เราเดินทางไปเที่ยวภูมิภาค Tohoku เมื่อกลางเดือนตุลาคมปีที่แล้วค่ะ เดินทางวันที่ 12-22 ตุลาคม 2563 ช่วงวันหยุดยาว ตั้งใจจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่คาดการณ์วันเดินทางคลาดไปหน่อย ใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีเท่าไหร่ ถ้าไปถัดจากนั้นสัก 1 สัปดาห์ คงจะเจอเปลี่ยนสีมากกว่านี้ แต่ธรรมชาติก็ยังสวยงามอยู่ดี โดยทริปนี้เราจะไปเที่ยวที่ภูมิภาคโทโฮคุ 2 จังหวัดคืออาโอโมริ ฟุกชิม่า และกลับมาโตเกียว
ตอนช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่พายุฮากิบิสเข้าญี่ปุ่นพอดีด้วยค่ะ ตอนนั้นก่อนเดินทางคือลุ้นทุกวันว่าพายุจะเข้าวันไหน ออกวันไหน จะสร้างความเสียหายมากไหม จะบินได้รึเปล่า แล้วเราก็ได้เจอประสบการณ์เครื่องบินแคนเซิลไฟลท์ที่จะบินไปนาริตะ แล้วต้องไปติดอยู่ที่ฮานอย เวียดนาม 2 คืน (เลยได้เที่ยวฮานอยไปด้วยหนึ่งวัน) เราเดินทางโดยสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ ซึ่งเค้าดูแลผู้โดยสารค่อนข้างดีเลยทีเดียว ลองเข้าไปอ่านในรีวิวนี้ได้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/39385144
กลับมาที่ทริปญี่ปุ่นนะคะ หลังจากที่เราบินไปญี่ปุ่นได้แล้ว Plan วันแรกคือ บินไปถึงนาริตะประมาณบ่ายโมงกว่า รับกระเป๋าและ Pass แล้วนั่งชินคันเซ็นไปอาโอโมริ นี่คือ Plan ที่วางไว้ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นอีกเรื่อง
วันแรกที่เราไปถึง หลังจากถึงสนามบินนาริตะแล้ว ก็ต้องไปแลก Pass ก่อน ลงไปที่ชั้นล่าง ไปแลก Pass ที่ JR East Travel Service Center หาไม่ยากค่ะ คนยืนเยอะๆนั่นแหละ ใช่เลย ไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตและเลือกรอบรถไฟ แจ้งจนท. จนท.ก็จะจัดการจองที่นั่งให้เรา
Note: 1. แนะนำไว้ว่าใครที่จะไปเที่ยวแล้วต้องแลก Pass ที่นาริตะ ให้เผื่อเวลาไว้เลยนะคะ เพราะบางช่วงคนเยอะมาก อาจมีรอไม่ต่ำกว่าชั่วโมงก็เป็นได้ ตอนที่เราไปคนยังไม่เยอะมาก รอไม่นาน ควรเตรียมข้อมูลเที่ยวรถไฟให้พร้อม Print รอบรถไฟไว้ ไปถึงก็ยื่นให้จนท.ดูเลยว่าเราเลือกรอบรถไฟไว้แล้ว ถ้าขบวนนั้นที่นั่งยังไม่เต็ม จนท.จะออกตั๋วให้เราได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาเลือกที่หน้าจอ
2. ถ้ายังไม่ออกเที่ยวต่างภูมิภาคทันทีแบบเรา เช่นยังอยู่เที่ยวในโตเกียวก่อน แล้วถึงค่อยไปต่างภูมิภาค ค่อยไปแลก Pass ที่ Service Center ในโตเกียวก็ได้ค่ะ มีอยู่หลายที่ จะได้ไม่เสียเวลามากค่ะ https://www.jreast.co.jp/e/customer_support/service_center_tokyo.html
