Tohoku และใบไม้เปลี่ยนสีของคนช่างเดิน ทริปญี่ปุ่น 31 ต.ค.-6 พ.ย.2566

กระทู้สนทนา

ต้องเดินครับ ถึงจะจุใจกับใบไม้เปลี่ยนสี ...
.
ทริปนี้จองที่พักก่อน หาตั๋วเครื่องบิน แล้วค่อยวางแผนการท่องเที่ยว โดยสรุปคือได้บินกับฮ่องกงแอร์ไลน์แวะพักที่ฮ่องกง มีเสิร์ฟของว่าง มีน้ำหนักให้คนละ 25 กก. ทั้งไปและกลับ เลือกที่นั่งได้เองพร้อม online check in ราคาต่อคน 10,xxx บาท ที่พักจองออนไลน์ไปทั้งหมด ราคาถูกบ้างแพงบ้างขึ้นกับว่าคืนวันอะไร และอยู่ย่านไหน ซึ่งราคาที่ถูกบ้างแพงบ้างก็ส่งผลต่อคุณภาพห้องพักด้วยเช่นกัน
.

.
30/10/2566 เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณตี 3 เอารถไปจอดที่ลานจอดระยะยาว เรท 24 ชม. ละ 140 บาท ถึงโตเกียว (นาริตะ) วันที่ 31/10/2566 ประมาณบ่าย 2 เราเข้าไปกรอกข้อมูลใน visit japan ไว้ล่วงหน้าทั้ง immigration และศุลกากร ได้ QR code และเข้าช่องอัตโนมัติตลอดทาง ที่สนามบินนาริตะจึงใช้เวลาไม่มาก (ไฟร์ทลงบ่าย นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเท่าไฟร์ทลงเช้า - อันนี้จากประสบการณ์ครับ)
.
31/10/2566 วันนี้แพลนเที่ยวในโตเกียว ใช้ tokyo subway one day pass เที่ยว harry potter studio พักโรงแรม toyoko inn ikebukuro ทริปนี้พัก toyoko inn 3 คืน หลังจากที่ทริปก่อนๆ ปันใจไปพักที่อื่นเสียมาก สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าพักที่นี่มีข้อดีหลายประการ 1. เตียงใหญ่ ใต้เตียงโล่ง เอาของเข้าไปเก็บได้ 2. มีอาหารเช้าฟรี รสชาติและชนิดอาหารค่อนข้างดี 3. มักไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ป้ายชัดเจน สังเกตุง่าย หาไม่ยาก
.
1/11/2566 มุ่งหน้าเซนได พักโรงแรม greenwell sendai อยู่ใกล้สถานี JR สะอาด แต่ค่อนข้างเก่า เตียงและที่นอนไม่ค่อยดี ราคาถูก มีอาหารเช้า ทริปนี้เรายังคงท่องเที่ยวโดยอาศัยรถไฟ JR เป็นหลัก คราวนี้ซื้อ JR pass 5 วัน (JR east pass - Tohoku area ราคาเดิม 20,000 เยน) ออกเดินทางแต่เช้าตรู่เพราะตั้งใจมุ่งหน้า naruko onzen โดยจะต้องต่อรสบัสเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีและรถไฟโผล่อุโมงค์ที่ช่องเขา Narukokyo Gorge (Narukokyo natural walking path, Ofukazawa natural walking path) ช่วงเย็นเดินไป Katanuma lake
.

.
2/11/2566 คืนนี้พักที่ naruko onzen เป็นโรงแรมที่มีออนเซน อยู่สถานี JR naruko onzen ในระยะที่เดินไปได้ ห้องพักรวมออนเซน อาหารเย็นและอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ รุ่งขึ้นแวะ yamagataken sogoundo park (สนามกีฬาของเมือง yamagata เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี)
.
3-4/11/2566 พักที่ toyoko inn morioka ekimae หน้าสถานี JR morioka เพื่อ 4/11/2566 มุ่งหน้า Oirase stream และ 5/11/2566 เดินเล่นที่เมือง Kakunodate จากนั้นกลับโตเกียว
.
5/11/2566 ลงมาโตเกียวเพื่อเตรียวตัวกลับ พัก comfort hotel narita มีอาหารเช้าเช่นกัน
.
6/11/2566 เดินทางกลับ แวะฮ่องกงอีกรอบ
.

ช่องเขาโออิราเสะ (oirase stream)
เราเดินทางไปในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 โดยคืนนั้นพักที่โมริโอกะ (Toyoko inn Morioka ekimae) ออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อนั่งชินกันเซนจากโมริโอกะ สู่ฮาชิโนเฮะ เราจองรถบัสไว้ก่อนหน้านี้แล้วผ่านหน้าเว็ปไซท์ของ JR bus โดย JR pass ครอบคลุมครับ (https://www.jrbustohoku.co.jp/towadako-oirase/en/ ) หรือจะ walk in ก็ได้ แต่ถ้าที่นั่งเต็ม ก็อาจไม่ได้ไปในรอบที่ตั้งใจ
.
เราใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง โดยเริ่มเดินตั้งแต่ลงรถบัสที่ป้าย ishigedo ซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดเริ่มเดินของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ (ที่ตั้งใจเดินตลอดเส้นทาง) เส้นทางเดินมีป้ายแนะนำตลอดเส้นทาง เส้นทางค่อนข้างเปียกชื้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ทุกฤดู เพราะฉะนั้นการแต่งตัวโดยเฉพาะรองเท้าแนะนำให้ใช้รองเท้าเดินเทรลโดยเฉพาะจะดีกว่ารองเท้าชนิดอื่น แต่รองเท้าชนิดอื่นก็ใช้ได้นะครับ แค่อาจลื่น และน้ำซึมเข้าเท้าได้ง่าย เดี๋ยวจะเดินไม่สนุก
.

