ต่อจากกระทู้ที่ 2
พอแจ้งลาออกแล้ว พ้นสภาพแล้ว เจ้าของร้านก็ยังเซ้าซี้ บอกยังเคลียร์งานช่างไม่จบ จะไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง จขกท ก็ยอมไปเคลียร์งานช่างให้เสร็จตามที่ขอ จนเลยเวลามาเกือบสิ้นเดือนถัดไปหลังจากพ้นสภาพพนักงานของเขาแล้ว พอส่งงานทั้งหมดเสร็จแล้ว ก็แจ้งยอดเงินที่ค้างจ่าย แต่เจ้าของร้านกลับไม่ยอมจ่าย บอกทำงานไม่ได้เรื่อง จะเอาแต่เงิน และไม่ยอมจ่าย แต่ จขกท ก็ไม่ยอม บอกเงินค่าจ้างต้องจ่ายค่ะ แกก็สวนมาว่า งานยังไม่เสร็จ ไม่จ่าย ซึ่งงานที่ว่าคืองานที่แกสั่งเพิ่มหลังจากออกจากงานแล้ว ก็เลยบอกแกไปว่า ไม่ทำค่ะ เพราะงานนี้เป็นงานหลังแจ้งลาออกแล้ว พอได้ยินแบบนั้น แกก็โมโหไม่พอใจ แล้วก็ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย บอกจะเอาให้หนักกลับบ้านเกิดไม่ได้เลย ระวังไว้นะ
เล่าอีกส่วนที่เชื่อมโยงมาอีกหนึ่งปัญหา
เจ้าของร้านมีพี่สาวคนหนึ่ง ตอนที่ทำงานให้เจ้าของร้านก็ทำงานเอกสารให้พี่สาวด้วย พอเกิดเรื่องที่เริ่มไม่โอเค ก็แจ้งลาออกทั้งพี่ทั้งน้องในเดือนเดียวกัน แต่เพราะของคนน้องมีแค่ตามเก็บงาน สถานะพนักงานจึงพ้นสภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ค่าจ้างของเดือนสุดท้าย ส่วนของคนพี่ เพราะเป็นงานเอกสาร จึงต้องส่งงานต่อ จึงตกลงว่าจะทำอีก 1 เดือน ซึ่งก็หมายความว่าสิ้นเดือนนี้คือหมดสภาพพนักงานของทั้งคู่แล้ว แต่เพราะในระหว่างที่ยังมีสถานะพนักงานของคนพี่ ก็ตามเก็บงานให้คนน้องจนเสร็จ และก็กินเวลาจนเกือบจะสิ้นเดือนของอีกเดือน พอน้องขู่จะทำร้ายร่างกาย ก็เลยโทรบอกคนพี่ว่าไม่ทำแล้วนะคะ เพราะไม่ปลอดภัยแล้ว (สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะ คนพี่กับคนน้องอยู่บ้านระแวกใกล้กัน เขาพูดคุยติดต่อกัน แม้คนพี่จะบอกว่าทำกับเขาปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถมั่นใจได้เลย ก็เลยแจ้งลาออกทันที) ส่วนงานที่ค้าง บางส่วนได้ส่งมอบงานให้เรียบร้อยแล้ว วันที่แจ้งออกก็แจ้งรายละเอียดที่ค้างให้ทั้งหมด และงานเอกสารที่ทำ (คือเก็บบิลบันทึกรายรับรายจ่าย โดยรวมคืองานธุรการบัญชี) การออกก่อนด้วยเหตุผลแบบนี้ ไม่น่าสร้างความเสียหายให้บริษัทได้อย่างแน่นอน
แต่ทุกอย่างกลับกลับกลอก
เมื่อวานคนพี่บอกว่าโอเค เข้าใจ กลับไปพักผ่อนให้สบาย จะจ่ายเงินเดือนให้วันพรุ่งนี้นะ รวมทั้งเงินค้างจ่ายส่วนของน้องสาวด้วย ตกลงทุกอย่างอย่างดิบดีหมด แต่กลายเป็นว่าวันต่อมา แทนที่จะได้เงินเดือน ได้เป็นคำด่า จิกกัด บอกไม่มีวุฒิภาวะ ไม่ส่งงาน ไม่เคลียร์งานให้เสร็จ จะฟ้องข้อหาทำบริษัทเสียหาย แล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินที่ค้าง
ตอนนี้ สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ทั้งสองพี่น้องต้องการให้อ่อนข้อไปขอโทษ แต่คิดว่าจะไม่มีวันทำ เพราะถึงจะทำไม่ถูกที่ออกก่อนสิ้นเดือน แต่ทุกอย่างได้รับการยินยอมแล้วอย่างชัดเจน (ในการแจ้งออกไม่มีการเซ็นออกหรืออย่างไรนะคะ เพราะเป็นบริษัทเล็ก สัญญาจ้างงานยังไม่มีเลย แต่ทางบริษัทส่งประกันสังคมและหักภาษีทุกเดือน เขาเลยเอาข้อนี้มาอ้างว่าไม่มีสัญญาจ้างงาน ก็เลยจะไม่จ่ายเงินที่ค้างไว้)
ในสถานการ์แบบนี้ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรดีคะ
