ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์อันงดงาม และบรรยากาศที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตลาดอาหารทะเลสดใหม่ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจ
โดยในทริปนี้ เราจะพาทุกคนจับมือคนข้างๆไปเดินเที่ยว
2 Days 1 Night Trip ฮาโกดาเตะ ญี่ปุ่น บอกเลยว่าเที่ยวครบถูกใจทุกคนแน่นอน จะเป็นที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยยยยย 😉💕
Day 1: Tues
หลังจากเดินทางด้วยรถไฟจากสนามบิน New Chitose เกือบ 3 hrs เราก็มาถึงที่พักที่จองไว้ ซึ่งใกล้สถานีรถไฟ JR Hakodate และตลาดปลามากๆ
🏨Premier Hotel Cabin President Hokodate ที่พักระดับ 4 ดาวที่มีจุดเด่นคือ ทำเลที่เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ที่ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที และสถานีรถไฟ JR Hakodate เพียงไม่กี่ก้าว
ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมด้านหน้าโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อด้วย ไม่อดตายแน่นอน โดยห้องพักที่เราเลือกจะเป็นห้อง Standard ขนาด 18 ตร.ม. เห็นวิวภูเขาฮาโกดาเตะด้วยนะ ส่วนราคาก็ประมาณ 2,000 ต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า)

🧳
Check in: 15.00 / Check out: 11.00 ของวันถัดไป
📍: Wakamatsu-cho 14-10, 040-0063 ฮาโกดาเตะ, จังหวัดฮกไกโด, ญี่ปุ่น
หลังจาก Check-in เข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ไปเติมพลังกันที่ร้านอูนิ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก สามารถเดินไปได้
🦪Uni Murakami
ร้านอาหารชื่อดังที่โดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูที่ทำจาก “อูนิ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นของขึ้นชื่อในภูมิภาคนี้ วัตถุดิบที่ใช้ในร้านถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ตัวอุนิมีความสด หวาน นัวๆ ไม่คาว กินแล้วแสงออกปาก มีทั้งแบบอูนิเพียวๆแบบไซด์มินิประมาณ ¥2,000+ และแบบข้าวด้ง ¥4,000-¥7,000+ นอกจากอูนิแล้วพวกซาชิมิก็มีนะ รสชาติดีเลย

✅เรา Walk-in มากินช่วงบ่ายๆตอนร้านใกล้ปิดตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้กินและ เพราะเขาตัดคิวหลังเรานิดเดียว ยังไงแนะนำให้มาก่อนสัก 14.00-14.30 ก็ดี
⏱️เวลาเปิด-ปิด: 8.30-15.00 (ปิด Weds)
📍พิกัด: 22-1 Otemachi, Hakodate, Hokkaido 040-0064, Japan
เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาว พอทานข้าวเสร็จประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ ฟ้าก็มืดแล้ว เราเลยไปเดินเล่นกันต่อที่โกดังอิฐแดง Landmarks ขึ้นชื่อที่แวะมาได้ทั้งช่วงฟ้ามืดและฟ้าสว่าง
🧱Kanemori Red Brick Warehouse
โกดังอิฐแดง (Red Brick Warehouse) ในฮาโกดาเตะ เป็นหนึ่งในอาคารอิฐแดงแห่งแรกของฮอกไกโด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 เพื่อเป็นคลังสินค้าสำหรับการขนส่งทางทะเลในยุคที่ฮาโกดาเตะเป็นท่าเรือสำคัญในการค้าขายกับต่างประเทศ สถาปัตยกรรมอิฐแดงที่แข็งแรงถูกออกแบบให้ทนทานต่อไฟไหม้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในยุคนั้น

⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-19.00 สำหรับร้านค้า
🚋Tram: สถานี Jujigai Station หรือ เดินจากสถานี JR Hokodate ประมาณ 15 นาที
💵ค่าเข้า: ฟรี
📍พิกัด: 14-12 Suehirocho, Hakodate, Hokkaido 040-0053, Japan
ปิดจบวันด้วยมื้อเย็นแสนอร่อย กับการกินสุกี้ยากี้เนื้อร้อนๆในช่วงอากาศหนาวๆ คือฟินสุดๆ
🍲 Asari Honten
ร้านสุกี้ยากี้แบบดั้งเดิม โดยมีจุดเด่นคือเนื้อวากิวเกรด A5 บรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ให้ความย้อนยุค เหมือนพาเรากลับไปสมัยก่อน มีห้อง Private มีเสื่อทาทามิ และพนักงานช่วยปรุงอาหารให้ถึงโต๊ะ บริการดีน่ารักตามสไตล์ญี่ปุ่น
โดยเมนูแนะนำคือ 🥩เซตสุกี้ยากี้เนื้อวากิวที่เสิร์ฟพร้อมผักสด โดยปรุงในกระทะด้วยน้ำซุปและซอสหวานสูตรเฉพาะของร้าน 🍨ส่วนของหวานมีไอศกรีมยูสุให้ในเซต รสชสติดี หอมยูสุ เปรี้ยวนิดๆ สำหรับตัดความเลี่ยน

⏱️เวลาเปิด-ปิด: 11.00 - 21.00 (ปิดวันพุธ)
💸 ราคา: เซตละ ¥3,000–¥5,000
✅ควรต้องจองล่วงหน้า แนะนำให้โทรจองโดยตรงกับทางร้าน
🚋🚘การเดินทาง: ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถราง Horaicho เดินเพียง 1 นาที หรือขับรถจากสถานีฮาโกดาเตะประมาณ 15 นาที
📍 10-11 Horaicho, Hakodate, Hokkaido 040-0043, Japan
[CR] Hakodate 2 Days 1 Night | เดินเล่นถ่ายรูปตะลุยกินในเมืองฮาโกดาเตะ ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น
ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านวิวทิวทัศน์อันงดงาม และบรรยากาศที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและตะวันตก ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตลาดอาหารทะเลสดใหม่ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจ
โดยในทริปนี้ เราจะพาทุกคนจับมือคนข้างๆไปเดินเที่ยว 2 Days 1 Night Trip ฮาโกดาเตะ ญี่ปุ่น บอกเลยว่าเที่ยวครบถูกใจทุกคนแน่นอน จะเป็นที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยยยยย 😉💕
Day 1: Tues
หลังจากเดินทางด้วยรถไฟจากสนามบิน New Chitose เกือบ 3 hrs เราก็มาถึงที่พักที่จองไว้ ซึ่งใกล้สถานีรถไฟ JR Hakodate และตลาดปลามากๆ
🏨Premier Hotel Cabin President Hokodate ที่พักระดับ 4 ดาวที่มีจุดเด่นคือ ทำเลที่เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ที่ใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที และสถานีรถไฟ JR Hakodate เพียงไม่กี่ก้าว
ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมด้านหน้าโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อด้วย ไม่อดตายแน่นอน โดยห้องพักที่เราเลือกจะเป็นห้อง Standard ขนาด 18 ตร.ม. เห็นวิวภูเขาฮาโกดาเตะด้วยนะ ส่วนราคาก็ประมาณ 2,000 ต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า)
🧳Check in: 15.00 / Check out: 11.00 ของวันถัดไป
