สวัสดีค่ะ ขออนุญาติใช้ช่องทางนี้ในการระบายสักเล็กน้อยนะคะ และอยากได้รับคำปรึกษาจริง ๆ เพราะคนรอบตัวไม่มีใครที่เราสามารถไว้ใจให้ปรึกษาได้เลยจริงๆค่ะ อาจจะเล่าสลับไปๆมาๆบ้างนะคะ ต้องขออภัยด้วย
เกริ่นสักเล็กน้อย เราอายุ 24 ปีค่ะ จบมาทำงานได้ 3 ปีแล้ว มีความกดดันและโดนฝังหัวมาตลอดว่าต้องได้เงินเดือนเยอะๆ ประมาณ 30,000 อัพ ถึงจะ"เริ่มพอ"ดูแลพ่อได้ ณ ปัจจุบันเราอาศัยอยู่กับคุณพ่อค่ะ พ่อจะคอยกำหนดเส้นทางชีวิตของเรามาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนี้เลยค่ะ ว่าจะต้องเรียนที่ไหน ให้เงินเท่าไหร่ ซื้ออะไรเข้าบ้านบ้าน ต้องได้เงินเท่าไหร่ถึงจะเลี้ยงครอบครัวได้ รวมถึงเรื่องเงินเดือนที่เราได้ควรทำอย่างไรถึงเลี้ยงพ่อได้ เพราะว่าปัจจุบันพ่อเราไม่ทำงานแล้วค่ะงานน้อยมากกกกกกกก ตั้งแต่จบมาค่าใช้จ่ายในบ้านรวมถึงหนี้ก็ตกมาเป็นของเราทันทีต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แค่พ่อเราเป็นคนจ่ายให้โดยเอาเงินของเราเองเนี่ยแหละค่ะมาจ่าย เวลาเราเครียดจากที่ทำงานเพราะเจ้านายนิสัยไม่โอเคเลย โดยเราโดนด่าเพราะเราทำในสิ่งที่เจ้านายต้องการ ณ ตอนนั้นทันทีไม่ได้ เพราะเราจะต้องเช็ค ตรวจทานก่อนส่งทุกครั้งไม่อย่างนั้นสื่อที่ออกไปจะไม่ได้คุณภาพ เรามักจะเล่าทุกครั้งว่าทำไมถึงต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการทันทีไม่ได้ แต่เหมือนเจ้านายจะไม่เข้าใจก็ด่าเหมือนเดิม ประโยคเดิม สุดท้ายแล้วค่อยขอโทษ แต่เราไม่โอเค ที่เจ้านายเลือกใช้อารมณ์ก่อนแล้วเหตุผลค่อยมาทีหลัง ก็เลยมีไประบายที่ทำงานให้ที่บ้านกับเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันฟังบ้าง แต่ที่บ้านเหมือนจะกลับซ้ำเติมเราซะมากกว่า ว่าถ้าทำไม่ได้ก็หางานอื่นทำ ทำไมถึงต้องทำเฉพาะตำแหน่งเดียวที่ทำได้ด้วยหล่ะ (ปจบ.เราทำตำแหน่ง Content นะคะ ) ทำไมไม่อ้างงานตำแหน่งอื่นที่เคยทำพาร์ทไทม์มาอัพสกิลสมัยเรียนมัธยม เพื่อให้ได้เงินเยอะๆหล่ะ เช่น ตอนปิดเทอมทำงานจัดซื้อ เป็นธุรการบ้างล่ะ ทำแต่ตำแหน่งเดิม ๆ จะไปโตอะไรใครๆก็ทำได้ ไอ content นั่น