โดย Pass ที่ใช้คือ JR East Pass Tohoku Area แบบ 5 วัน Pass นี้เราซื้อจาก Klook แล้วเอา Voucher จาก Klook ไปแลกเป็น Pass ที่นาริตะค่ะ ราคาตอนที่ซื้อ 4,955 บ. สะดวกและทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาก
วิธีการใช้งาน Pass ก็คือ เมื่อเราจะใช้วันไหน เอา Pass นี้ไปยื่นให้ที่เคาท์เตอร์ นายสถานีจะออกตั๋วและปั๊มตราประทับวันที่เราใช้วันนั้นค่ะ
นั่ง N’ex จากนาริตะมาสถานีโตเกียว เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกด้วยคือ N’ex ที่เรานั่งมาดีเลย์ (ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่พายุฮากิบิสเพิ่งออกจากญี่ปุ่น) รถไฟหยุดวิ่งเป็นระยะๆ ทำให้ถึงสถานีโตเกียวช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ค่อนข้างเยอะ พอไปถึงสถานีโตเกียวเราต้องวิ่งไปออกตั๋วที่จะไปอาโอโมริใหม่อีก และคนที่รอต่อคิวก็ยาวมากกกก ตอนนั้นทั้งเหนื่อยทั้งหิว พอได้ตั๋วใหม่ก็รีบวิ่งขึ้นไปรอชินคันเซ็น มีเวลาแป๊บนึงรีบซื้อ Ekiben ขึ้นไปกินบนชินคันเซ็นแบบทุลักทุเล
Ekiben ที่เลือกมาแบบรีบๆ ส่วนตัวว่าไม่ค่อยอร่อยหรือเหนื่อยก็ไม่รู้
Hayabusa Shinkansen ขบวนนี้ค่ะ ที่พาเราออกเดินทางสู่อาโอโมริ
www.facebook.com/AomRungTravelness
instagram: aomrungtravelness
[CR] Travelness Review ==> Tohoku เมื่อใบไม้เกือบจะเปลี่ยนสี ตอนที่ 1 Aomori
เราเดินทางไปเที่ยวภูมิภาค Tohoku เมื่อกลางเดือนตุลาคมปีที่แล้วค่ะ เดินทางวันที่ 12-22 ตุลาคม 2563 ช่วงวันหยุดยาว ตั้งใจจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่คาดการณ์วันเดินทางคลาดไปหน่อย ใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีเท่าไหร่ ถ้าไปถัดจากนั้นสัก 1 สัปดาห์ คงจะเจอเปลี่ยนสีมากกว่านี้ แต่ธรรมชาติก็ยังสวยงามอยู่ดี โดยทริปนี้เราจะไปเที่ยวที่ภูมิภาคโทโฮคุ 2 จังหวัดคืออาโอโมริ ฟุกชิม่า และกลับมาโตเกียว
ตอนช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่พายุฮากิบิสเข้าญี่ปุ่นพอดีด้วยค่ะ ตอนนั้นก่อนเดินทางคือลุ้นทุกวันว่าพายุจะเข้าวันไหน ออกวันไหน จะสร้างความเสียหายมากไหม จะบินได้รึเปล่า แล้วเราก็ได้เจอประสบการณ์เครื่องบินแคนเซิลไฟลท์ที่จะบินไปนาริตะ แล้วต้องไปติดอยู่ที่ฮานอย เวียดนาม 2 คืน (เลยได้เที่ยวฮานอยไปด้วยหนึ่งวัน) เราเดินทางโดยสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ ซึ่งเค้าดูแลผู้โดยสารค่อนข้างดีเลยทีเดียว ลองเข้าไปอ่านในรีวิวนี้ได้ค่ะ https://ppantip.com/topic/39385144