📍: Wakamatsu-cho 14-10, 040-0063 ฮาโกดาเตะ, จังหวัดฮกไกโด, ญี่ปุ่น
หลังจาก Check-in เข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ไปเติมพลังกันที่ร้านอูนิ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก สามารถเดินไปได้
🦪Uni Murakami
ร้านอาหารชื่อดังที่โดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูที่ทำจาก “อูนิ” ที่ได้ชื่อว่าเป็นของขึ้นชื่อในภูมิภาคนี้ วัตถุดิบที่ใช้ในร้านถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ตัวอุนิมีความสด หวาน นัวๆ ไม่คาว กินแล้วแสงออกปาก มีทั้งแบบอูนิเพียวๆแบบไซด์มินิประมาณ ¥2,000+ และแบบข้าวด้ง ¥4,000-¥7,000+ นอกจากอูนิแล้วพวกซาชิมิก็มีนะ รสชาติดีเลย
✅เรา Walk-in มากินช่วงบ่ายๆตอนร้านใกล้ปิดตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้กินและ เพราะเขาตัดคิวหลังเรานิดเดียว ยังไงแนะนำให้มาก่อนสัก 14.00-14.30 ก็ดี
⏱️เวลาเปิด-ปิด: 8.30-15.00 (ปิด Weds)
📍พิกัด: 22-1 Otemachi, Hakodate, Hokkaido 040-0064, Japan
เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาว พอทานข้าวเสร็จประมาณช่วงบ่ายแก่ๆ ฟ้าก็มืดแล้ว เราเลยไปเดินเล่นกันต่อที่โกดังอิฐแดง Landmarks ขึ้นชื่อที่แวะมาได้ทั้งช่วงฟ้ามืดและฟ้าสว่าง
🧱Kanemori Red Brick Warehouse
โกดังอิฐแดง (Red Brick Warehouse) ในฮาโกดาเตะ เป็นหนึ่งในอาคารอิฐแดงแห่งแรกของฮอกไกโด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 เพื่อเป็นคลังสินค้าสำหรับการขนส่งทางทะเลในยุคที่ฮาโกดาเตะเป็นท่าเรือสำคัญในการค้าขายกับต่างประเทศ สถาปัตยกรรมอิฐแดงที่แข็งแรงถูกออกแบบให้ทนทานต่อไฟไหม้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในยุคนั้น
⏱️เวลาเปิด-ปิด: 10.00-19.00 สำหรับร้านค้า
🚋Tram: สถานี Jujigai Station หรือ เดินจากสถานี JR Hokodate ประมาณ 15 นาที
💵ค่าเข้า: ฟรี
📍พิกัด: 14-12 Suehirocho, Hakodate, Hokkaido 040-0053, Japan
ปิดจบวันด้วยมื้อเย็นแสนอร่อย กับการกินสุกี้ยากี้เนื้อร้อนๆในช่วงอากาศหนาวๆ คือฟินสุดๆ
🍲 Asari Honten
ร้านสุกี้ยากี้แบบดั้งเดิม โดยมีจุดเด่นคือเนื้อวากิวเกรด A5 บรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ให้ความย้อนยุค เหมือนพาเรากลับไปสมัยก่อน มีห้อง Private มีเสื่อทาทามิ และพนักงานช่วยปรุงอาหารให้ถึงโต๊ะ บริการดีน่ารักตามสไตล์ญี่ปุ่น
โดยเมนูแนะนำคือ 🥩เซตสุกี้ยากี้เนื้อวากิวที่เสิร์ฟพร้อมผักสด โดยปรุงในกระทะด้วยน้ำซุปและซอสหวานสูตรเฉพาะของร้าน 🍨ส่วนของหวานมีไอศกรีมยูสุให้ในเซต รสชสติดี หอมยูสุ เปรี้ยวนิดๆ สำหรับตัดความเลี่ยน
⏱️เวลาเปิด-ปิด: 11.00 - 21.00 (ปิดวันพุธ)
💸 ราคา: เซตละ ¥3,000–¥5,000
✅ควรต้องจองล่วงหน้า แนะนำให้โทรจองโดยตรงกับทางร้าน
🚋🚘การเดินทาง: ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถราง Horaicho เดินเพียง 1 นาที หรือขับรถจากสถานีฮาโกดาเตะประมาณ 15 นาที
📍 10-11 Horaicho, Hakodate, Hokkaido 040-0043, Japan
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น