[CR] ทริปตามหาใบไม้เปลี่ยนสี Hokkaido-Tohoku November 2023

กลับมาทริปตามหาใบไม้เปลี่ยนสี Autumn in Hokkaido-Tohoku ทริปนี้แพลนล่วงหน้า1เดือนแบบกระชั้น
มากันเพลินๆ12 วัน เดินทางไปกลับโดย Thai Airway TG670, TG671 ไปกันเลย


TG670 บินคืนวันอังคารบนเครื่องค่อนข้างโล่ง นอนยาวกันได้เลย ขึ้นเครื่องไม่นานจะมีแซนวิชมาเสริฟ์ ประมาณชั่วโมงกว่าก่อนถึงอาหารเช้ามาเสริฟ์
มีให้เลือกเป็นออมเล็ทไส้กรอกกับข้าวหน้าไก่ญี่ปุ่น ไฟล์ทนี่พนักงานบนเครื่องจะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าขากลับตึงๆหน่อย แต่ขากลับ TG671 พนักงานบริการดีกว่ามาก 
8 โมงกว่าๆเครื่องลงถึง New Chitose Airport มีลงVisit Japanมาล่วงหน้า ผ่านตม.ไวมากที่นี่ ต่างกับตอนรอตม.ที่นาริตะเยอะเลย กระเป๋าก็รอรับไม่นานก็ไปแลกตั๋ว JR Tohoku-South Hokkaido Passที่ซื้อมาจาก JTB นั่งรถไฟไป Hakodate ที่นอนคืนแรก
 


ถึงสถานี Hakodate ช่วงบ่ายสองกว่า คืนแรกมาพักกันที่ Comfort hotel hakodate เดินลากกระเป๋ามาไม่ไกลจากสถานีเข้าไปวางของที่โรงแรมเรียบร้อย อากาศข้างนอกเย็นสบายเกือบ20องศา หิวแล้วไปหาอะไรง่ายๆกินใกล้โรงแรมก่อน
มาเจอร้านซูชิ Nemuro Hanamaru Hakodate Shop คนในร้านเยอะ แต่มีโต๊ะว่างพอดีมาถึงก็สั่งซูชิมาลองกันหน่อย 

ร้านนี้เมนูมีภาษาอังกฤษ ปลา กุ้งให้มาชิ้นยาวมาก ราคาต่อจานมีตั้งแต่ 100เยนถึง 400เยนกว่า มื้อแรกกินซูชิอิ่มอร่อย 
ส่วนตัวยังไม่ได้ถูกใจมาก แต่ถือว่าราคาไม่แรง ชิ้นปลาสวยงาม ค่อนข้างสดดี ข้าวปั้นพอดีคำ

กินอิ่มแล้วก็เตรียมตัวไปเที่ยวกันได้ เดินมาขึ้นรถบัสไปชมวิวที่สวยติดอันดับ1ใน3ของญี่ปุ่นที่ Mout Hakodate ครั้งก่อนเคยขึ้นRopewayไป แต่ช่วงนี้ปิดซ่อมเลยไปทางบัสแทน ช่วงนี้มืดค่อนข้างไวห้าโมงเย็นฟ้าจะมืดแล้ว คนค่อนข้างแน่น ทัวร์จีนเยอะ เบียดๆกันถ่ายรูปหน่อย

ถ่ายรูปหนำใจก็มาต่อคิวขึ้นรถบัสกลับ ฝนเริ่มแปะๆ ใครมาช่วงเดือนนี้ก็พกร่มมาด้วย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
ลงรถละฝนกระหน่ำเลย คืนนี้ฝากท้องที่ไก่ทอดสไปซี่ Lawsonไปก่อน อร่อยเหมือนเดิม 