กลับมาที่ทริปญี่ปุ่นนะคะ หลังจากที่เราบินไปญี่ปุ่นได้แล้ว Plan วันแรกคือ บินไปถึงนาริตะประมาณบ่ายโมงกว่า รับกระเป๋าและ Pass แล้วนั่งชินคันเซ็นไปอาโอโมริ นี่คือ Plan ที่วางไว้ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นอีกเรื่อง
วันแรกที่เราไปถึง หลังจากถึงสนามบินนาริตะแล้ว ก็ต้องไปแลก Pass ก่อน ลงไปที่ชั้นล่าง ไปแลก Pass ที่ JR East Travel Service Center หาไม่ยากค่ะ คนยืนเยอะๆนั่นแหละ ใช่เลย ไปถึงก็ยื่นพาสปอร์ตและเลือกรอบรถไฟ แจ้งจนท. จนท.ก็จะจัดการจองที่นั่งให้เรา
Note: 1. แนะนำไว้ว่าใครที่จะไปเที่ยวแล้วต้องแลก Pass ที่นาริตะ ให้เผื่อเวลาไว้เลยนะคะ เพราะบางช่วงคนเยอะมาก อาจมีรอไม่ต่ำกว่าชั่วโมงก็เป็นได้ ตอนที่เราไปคนยังไม่เยอะมาก รอไม่นาน ควรเตรียมข้อมูลเที่ยวรถไฟให้พร้อม Print รอบรถไฟไว้ ไปถึงก็ยื่นให้จนท.ดูเลยว่าเราเลือกรอบรถไฟไว้แล้ว ถ้าขบวนนั้นที่นั่งยังไม่เต็ม จนท.จะออกตั๋วให้เราได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาเลือกที่หน้าจอ
2. ถ้ายังไม่ออกเที่ยวต่างภูมิภาคทันทีแบบเรา เช่นยังอยู่เที่ยวในโตเกียวก่อน แล้วถึงค่อยไปต่างภูมิภาค ค่อยไปแลก Pass ที่ Service Center ในโตเกียวก็ได้ค่ะ มีอยู่หลายที่ จะได้ไม่เสียเวลามากค่ะ https://www.jreast.co.jp/e/customer_support/service_center_tokyo.html
โดย Pass ที่ใช้คือ JR East Pass Tohoku Area แบบ 5 วัน Pass นี้เราซื้อจาก Klook แล้วเอา Voucher จาก Klook ไปแลกเป็น Pass ที่นาริตะค่ะ ราคาตอนที่ซื้อ 4,955 บ. สะดวกและทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาก
วิธีการใช้งาน Pass ก็คือ เมื่อเราจะใช้วันไหน เอา Pass นี้ไปยื่นให้ที่เคาท์เตอร์ นายสถานีจะออกตั๋วและปั๊มตราประทับวันที่เราใช้วันนั้นค่ะ
นั่ง N’ex จากนาริตะมาสถานีโตเกียว เกิดเหตุไม่คาดคิดอีกด้วยคือ N’ex ที่เรานั่งมาดีเลย์ (ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่พายุฮากิบิสเพิ่งออกจากญี่ปุ่น) รถไฟหยุดวิ่งเป็นระยะๆ ทำให้ถึงสถานีโตเกียวช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ค่อนข้างเยอะ พอไปถึงสถานีโตเกียวเราต้องวิ่งไปออกตั๋วที่จะไปอาโอโมริใหม่อีก และคนที่รอต่อคิวก็ยาวมากกกก ตอนนั้นทั้งเหนื่อยทั้งหิว พอได้ตั๋วใหม่ก็รีบวิ่งขึ้นไปรอชินคันเซ็น มีเวลาแป๊บนึงรีบซื้อ Ekiben ขึ้นไปกินบนชินคันเซ็นแบบทุลักทุเล
Ekiben ที่เลือกมาแบบรีบๆ ส่วนตัวว่าไม่ค่อยอร่อยหรือเหนื่อยก็ไม่รู้
Hayabusa Shinkansen ขบวนนี้ค่ะ ที่พาเราออกเดินทางสู่อาโอโมริ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้