โดนเจ้านายข่มขู่ทำร้ายร่างกายและไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง
พอแจ้งลาออกแล้ว พ้นสภาพแล้ว เจ้าของร้านก็ยังเซ้าซี้ บอกยังเคลียร์งานช่างไม่จบ จะไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง จขกท ก็ยอมไปเคลียร์งานช่างให้เสร็จตามที่ขอ จนเลยเวลามาเกือบสิ้นเดือนถัดไปหลังจากพ้นสภาพพนักงานของเขาแล้ว พอส่งงานทั้งหมดเสร็จแล้ว ก็แจ้งยอดเงินที่ค้างจ่าย แต่เจ้าของร้านกลับไม่ยอมจ่าย บอกทำงานไม่ได้เรื่อง จะเอาแต่เงิน และไม่ยอมจ่าย แต่ จขกท ก็ไม่ยอม บอกเงินค่าจ้างต้องจ่ายค่ะ แกก็สวนมาว่า งานยังไม่เสร็จ ไม่จ่าย ซึ่งงานที่ว่าคืองานที่แกสั่งเพิ่มหลังจากออกจากงานแล้ว ก็เลยบอกแกไปว่า ไม่ทำค่ะ เพราะงานนี้เป็นงานหลังแจ้งลาออกแล้ว พอได้ยินแบบนั้น แกก็โมโหไม่พอใจ แล้วก็ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย บอกจะเอาให้หนักกลับบ้านเกิดไม่ได้เลย ระวังไว้นะ
เล่าอีกส่วนที่เชื่อมโยงมาอีกหนึ่งปัญหา
เจ้าของร้านมีพี่สาวคนหนึ่ง ตอนที่ทำงานให้เจ้าของร้านก็ทำงานเอกสารให้พี่สาวด้วย พอเกิดเรื่องที่เริ่มไม่โอเค ก็แจ้งลาออกทั้งพี่ทั้งน้องในเดือนเดียวกัน แต่เพราะของคนน้องมีแค่ตามเก็บงาน สถานะพนักงานจึงพ้นสภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ค่าจ้างของเดือนสุดท้าย ส่วนของคนพี่ เพราะเป็นงานเอกสาร จึงต้องส่งงานต่อ จึงตกลงว่าจะทำอีก 1 เดือน ซึ่งก็หมายความว่าสิ้นเดือนนี้คือหมดสภาพพนักงานของทั้งคู่แล้ว แต่เพราะในระหว่างที่ยังมีสถานะพนักงานของคนพี่ ก็ตามเก็บงานให้คนน้องจนเสร็จ และก็กินเวลาจนเกือบจะสิ้นเดือนของอีกเดือน พอน้องขู่จะทำร้ายร่างกาย ก็เลยโทรบอกคนพี่ว่าไม่ทำแล้วนะคะ เพราะไม่ปลอดภัยแล้ว (สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะ คนพี่กับคนน้องอยู่บ้านระแวกใกล้กัน เขาพูดคุยติดต่อกัน แม้คนพี่จะบอกว่าทำกับเขาปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถมั่นใจได้เลย ก็เลยแจ้งลาออกทันที) ส่วนงานที่ค้าง บางส่วนได้ส่งมอบงานให้เรียบร้อยแล้ว วันที่แจ้งออกก็แจ้งรายละเอียดที่ค้างให้ทั้งหมด และงานเอกสารที่ทำ (คือเก็บบิลบันทึกรายรับรายจ่าย โดยรวมคืองานธุรการบัญชี) การออกก่อนด้วยเหตุผลแบบนี้ ไม่น่าสร้างความเสียหายให้บริษัทได้อย่างแน่นอน
แต่ทุกอย่างกลับกลับกลอก
เมื่อวานคนพี่บอกว่าโอเค เข้าใจ กลับไปพักผ่อนให้สบาย จะจ่ายเงินเดือนให้วันพรุ่งนี้นะ รวมทั้งเงินค้างจ่ายส่วนของน้องสาวด้วย ตกลงทุกอย่างอย่างดิบดีหมด แต่กลายเป็นว่าวันต่อมา แทนที่จะได้เงินเดือน ได้เป็นคำด่า จิกกัด บอกไม่มีวุฒิภาวะ ไม่ส่งงาน ไม่เคลียร์งานให้เสร็จ จะฟ้องข้อหาทำบริษัทเสียหาย แล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินที่ค้าง
ตอนนี้ สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ทั้งสองพี่น้องต้องการให้อ่อนข้อไปขอโทษ แต่คิดว่าจะไม่มีวันทำ เพราะถึงจะทำไม่ถูกที่ออกก่อนสิ้นเดือน แต่ทุกอย่างได้รับการยินยอมแล้วอย่างชัดเจน (ในการแจ้งออกไม่มีการเซ็นออกหรืออย่างไรนะคะ เพราะเป็นบริษัทเล็ก สัญญาจ้างงานยังไม่มีเลย แต่ทางบริษัทส่งประกันสังคมและหักภาษีทุกเดือน เขาเลยเอาข้อนี้มาอ้างว่าไม่มีสัญญาจ้างงาน ก็เลยจะไม่จ่ายเงินที่ค้างไว้)
ในสถานการ์แบบนี้ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรดีคะ