปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลลบกับอุปสงค์ภายในประเทศ
ดังนั้นจึงส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทย ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจากจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มองว่าจะเข้ามาเพียง 27.6 ล้านคน และแม้ว่าการส่งออกสินค้าที่จะหดตัวน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ติดลบ 1.3% จากติดลบ 2.5% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวช่วง 1-2 เดือนสุดท้ายของปี