ซึ่งเราเคยบอกพ่อไปแล้วค่ะว่าเราทำแค่ช่วงปิดเทอม แถมเป็นแค่พื้นฐาน ปัจจุบันลืมไปละ จะให้เปลี่ยนสายงานหรือพูดว่าทำอะไรได้อีกบ้างนอกเหนือจาก Content ไม่ดูเป็นคนทำงานจับฉ่ายไปหน่อยหรือคะ? อีกอย่างเราไม่ได้ดูเป็นมืออาชีพขนาดนั้นแค่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็โดนสวนมาด้วยการบอกถึงอดีตแกว่าแต่ก่อนฉันก็ทำอาชีพตั้งหลายอย่างไม่ได้ตรงเหมือนที่จบมา ยังได้เงินเดือนสูงสุดคือ 70,000 เลย มีคนขับรถส่วนตัวด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องฟองสบู่ป่านนี้พ่อเลี้ยงแกดีกว่านี้อีก ที่พ่อโตได้ขนาดนี้เพราะพ่อมีไหวพริบแต่แกไม่มี อีกนานกว่าจะเก่งเท่าพ่อ ซึ่งไม่มีทางเก่งเท่าพ่อได้อยู่แล้ว เจอประโยคนี้เข้าไปคืออึ้ง เราก็เข้าใจค่ะว่าต่อให้เราเรียนจบคณะไหนมาใช่ว่าทุกคนจะได้ทำงานสายอาชีพนั้นจริงๆ แต่ทำไมต้องมาอวดเรื่องเงินเดือนที่ตัวเองได้รับสมัยอดีตด้วย? ช่วงที่พ่อกำลังโตสมัยนั้นเศรษฐกิจแย่เหมือนในปัจจุบันหรือเปล่า? ค่าครองชีพเท่ากันหรือเปล่า? แล้วทำไมต้องมาบลัฟกันด้วยว่าไม่มีทางเก่งเท่าพ่อ? คือเราก็ไม่ใช่พ่อนะ เราไม่ได้อารมณ์ร้อน กล้าได้กล้าเสีย รุนแรงได้เมื่อตัวเองไม่พอใจในการทำงาน ด่าเจ้านายได้ถ้าไม่ชอบ คือเพื่อ?! แล้วพ่อของเรายังบอกประจำด้วยค่ะว่าเงินเดือน 25000 หักภาษาษีโน่นนี่นั่นเหลือ 24000 ต้องให้พ่อ 12000 แล้วเอาเงินเข้าบัญชีเก็บไว้อีก 5000 เป็นเงินสำรองใช้ห้ามยุ่ง พ่อจะดูแลสมุดบัญชีเอง เราเองจะเหลือเงินอยู่ประมาณ 7000 ใช้เป็นค่าข้าวกลางวันใจกลางเมืองที่แค่ข้าวผัดก็จานละ 100 น้ำ 60 ไม่มีตลาดเลยต้องนั่นรถไกลอยู่ ส่วนใหญ่เราต้องประหยัดค่ะ ข้าวเที่ยงเรามักกิน 7-11 ตลอดเพราะถูกสุดละ เพื่อที่จะได้มีเงินเก็บมาทบอีก เงินที่เราให้พ่อไป 12000นั้นไม่เคยพอค่ะ กลางๆ เดือนก็มาขอเพิ่มแล้ว 500 อยู่ได้ 2 วันก็ขอเพิ่มอีก บอกว่าเอามาเป็นค่าข้าวให้ที่บ้าน เราก็เลยถามว่าเงินที่เราให้อ่ะไปไหน พ่อก็ตอบว่าเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด เรางงมาก แทบจะประหยัดทุกอย่าง เงินหมื่นกว่าหมดเลยหรอ เครียดค่ะ เครียดกว่าเดิม นอกจากงานแล้วที่บ้านก็ต้องเลี้ยงแถมที่บ้านไม่ซัพพอร์ตอะไรให้เพิ่มเติมเลย พอเล่าปัญหาจากที่ทำงานให้ฟังก็โดน toxic ใส่อีก จนตอนนี้เราได้นิสัยไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยมาแล้วค่ะ จะทำอะไรคือต้องถามพ่อก่อนทุกครั้ง (ก็ปสก.เขาเยอะนี่เนาะ ) พอถามบ่อยๆ ก็ก็ด่าอีกว่าโตเป็น...แล้วไม่มีสมองตัดสินใจอะไรเองเลยหรอ โดนแบบนี้ทุกครั้ง พอเราจะต่อต้านพ่อบ้างก็เกือบจะโดนเตะ 555 จนเราเคยคิดอยากจะเอามีดมาแทงพ่อให้ดับไปเลยก็มีค่ะ เข้าข่ายต้องไปพบจิตแพทย์มั้ยคะ
เพราะเงินเดือนไม่สูง ไม่ทำตามที่พ่อสั่งถือว่าอกตัญญู??
เกริ่นสักเล็กน้อย เราอายุ 24 ปีค่ะ จบมาทำงานได้ 3 ปีแล้ว มีความกดดันและโดนฝังหัวมาตลอดว่าต้องได้เงินเดือนเยอะๆ ประมาณ 30,000 อัพ ถึงจะ"เริ่มพอ"ดูแลพ่อได้ ณ ปัจจุบันเราอาศัยอยู่กับคุณพ่อค่ะ พ่อจะคอยกำหนดเส้นทางชีวิตของเรามาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนี้เลยค่ะ ว่าจะต้องเรียนที่ไหน ให้เงินเท่าไหร่ ซื้ออะไรเข้าบ้านบ้าน ต้องได้เงินเท่าไหร่ถึงจะเลี้ยงครอบครัวได้ รวมถึงเรื่องเงินเดือนที่เราได้ควรทำอย่างไรถึงเลี้ยงพ่อได้ เพราะว่าปัจจุบันพ่อเราไม่ทำงานแล้วค่ะงานน้อยมากกกกกกกก ตั้งแต่จบมาค่าใช้จ่ายในบ้านรวมถึงหนี้ก็ตกมาเป็นของเราทันทีต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แค่พ่อเราเป็นคนจ่ายให้โดยเอาเงินของเราเองเนี่ยแหละค่ะมาจ่าย เวลาเราเครียดจากที่ทำงานเพราะเจ้านายนิสัยไม่โอเคเลย โดยเราโดนด่าเพราะเราทำในสิ่งที่เจ้านายต้องการ ณ ตอนนั้นทันทีไม่ได้ เพราะเราจะต้องเช็ค ตรวจทานก่อนส่งทุกครั้งไม่อย่างนั้นสื่อที่ออกไปจะไม่ได้คุณภาพ เรามักจะเล่าทุกครั้งว่าทำไมถึงต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการทันทีไม่ได้ แต่เหมือนเจ้านายจะไม่เข้าใจก็ด่าเหมือนเดิม ประโยคเดิม สุดท้ายแล้วค่อยขอโทษ แต่เราไม่โอเค ที่เจ้านายเลือกใช้อารมณ์ก่อนแล้วเหตุผลค่อยมาทีหลัง ก็เลยมีไประบายที่ทำงานให้ที่บ้านกับเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันฟังบ้าง แต่ที่บ้านเหมือนจะกลับซ้ำเติมเราซะมากกว่า ว่าถ้าทำไม่ได้ก็หางานอื่นทำ ทำไมถึงต้องทำเฉพาะตำแหน่งเดียวที่ทำได้ด้วยหล่ะ (ปจบ.เราทำตำแหน่ง Content นะคะ ) ทำไมไม่อ้างงานตำแหน่งอื่นที่เคยทำพาร์ทไทม์มาอัพสกิลสมัยเรียนมัธยม เพื่อให้ได้เงินเยอะๆหล่ะ เช่น ตอนปิดเทอมทำงานจัดซื้อ เป็นธุรการบ้างล่ะ ทำแต่ตำแหน่งเดิม ๆ จะไปโตอะไรใครๆก็ทำได้ ไอ content นั่น
ซึ่งเราเคยบอกพ่อไปแล้วค่ะว่าเราทำแค่ช่วงปิดเทอม แถมเป็นแค่พื้นฐาน ปัจจุบันลืมไปละ จะให้เปลี่ยนสายงานหรือพูดว่าทำอะไรได้อีกบ้างนอกเหนือจาก Content ไม่ดูเป็นคนทำงานจับฉ่ายไปหน่อยหรือคะ? อีกอย่างเราไม่ได้ดูเป็นมืออาชีพขนาดนั้นแค่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็โดนสวนมาด้วยการบอกถึงอดีตแกว่าแต่ก่อนฉันก็ทำอาชีพตั้งหลายอย่างไม่ได้ตรงเหมือนที่จบมา