.
รถบัสโดยสาร JR จะจอดรับส่งผู้โดยสารตามป้ายไปเรื่อยๆ หมายความว่าถ้าเดินไม่เก่ง วางแผนเดินช่วงสั้นๆ ก็สามารถเดินสลับขึ้นรถบัสได้ แต่รอบรถมีไม่ถี่มากเท่านั้นเอง ห้องน้ำมีที่ ishigedo 1 จุด ระหว่างทางที่ห่างจากจุดนี้ประมาณ 5 กม. อีก 1 จุด และที่ lake towada เส้นทางไปสุดที่ lake towada เป็นจุดขึ้นรถบัสกลับ เที่ยวกลับโดยที่ได้รีวิวก่อนหน้าไม่จำเป็นต้องจอง ตอนเราไปถึงใกล้เวลาของรถบัสมุ่งหน้าอะโอโมริออกพอดีเลยตัดสินใจกลับทางอะโอโมริ เพราะถ้ารอรถที่กลับไปฮาชิโนเฮะต้องรออีกประมาณ 1 ชั่วโมง JR pass ที่เรามีครอบคลุมอยู่แล้ว จึงทำให้สรุปได้ว่าเส้นทางฮาชิโนเฮะโหดน้อยกว่าเส้นทางอะโอโมริ รวมทั้งอะโอโมริเป็นเมืองใหญ่ ซึ่งวันนั้นเราไปถึงประมาณ 6 โมงเย็น จึงได้สัมผัสรถติดบนถนนในประเทศญี่ปุ่น
.
หรือจะนั่งรถบัสไปจนสุดสายที่ lake towada แล้วเดินย้อนลงมา แบบนี้ก็จะเป็นการเดินลงเนิน เชื่อว่าเหนื่อยน้อยกว่า รถบัสทั้งขาไปและขากลับ จะจอดพักให้เข้าห้องน้ำที่จุดพักระหว่างทาง 1 ครั้ง
.

Katanuma lake
เป็นทะเลสาบที่อยู่บริเวณ naruko onzen โดยเราเริ่มเดินจากโรงแรมที่เราพักคืนนั้น เส้นทางเดินจะขึ้นเขาและคดเคี้ยว เป็นถนนที่ปกติรถยนต์สัญจรไปมาได้ แต่ช่วงที่เราเดินแทบไม่มีรถยนต์ใช้เส้นทางนี้เลย เส้นทางนี้จะถูกปิดการใช้งานในช่วงฤดูหนาว ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ไป-กลับก็ 4 กม. ขาไปขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ ส่วนขากลับก็ย้อนมาทางเดิม ส่วนรอบทะเลสาบอีกประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ
.
รถยนต์ส่วนใหญ่เขาจะใช้เส้นทางอื่นที่ไม่ขึ้นเขาโหดแบบเส้นทางนี้ แต่ระยะทางก็ไกลกว่าเช่นกัน
.

.
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ หุบเขานารุโกะ (Naruko Gorge, Narukokyo)

จุดนี้เป็นจุดไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทุกคน เป็นจุดที่ถ้าเราเดินลงไปตามทางซึ่งทำไว้ค่อนข้างดีและเดินไม่ยาก เมื่อถึงจุดสุดท้ายแล้วเมื่อมองขึ้นไปที่ช่องเขาจะเห็นสะพาน Ofukazawa bridge ซึ่งในทางกลับกัน ถ้าเราอยู่บน Ofukazawa bridge แล้วมองลงมาที่ช่องเขา จะเป็นช่องอุโมงค์รถไฟ โดยเกือบทุกคนจะจ้องรอเวลาที่รถไฟออกจากอุโมงค์ และนี่คือไฮไลท์ของการมาที่นี่
.
ระหว่างทางเดิน มีวิวสวยๆ ของแม่น้ำ และใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมแก้เหนื่อยตลอดเส้นทาง
.
เราสามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้โดยรถโดยสารประจำทางซึ่งต้นทางอยู่ด้านซ้ายของสถานีรถไฟ JR Naruko onzen ขึ้นได้เลยไม่ต้องจองล่วงหน้า JR pass ไม่ครอบคลุม ขากลับก็รอรถฝั่งตรงข้ามของบริเวณ Narukokyo นี่แหล่ะครับ รถมีมาเป็นรอบไม่ถี่มากแต่ก็ไม่ห่าง
.

.
สนามกีฬา Yamagata-ken Sogo Undo Park
เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Tendominami แล้วเดิน 1.6 กม. ซึ่งถ้ารวมเดินชมสวนแล้ว ระยะทางเดินจะประมาณ 5 กม. (รวมกลับสถานี) ที่สวนนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไปอีกจุดหนึ่ง วันที่เราไปมีการแสดงเปียโนของ yotuber ชื่อดังคนหนึ่งของญี่ปุ่น
.

.
หมู่บ้านซามุไรที่ kakunodate
เป็นจุดชมใบไม่เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมอีกจุดหนึ่งเช่นกัน เป็นถนนที่ด้านข้างเป็นบ้านญี่ปุ่นยุคโบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้ เดิมเป็นบ้านของเหล่าซามุไร ปัจจุบันถูกส่งมอบมาให้ลูกหลาน บางหลังเปิดให้เข้าชมฟรีและบางหลังก็ต้องเสียค่าเข้าชมครับ เดินทางลงสถานี JR kakunodate หลังจากนั้นเดินเรื่อยๆ ตามอัธยาศัยได้เลย
.