Day2: ตื่นมาหาอะไรกินยามเช้าที่ตลาด Hakodate Morning Market 

ของเค้าสดอร่อยจริงๆ หอยเชลล์คือดีมาก

เติมพลังละก็ไปเดินเล่นต่อที่ตึกแดงกัน Kanemori Red Brick Warehouse

ฟ้าเปิดอากาศดีมาก มาเดินเล่นถ่ายรูปสวยงาม ผ่านร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังประจำเมืองต้องลองซักหน่อย ร้านน่ารักริมน้ำเลย
อร่อยใช้ได้เลย ใครมาต้องมาลอง


เก็บของออกจากโรงแรม เตรียมขึ้นรถไฟลงไป Aomoriกันต่อ จุดหมายต่อไป

มาถึงAomori เมืองแห่งแอปเปิ้ลและโคมไฟตุ๊กตา ประดับอยู่เต็มสถานี เข้าพักที่ Hotel Mystays Aomori Station
ไปเดินชมสวน ปราสาทเล่นที่ Hirosaki park แต่เสียดายที่ร่วงไปเยอะมากแล้ว ถ้ามาตอนพีคน่าจะสวยมาก

สมกับเป็นเมืองแอปเปิ้ล


ในสวนมีรถเข็นมันเผาขายถูกมาก หัวมันใหญ่มาก หวานหอม สานฝันดูการ์ตูนตอนเด็กอยากลองมานาน


Day3: จะเริ่มตามหาใบไม้เปลี่ยนสีอย่างจริงจัง ตามพยากรณ์จาก Weathernews หลายจุดใบไม้ร่วงไปแล้ว เพราะวีคก่อนหน้ามีหิมะตกเลยร่วงกันไปเยอะ แต่ยังมีที่ Naruko Gorge ที่ขึ้นว่าเป็นช่วงพีคพอดี เลยต้องออกไปชมซักหน่อย นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ ถึงสถานีต้องระรถบัสไปต่อ แต่ด้วยคนเยอะเลยลองเดินไปละกัน4กิโลน่าจะพอไหวละ ถ้าใครร่างกายฟิตหน่อยเดินก็จะได้ชมวิวริมทาง แต่ทางเดินจะเป็นเนินขึ้นเขา ก็จะเมื่อยๆ ถ้าใครไม่ไหวแนะนำรอรถบัสดีกว่า ละความพยายามก็มาถึง เมื่อยขามาก แต่ก็สวยมาก

ไม่ได้อยู่รอเวลารถไฟวิ่งผ่าน ถ้าใครอยู่รอน่าจะได้รูปสวยๆที่มีรถไฟ นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ มีบูทขายอาหารเครื่องดื่ม ให้นั่งกินชิวๆเพลินๆได้
กลับมาต่อคิวขึ้นรถบัสคนเยอะมาก แต่มีการเพิ่มรอบรถรอไม่นานมาก ขากลับรอรถละกันเดินไม่ไหวแล้ว

หามื้อเย็นทานให้หายเหนื่อย นั่งรถไฟมาต่อชินคันเซนไปกินลิ้นวัวย่างกันที่เซนได สถานีเซนได คนเยอะ พลุกพล่านต่างจาก Aomoriที่เงียบสงบมาก

ลิ้นวัวดีมาก ร้านคือRandomเอาเลยหิวไม่อยากรอคิวร้านดัง

Day4: มาตามหาใบไม้กันต่อวันนี้ย้อนขึ้นมาที่ Onuma National Park ใช้JR passคุ้มมาก เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ใบไม้เปลี่ยนสีผ่านช่วงพีคไปแล้วเหมือนกัน พอเห็นประปราย แต่ภูเขาสวยแปลกตาดี บรรยากาศดี สลับมาที่นี่แบบไม่แพลนล่วงหน้าเพราะแถวนี้อากาศจะดีกว่า โซนAomoriจะฝนตกวันนี้

วิวห้องน้ำสีน่ารักๆ


เดินParkเสร็จขึ้นชินคันเซ็น กลับมาเดินเล่นต่อที่ A Factory Aomori ซื้อของฝากได้ ส่วนมากก็เป็นแอปเปิ้ลไปทำproductต่างๆ
มีWine Tasting ราคาเบาๆด้วย สามารถซื้อบัตรได้ที่ร้านอาหารชั้นสอง มากดเครื่องอัตโนมัติชิมเองได้เลย

