เพิ่งกลับจากเซนไดมาครับ
ก่อนไปก็หาข้อมูลจากที่เพื่อน ๆ สมาชิกพันทิปเคยโพสต์ไว้
และสอบถามเส้นทาง ที่มีคุณ Hyperreality ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ
เลยขอมาโพสต์เผื่อท่านใดสนใจทริปเซนไดนะครับ
ทริปนี้จัดโปรแกรมสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ
และต้องขอโทษที่อาจมีรูปตัวเองเยอะไปหน่อย
เพราะพอมาดูรูปที่ถ่ายมาแล้วคงตื่นเต้นที่เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ก็เลยถ่ายรูปตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่
ภาพไม่ได้แต่งสีอะไรนะครับ เพราะจะได้ไม่คาดหวังมากเกินไปน่ะครับ
วันที่ 1 : เสาร์ 9 พ.ย. 62
ที่จริงทริปวันนี้มีเวลาแค่ 1 นาที เพราะป้าม่วงออกจากสุวรรณภูมิ 23.59 น.
พอขึ้นมาได้สัก 20 นาทีแอร์ก็แจกถุงยังชีพ รับไว้แล้วป้าก็ปิดไฟให้นอน
นอนได้สัก 2 ชม.กว่า เพราะขาไปลมส่งบินแค่ 5 ชม. 45 นาที
ป้าก็ปลุกมาทานมื้อเช้า เลือกซีฟู้ดไว้ ดีเกินคาด
เป็นสปาเก็ตตี้ปลา หมึก และ กุ้ง ให้เนื้อหนังเยอะทีเดียว
หลายคนทานแซนวิชจากถุงยังชีพไม่หมด ต่างเก็บกันไว้เป็นเสบียงภายภาคหน้า
แต่ตม.เซนไดห้ามเอาแซนวิชเข้า
แซนวิชของป้าม่วงเลยต้องถูกทิ้งขยะจนกองพะเนินน่าเสียดายมากครับ
ที่จริงป้าม่วงบริการดีนะ แต่ราคาแพงไปหน่อย
ครั้งนี้ป้าฉลองกลับมาบินเซนไดอีกครั้งเลยลดกระหน่ำเหลือ 13,××× ต้น ๆ
แต่ราคานี้ตอนที่ผมหา เป็นราคาช่วงจะกลางพ.ย.
ถ้ากลาง ถีง ปลายต.ค.ตั๋วแพง หาตั๋วโปรราคาถูกไม่ได้
เพราะคนจะมาดูใบไม้แดง และคงโรงเรียนหยุดพอดี
เลยจองตั๋วกลางพ.ย.แทนเพราะถูกกว่ามาก
คิดว่าไม่เห็นใบไม้เปลี่ยนสีก็ไม่เป็นไร เคยไปดูตอนพีคทั้งที่เกียวโต และโตเกียวมาแล้ว
แต่เอาอะไรกับธรรมชาติ ปีนี้ใบไม้แดงเพราะปีนี้มาล่าไป 2-3 สัปดาห์
คนจองตั๋วถูกกับส้มหล่น ได้ดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ...
ซ้ายมือคือถุงยังชีพของป้าม่วง มีน้ำขวดและแซนวิชทูน่า แจกตอนเครื่องขึ้น
ส่วนใหญ่จึงไม่ได้กินกัน (แต่ผมกินนะ เหมือนใส่ทูน่า รสชาติใช้ได้) เพราะดึกมากแล้ว
จะกินตอนเช้าก็มีอาหารจานร้อนที่น่าทานกว่า
ขวามือคือถาดอาหารมื้อเช้าก่อนเครื่องลงเซนได
ถุงยังชีพของป้าม่วง
มื้อเช้า เลือกซีฟู้ดไว้ ดีเกินคาด
เป็นสปาเก็ตตี้ปลา หมึก และ กุ้ง ให้เนื้อหนังเยอะทีเดียว
ป้าม่วงกำลังลงเซนได
วันที่ 2 : อาทิตย์ 10 พ.ย. 62
ป้าม่วงพามาส่งเซนได ฝากกระเป๋าที่รร. แล้วขึ้นรถไฟไปเมืองมัตสุชิมะ มีหลงนิดหน่อย
คือรถไฟขบวนขาไปมันต้องเปลี่ยนชบวนน่ะครับ เห็นคนลงหมดนั่งรออยู่นาน
จนต้องไปถามจนท.สถานี ชี้มือให้เดินข้ามไปขึ้นอีกฝั่ง
แต่ขากลับได้ขบวนที่ยิงยาวเลยครับ
ถึงเมืองนี้ทานมื้อกลางวันได้กินลิ้นวัวย่างหรือ กิวตัง ของเซนไดสมใจ
แล้วไปชมวัด Godaido วัดนี้จะเปิดวิหารไม้ให้เข้าไปไหว้ด้านในได้ ทุก 33 ปี !
แล้วเดินต่อข้ามสะพานยาวชื่อ Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima เดินเล่นรอบเกาะ
แล้วมาชมวัด Zuiganji และวัด Ensuin
ที่วัดหลังใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีระยะแรก คือมีทั้งสีเขียว เหลือง ส้ม แดง สวยไปอีกแบบนึง
(วัดแรกไม่ได้เข้า เพราะเวลาจะไม่ทัน ช่วงนี้บ่ายสามครึ่งแค่นั้น เริ่มโพล้เพล้แล้วครับ)
กิวตัง=ลิ้นวัวย่าง อาหารดังของเซนได
ใบไม้ที่มัตสึซิมะเริ่มเปลี่ยนสี
สะพานข้ามไปวิหารไม้ Godaido ในมัตสึซิมะ
วัด Godaido
ข้ามสะพานยาวชื่อ Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima เดินเล่นรอบเกาะ
ไอศกรีมถั่วแระ อาหารประจำถิ่น ร้านอยู่ตรงทางขึ้นสะพานยาว Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima
หอยนางรม เมืองมัตสุชิมะ
วัด Zuiganji
วัด Ensuin
โรงแรมที่พักชื่อ Daiwa Roynet Sendai อยู่ JR Sendai Station ฝั่ง East Exit
ฝั่งนี้จะดูเงียบกว่าฝั่ง West Exit
แต่ Sendai Station นี่เดินจากฝั่ง East ทะลุสถานีไปฝั่ง West นิดเดียวเองครับ
ห้องนอนดีเกินคาด มีเก้าอี้นวดด้วยครับ
แล้วจะมาเล่าวันต่อ ๆ ไปต่อนะครับ
ทริป "ป้าม่วงพาไปดูใบไม้สีเขียวเหลืองส้มแดงจนร่วงหล่นที่เซนได" (ตอนที่ 1 วันที่ 1&2 : เสาร์-อาทิตย์ 9-10 พ.ย. 62)
ก่อนไปก็หาข้อมูลจากที่เพื่อน ๆ สมาชิกพันทิปเคยโพสต์ไว้
และสอบถามเส้นทาง ที่มีคุณ Hyperreality ให้คำแนะนำอย่างละเอียด ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ
เลยขอมาโพสต์เผื่อท่านใดสนใจทริปเซนไดนะครับ
ทริปนี้จัดโปรแกรมสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ
และต้องขอโทษที่อาจมีรูปตัวเองเยอะไปหน่อย
เพราะพอมาดูรูปที่ถ่ายมาแล้วคงตื่นเต้นที่เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ก็เลยถ่ายรูปตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่
ภาพไม่ได้แต่งสีอะไรนะครับ เพราะจะได้ไม่คาดหวังมากเกินไปน่ะครับ
วันที่ 1 : เสาร์ 9 พ.ย. 62
ที่จริงทริปวันนี้มีเวลาแค่ 1 นาที เพราะป้าม่วงออกจากสุวรรณภูมิ 23.59 น.
พอขึ้นมาได้สัก 20 นาทีแอร์ก็แจกถุงยังชีพ รับไว้แล้วป้าก็ปิดไฟให้นอน
นอนได้สัก 2 ชม.กว่า เพราะขาไปลมส่งบินแค่ 5 ชม. 45 นาที
ป้าก็ปลุกมาทานมื้อเช้า เลือกซีฟู้ดไว้ ดีเกินคาด
เป็นสปาเก็ตตี้ปลา หมึก และ กุ้ง ให้เนื้อหนังเยอะทีเดียว
หลายคนทานแซนวิชจากถุงยังชีพไม่หมด ต่างเก็บกันไว้เป็นเสบียงภายภาคหน้า
แต่ตม.เซนไดห้ามเอาแซนวิชเข้า
แซนวิชของป้าม่วงเลยต้องถูกทิ้งขยะจนกองพะเนินน่าเสียดายมากครับ
ที่จริงป้าม่วงบริการดีนะ แต่ราคาแพงไปหน่อย
ครั้งนี้ป้าฉลองกลับมาบินเซนไดอีกครั้งเลยลดกระหน่ำเหลือ 13,××× ต้น ๆ
แต่ราคานี้ตอนที่ผมหา เป็นราคาช่วงจะกลางพ.ย.