ยังได้เงินเดือนสูงสุดคือ 70,000 เลย มีคนขับรถส่วนตัวด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องฟองสบู่ป่านนี้พ่อเลี้ยงแกดีกว่านี้อีก ที่พ่อโตได้ขนาดนี้เพราะพ่อมีไหวพริบแต่แกไม่มี อีกนานกว่าจะเก่งเท่าพ่อ ซึ่งไม่มีทางเก่งเท่าพ่อได้อยู่แล้ว เจอประโยคนี้เข้าไปคืออึ้ง เราก็เข้าใจค่ะว่าต่อให้เราเรียนจบคณะไหนมาใช่ว่าทุกคนจะได้ทำงานสายอาชีพนั้นจริงๆ แต่ทำไมต้องมาอวดเรื่องเงินเดือนที่ตัวเองได้รับสมัยอดีตด้วย? ช่วงที่พ่อกำลังโตสมัยนั้นเศรษฐกิจแย่เหมือนในปัจจุบันหรือเปล่า? ค่าครองชีพเท่ากันหรือเปล่า? แล้วทำไมต้องมาบลัฟกันด้วยว่าไม่มีทางเก่งเท่าพ่อ? คือเราก็ไม่ใช่พ่อนะ เราไม่ได้อารมณ์ร้อน กล้าได้กล้าเสีย รุนแรงได้เมื่อตัวเองไม่พอใจในการทำงาน ด่าเจ้านายได้ถ้าไม่ชอบ คือเพื่อ?! แล้วพ่อของเรายังบอกประจำด้วยค่ะว่าเงินเดือน 25000 หักภาษาษีโน่นนี่นั่นเหลือ 24000 ต้องให้พ่อ 12000 แล้วเอาเงินเข้าบัญชีเก็บไว้อีก 5000 เป็นเงินสำรองใช้ห้ามยุ่ง พ่อจะดูแลสมุดบัญชีเอง เราเองจะเหลือเงินอยู่ประมาณ 7000 ใช้เป็นค่าข้าวกลางวันใจกลางเมืองที่แค่ข้าวผัดก็จานละ 100 น้ำ 60 ไม่มีตลาดเลยต้องนั่นรถไกลอยู่ ส่วนใหญ่เราต้องประหยัดค่ะ ข้าวเที่ยงเรามักกิน 7-11 ตลอดเพราะถูกสุดละ เพื่อที่จะได้มีเงินเก็บมาทบอีก เงินที่เราให้พ่อไป 12000นั้นไม่เคยพอค่ะ กลางๆ เดือนก็มาขอเพิ่มแล้ว 500 อยู่ได้ 2 วันก็ขอเพิ่มอีก บอกว่าเอามาเป็นค่าข้าวให้ที่บ้าน เราก็เลยถามว่าเงินที่เราให้อ่ะไปไหน พ่อก็ตอบว่าเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด เรางงมาก แทบจะประหยัดทุกอย่าง เงินหมื่นกว่าหมดเลยหรอ เครียดค่ะ เครียดกว่าเดิม นอกจากงานแล้วที่บ้านก็ต้องเลี้ยงแถมที่บ้านไม่ซัพพอร์ตอะไรให้เพิ่มเติมเลย พอเล่าปัญหาจากที่ทำงานให้ฟังก็โดน toxic ใส่อีก จนตอนนี้เราได้นิสัยไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยมาแล้วค่ะ จะทำอะไรคือต้องถามพ่อก่อนทุกครั้ง (ก็ปสก.เขาเยอะนี่เนาะ ) พอถามบ่อยๆ ก็ก็ด่าอีกว่าโตเป็น...แล้วไม่มีสมองตัดสินใจอะไรเองเลยหรอ โดนแบบนี้ทุกครั้ง พอเราจะต่อต้านพ่อบ้างก็เกือบจะโดนเตะ 555 จนเราเคยคิดอยากจะเอามีดมาแทงพ่อให้ดับไปเลยก็มีค่ะ เข้าข่ายต้องไปพบจิตแพทย์มั้ยคะ