มาเข้า Nebuta Museum ชมของขึ้นชื่อประจำเมือง โคมไฟขนาดใหญ่ งานละเอียดสวยงาม จะมีโคมไฟยักษ์มาโชว์

ก่อนหมดวันมาฝากท้องกันที่ร้านปิ้งย่างShinsekai ร้านนี้แนะนำมาก อร่อย ราคาไม่แรง แต่คนเยอะหน่อย ไปถึงเหลือที่นั่งหน้าเคาท์เตอร์สองที่พอดีเลยไม่ต้องรอ ไปลองดูได้ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มีเมนูภาษาอังกฤษ

Day5: วันนี้เช่ารถไป Road Tripกันที่ Oirase Steam และต่อด้วย Lake Towada ใครมาช่วงนี้ควรจองรถเช่ามาล่วงหน้า เพราะเต็มไวมาก
ตามพยากรณ์คือร่วงไปเกือบหมดแล้ว เสียดายที่มาช้าไป แต่ลำธารคือสวยมาก น้ำใส ขนาดไม่ค่อยเหลือใบไม้ยังสวย จอดรถริมทาง หาโซนที่พอจอดได้หน่อย

หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปกันจุใจก็ไปล่องเรือกันต่อที่ Lake Towada นั่งเรื่อลำใหญ่มีสามชั้น ชมวิวทะเลสาปลมตีมาหนาวมากถ้าอยู่ชั้นบน

Day6 : วันนี้เดินทางออกจาก Aomori โบกมือลาเมืองแอปเปิ้ล อย่าลืมลองชิมน้ำแอปเปิ้ลกันมาถึงถิ่น

ไปต่อกันที่ Noboribetsu Onsen ชมหุบเขานรกJigokudani ไปตอนกลางวันว่าสวยแล้ว แต่กลางคืนสวยมากพอเปิดไฟ บรรยากาศดีมากๆ

เดินTrailกันเพลิน แต่ต้องดูเวลาให้ดีเพราะสี่โมงกว่าก็ฟ้ามืดแล้ว กลับโรงแรมไปแช่ออนเซนกันแก้หนาวดีกว่า

วันนี้พักที่ Noboribetsu Grand Hotel โรงแรมใกล้จุดขึ้นรถบัสมากไม่ต้องเข็นกระเป๋าไกล ใกล้หุบเขานรกด้วยเดินมาได้สบายๆ
ห้องใหญ่ อาบน้ำสบายแขนไม่ติด มีบ่อออนเซนแบบIndoor outdoorแช่ฟินๆ แต่นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ 
อาหารเป็บุฟเฟต์ ของกินเยอะหลากหลายมาก แต่รสชาติกลางๆไม่ได้อร่อยมาก

Day7: เช้ามาขึ้นบัสเดินทางกลับไปที่Sapporo มาพักที่ THE KNOT SAPPORO โรงเเรมดีเดินทางสะดวกมีลิฟต์เชื่อมชั้นใต้ดินเลย ไม่ต้องเดินไปรับลมหนาว 
มาต่อกันที่ใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองกันบ้างที่ Hokkaido University ที่นี่ยังถือว่ามาทันช่วงพีคอาจจะร่วงไปบ้าง แต่ก็ยังสวยมากอยู่ กลิ่นแรงนิดนึง
ใครมาถ่ายรูปอยากให้ถ่ายแบบพอดีไม่ลงไปที่ถนนรบกวนคนใช้ถนนกัน อาจจะเกิดอันตรายได้ คนขี่จักรยาน และรถขับผ่านตลอด ยามต้องคอยไล่คนที่ลงมาถ่ายรูปบนถนน แค่บนทางเดินก็สวยแล้ว



ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุนด้วยตนเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่