ช่วงปิดเทอมเล็กของเด็กๆ ช่วงเดือนตุลาคม หลายๆประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรก็จะเริ่มย่างเข้าสู่หน้าหนาว แล้วมันมีอะไรพิเศษน่าสนใจเหรอสำหรับเจ้าช่วงเวลานี้? ก็เจ้าใบไม้เปลี่ยนสี เขียว เหลือง ส้ม แดง น้ำตาล ดำนั่นไง ที่จะมาช่วยแต่งแต้ม ต่อเติม สีสัน เพิ่มให้ทริปท่องเที่ยวของเราๆ มีความสวยงาม จนบางทีถึงกับลืมตัวต้องร้องว้าวหรืออ้าปากหวอค้างอยู่นานด้วยความตะลึง
ทริปนี้พวกเราเดินทางไปเที่ยวที่เกาะฮอกไกโด ด้วยความหวังที่ว่าจะได้ไปเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น เดินทางกันช่วงวันที่ 15 ถึง 28 ตุลาคม 2561 อากาศก็กำลังเย็นสบายไม่หนาวมาก + 10 องศา มีฝนตกบ้างเป็นบางวัน แต่ไม่หนัก ส่วนโรงแรมก็ดูตาม booking.com กับ agoda.com มีให้เลือกมากมายแล้วแต่ความชอบ ส่วนเครื่องบินก็มากับ Air Asia นั่งได้สบายๆ ไม่คับแคบอะไร ไม่มีอะไรให้ทำก็นอนๆกันไป

การเดินทางเราเน้นความสะดวก เราเช่ารถขับเที่ยวกันเองกับ Rentalcars.com ได้รถของ JR Hokkaido Rent a Car ซึ่งจะต้องนั่ง Shuttle Bus ของรถเช่าออกไปจากสนามบินอีกประมาณ 5 นาที ไปที่สาขาหลักของบริษัทเพื่อเอารถ สะดวกบริการดีใช้ได้ ไม่มีปัญหา เราซื้อ Hokkaido Expressway Pass แบบเหมารวม 11 วัน ราคา 9,800Y เพราะเส้นทางที่เราวางแผนกันไว้ต้องใช้ทางด่วนค่อนข้างเยอะ ซื้อ pass นี่คุ้มกว่าไปคอยจ่ายตามด่าน คือตอนจองรถก็บอกบริษัทรถไปเลยว่าจะเอา Hokkaido Expressway Pass แบบเหมารวม 11 วัน เขาก็จะเตรียม ETC (Electronic Toll Collection) การ์ดไว้ให้เรา เอาไปเสียบที่จุดเสียบในรถก็ใช้ได้เลย เวลาเข้าทางด่วนก็เข้าช่อง ETC มันจะคล้ายๆช่อง Easy Pass/ M Pass บ้านเรา ที่นี่รถไม่ค่อยแออัด ขับง่าย แต่เรายังงงๆกับ speed limit เพราะช่วงทางด่วนเห็นตัวเลข 70 แต่เขาขับกันจริงๆบางทีก็ 100 เลยไม่แน่ใจว่ายังไง ก็ขับตามๆเขาไป ก็ไม่โดนอะไรแปลกๆ ตามมาทีหลัง รถเรามีแถม GPS ให้ด้วย ที่ญี่ปุ่นสามารถใส่เป็น Mapcode ของสถานที่ต่างๆได้ ลองดูบางส่วนได้ที่ http://www.backpackbuddy.net/hokkaido-mapcode/ หรือใส่เบอร์โทรศัพท์เอาก็ได้ สะดวกมากๆ
เส้นทางการเดินทางคร่าวๆ สำหรับทริปนี้ของพวกเรา ก็ประมาณนี้ เริ่มที่สนามบิน Chitose วนขึ้นไปทางเหนือก่อนแล้วค่อยลงใต้ แล้วก็กลับมาจบที่ Sapporo ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
ไม่เกริ่นมากและ ไปเที่ยวฮอกไกโด ชมใบไม้สีสวยๆ กันเลยดีกว่าเนอะ