ถ้ากลาง ถีง ปลายต.ค.ตั๋วแพง หาตั๋วโปรราคาถูกไม่ได้
เพราะคนจะมาดูใบไม้แดง และคงโรงเรียนหยุดพอดี
เลยจองตั๋วกลางพ.ย.แทนเพราะถูกกว่ามาก
คิดว่าไม่เห็นใบไม้เปลี่ยนสีก็ไม่เป็นไร เคยไปดูตอนพีคทั้งที่เกียวโต และโตเกียวมาแล้ว
แต่เอาอะไรกับธรรมชาติ ปีนี้ใบไม้แดงเพราะปีนี้มาล่าไป 2-3 สัปดาห์
คนจองตั๋วถูกกับส้มหล่น ได้ดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ...
ซ้ายมือคือถุงยังชีพของป้าม่วง มีน้ำขวดและแซนวิชทูน่า แจกตอนเครื่องขึ้น
ส่วนใหญ่จึงไม่ได้กินกัน (แต่ผมกินนะ เหมือนใส่ทูน่า รสชาติใช้ได้) เพราะดึกมากแล้ว
จะกินตอนเช้าก็มีอาหารจานร้อนที่น่าทานกว่า
ขวามือคือถาดอาหารมื้อเช้าก่อนเครื่องลงเซนได
ถุงยังชีพของป้าม่วง
มื้อเช้า เลือกซีฟู้ดไว้ ดีเกินคาด
เป็นสปาเก็ตตี้ปลา หมึก และ กุ้ง ให้เนื้อหนังเยอะทีเดียว
ป้าม่วงกำลังลงเซนได
วันที่ 2 : อาทิตย์ 10 พ.ย. 62
ป้าม่วงพามาส่งเซนได ฝากกระเป๋าที่รร. แล้วขึ้นรถไฟไปเมืองมัตสุชิมะ มีหลงนิดหน่อย
คือรถไฟขบวนขาไปมันต้องเปลี่ยนชบวนน่ะครับ เห็นคนลงหมดนั่งรออยู่นาน
จนต้องไปถามจนท.สถานี ชี้มือให้เดินข้ามไปขึ้นอีกฝั่ง
แต่ขากลับได้ขบวนที่ยิงยาวเลยครับ
ถึงเมืองนี้ทานมื้อกลางวันได้กินลิ้นวัวย่างหรือ กิวตัง ของเซนไดสมใจ
แล้วไปชมวัด Godaido วัดนี้จะเปิดวิหารไม้ให้เข้าไปไหว้ด้านในได้ ทุก 33 ปี !
แล้วเดินต่อข้ามสะพานยาวชื่อ Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima เดินเล่นรอบเกาะ
แล้วมาชมวัด Zuiganji และวัด Ensuin
ที่วัดหลังใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีระยะแรก คือมีทั้งสีเขียว เหลือง ส้ม แดง สวยไปอีกแบบนึง
(วัดแรกไม่ได้เข้า เพราะเวลาจะไม่ทัน ช่วงนี้บ่ายสามครึ่งแค่นั้น เริ่มโพล้เพล้แล้วครับ)
กิวตัง=ลิ้นวัวย่าง อาหารดังของเซนได
ใบไม้ที่มัตสึซิมะเริ่มเปลี่ยนสี
สะพานข้ามไปวิหารไม้ Godaido ในมัตสึซิมะ
วัด Godaido
ข้ามสะพานยาวชื่อ Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima เดินเล่นรอบเกาะ
ไอศกรีมถั่วแระ อาหารประจำถิ่น ร้านอยู่ตรงทางขึ้นสะพานยาว Fuguurabashi ไปเกาะ Fukuurajima
หอยนางรม เมืองมัตสุชิมะ
วัด Zuiganji
วัด Ensuin
โรงแรมที่พักชื่อ Daiwa Roynet Sendai อยู่ JR Sendai Station ฝั่ง East Exit
ฝั่งนี้จะดูเงียบกว่าฝั่ง West Exit
แต่ Sendai Station นี่เดินจากฝั่ง East ทะลุสถานีไปฝั่ง West นิดเดียวเองครับ
ห้องนอนดีเกินคาด มีเก้าอี้นวดด้วยครับ
แล้วจะมาเล่าวันต่อ ๆ ไปต่อนะครับ